จัดอันดับ 25 ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ - RANKED

  • ซีรีย์ที่จัดอันดับกุนซือที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
  • ผู้จัดการทีม คือตำแหน่งที่แทจะสำคัญที่สุดที่ต้องรับผิดชอบในการพาทีมบรรลุเป้าหมาย
  • นับถอยหลัง 25 อันดับกับเทรนเนอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก

facebooktwitterreddit

อัไรที่ขึ้นชื่อว่าที่สุดในโลกนั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดอันดับให้ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่แน่นอนว่านี่แหละคือความสนุกของฟุตบอลกับการมานั่งจับเข่าคุยและถกเถียงกันว่าใครเหนือกว่าใคร

ในวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย ผู้จัดการทีม ถือว่ามีอิทธิพลอย่างยิ่งที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการต่างๆ และต่อยอดสร้างรากฐานไปยังอนาคต และวันนี้เราจะพาไปพบกับสุดยอดเทรนเนอร์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดกับ..

จัดอันดับ 25 ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้


25. ปีเตอร์ บอสซ์

แม้จะทำผลงานได้ไม่ดีนักกับหลายสโมสรเก่าที่ผ่านๆมา แต่ปัจจุบัน บอสซ์ วัย 60 ปี กำลังจะพา พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น คว้าแชมป์เอเรเดวิซีลีก ฮอลแลนด์ และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ เจ้าตัวพาทีมปราชัยในลีกไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น

Dutch EredivisiePSV Eindhoven v Vitesse Arnhem
Dutch EredivisiePSV Eindhoven v Vitesse Arnhem / ANP/GettyImages

24. ชาบี เฮอร์นันเดซ

อดีตกองกลางระดับตำนานของทีมชาติสเปน พา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้อย่างน่าประทับใจเมื่อซีซันที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่ในปีนี้ ชาบี ไม่สามารถต่อยอดความสำเร็จได้ และกำลังจะอาลำถิ่น คัมป์ นู หลังจบฤดูกาล

Xavi Hernandez
FC Barcelona v Paris Saint-Germain: Quarter-final Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Jean Catuffe/GettyImages

23. จาน ปิเอโร กาสเปรินี

กาสเปรินี เป็นโค้ชที่อยู่ในวงการฟุตบอลแดนมะกะโรนีมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับความชื่นชมมากนัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำกับที่มีงบประมาณการทำทีมจำกัดอย่าง อตาลันต้า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวสมควรได้รับเครดิตเต็มๆ

Gian Piero Gasperini
AC Monza v Atalanta BC - Serie A TIM / Pier Marco Tacca/GettyImages

22. รูเบน อโมริม

อโมริม เป็นหนึ่งในกุนซือสายเลือดใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมาก และในวัยเพียง 39 ปี เขากำลังจะพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส สมัยที่ 2 ในปีนี้ ซึ่งการตกเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ ลิเวอร์พูล ในปีหน้า ก็บ่งบอกความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี

Ruben Amorim
Sporting CP v Vitoria Guimaraes - Liga Portugal Bwin / Carlos Rodrigues/GettyImages

21. โรแบร์โต เด แซร์บี

เด แซร์บี เข้ามาสานต่อรากฐาน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ เกรแฮม พอตเตอร์ วางไว้ในถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดียม ได้อย่างยอดเยี่ยม และช่วยให้พลพรรค “นกนางนวล” เข้าไปเล่นในฟุตยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้สำเร็จ โดยเวลานี้ เจ้าตัวกำลังได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค

Roberto De Zerbi
Burnley FC v Brighton & Hove Albion - Premier League / Gareth Copley/GettyImages

20. เอริค เทน ฮาก

ฤดูกาลแรกของ เทน ฮากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าประทับใจมากหลังจากพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และคว้าตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ แต่ผลงานในปีนี้ โค้ชชาวดัตช์ กำลังพา “ปีศาจแดง” เจอวิกฤตฟอร์มไม่สม่ำเสมออย่างหนัก

Erik ten Hag
Coventry City v Manchester United - Emirates FA Cup Semi Final / Mike Hewitt/GettyImages

19. มิเชล

เทรนเนอร์ชาวสเปน วัย 48 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานได้ร้อนแรงที่สุดในยุโรปในเวลานี้ หลังจากพา คิโรน่า ทำผลงานได้อย่างเหนือความคาดหมายด้วยการรั้งอันดับ 3 ของศึก ลา ลีกา และขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา รวมถึง แอตเลติโก มาดริด ได้อย่างสูสี

Miguel Angel Sanchez 'Michel'
Girona FC v Getafe CF - LaLiga Santander / Alex Caparros/GettyImages

18. จูเลียน นาเกิลส์มันน์

นาเกลส์มันน์ ได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรมนักที่ บาเยิร์น แต่พรสวรรค์ที่มีก็ทำให้เจ้าตัวได้ขยับไปคุมทีมชาติเยอรมัน และในวัยเพียง 36 ปี เขากำลังจะพาพลพรรค “อินทรีเหล็ก” ทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Germany v Netherlands - International Friendly
Germany v Netherlands - International Friendly / Mika Volkmann/GettyImages

17. หลุยส์ เอ็นริเก้

เอ็นริเก้ ได้รับมอบหมายให้พา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก้าวไปสู่ยุคใหม่หลังหมดยุคซุเปอร์สตาร์อย่าง เนย์มาร์, ลิโอเนล เมสซี และล่าสุด คิเลียน เอ็มบับเป้ ที่กำลังจะอำลาสโมสร และโค้ชชาวสเปน ก็แสดงให้เห็นว่า เขามีฝีมือมากพอในการถ่ายเลือด เปแอสเช ได้สำเร็จ

Luis Enrique
Paris Saint-Germain v Olympique Lyonnais - Ligue 1 Uber Eats / BSR Agency/GettyImages

16. มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี

อัลเลกรี วัย 56 ปี เป็นคนคุ้นเคยของแฟนบอล ยูเวนตุส มานานแล้วหลังจากทำงานกับทีมถึง 2 ช่วงเวลา และเคยพาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา ได้ถึง 5 สมัย แต่น่าเสียดายที่ในปีนี้ เจ้าตัวไม่สามารถพา “ม้าลาย” เบียดลุ้นแชมป์กับ อินเตอร์ มิลาน ได้

Massimiliano Allegri
SS Lazio v Juventus FC: Semi-final Second Leg - Coppa Italia / Image Photo Agency/GettyImages

15. อันจ์ โปสเตโคกลู

แม้จะเข้ามากุมบังเหียน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นปีแรก แต่โค้ชชาวออสเตรเลีย ก็เปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่นของพลพรรค “ไก่เดือยทอง” ให้กลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยคุณภาพ ซึ่งน่าสนใจว่าในปีที่ 2 โปสเตโคกลู จะพาทีมไปได้ไกลเพียงใด

Ange Postecoglou
Tottenham Hotspur v Nottingham Forest - Premier League / Mike Hewitt/GettyImages

14. โธมัส ทูเคิ่ล

ทูเคิ่ล จะไม่ได้เป็นผู้จัดการทีม บาเยิร์น อีกต่อไปแล้ว หลังจากมีปัญหาภายในสโมสรมากมาย แต่สิ่งที่เขาทำกับพลพรรค “เสือใต้” ในช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่งนั้น ก็ไม่สามารถมองคุณภาพของเจ้าตัวได้เลยแม้แต่น้อย

Thomas Tuchel
1. FC Union Berlin v FC Bayern München - Bundesliga / Luciano Lima/GettyImages

13. ซีเนดีน ซีดาน

อันดับ 13 อาจจะสูงไปสักหน่อยสำหรับผู้จัดการทีมที่ตกงานมาตั้งแต่ปี 2021 แต่ก็ยังมีโค้ชไม่มากนักที่จะพูดได้ว่าพวกเขาเคยคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ 3 สมัย โดยมีสโมสรมากมายที่อยากได้ตัว ซีดาน ไปร่วมงานด้วย แต่ดูเหมือนว่า ตำนานจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส กำลังรอโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่จะกลับยืนข้างสนามอีกครั้ง

Luka Sabbat, Zinédine Zidane, Véronique Zidane, Anne Watanabe
Amiri : Photocall - Paris Fashion Week - Menswear Fall/Winter 2024-2025 / Pierre Suu/GettyImages

12. สเตฟาโน ปิโอลี

หลังจากไร้แชมป์ลีกมาอย่างยาวนาน ปิโอลี ก็ทำให้ เอซี มิลาน ได้สัมผัสแชมป์สคูเด็ตโตอีกครั้งในซีซัน 2021-2022 และเจ้าตัวยังพา “รอสโซเนรี” ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ว่าต้องตกรอบด้วยฝีมือของ อินเตอร์ คู่อริตลอดกาล

Stefano Pioli
AC Milan v FC Internazionale - Serie A TIM / Francesco Scaccianoce/GettyImages

11. ดิดิเยร์ เดชองส์

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการคุมทีมชาติฝรั่งเศสเป็นเรื่องยากเสมอ แต่ เดส์ชองส์ แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาสุดยอดแค่ไหน หลังจากพาพลพรรค “ตราไก่” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2018 และเข้าถึงรอบชิงฯ ในอีก 4 ปี ต่อมา แ

Didier Deschamps
France v Chile - International Friendly / Catherine Steenkeste/GettyImages

10. ลิโอเนล สกาโลนี

สกาโลนี เป็นกุนซือทีมชาติอาร์เจนตินาคนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ปี 1986 โดยเอาชนะฝรั่งเศส ของ เดชองส์ ในรอบชิงชนะเลิศ ปี 2022 และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ในวัย 45 ปี เจ้าตัวไม่เคยคุมทีมระดับสโมสรเลยแม้แต่ครั้งเดียว

Lionel Scaloni
Argentina v Costa Rica - International Friendly / Gustavo Pagano/GettyImages

9. ชาบี อลอนโซ่

บุคคลผู้ปฏิวัติ ที่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อลอนโซ่ เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2022 ในช่วงที่ “ห้างขายยา” ยังอยู่ในโซนตกชั้น แต่เข้าใช้เวลาเพียงปีเดียวในการพาทีมกลับมาคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา และยังไม่พบกับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่เกมเดียวรวมทุกรายการในซีซันนี้

Xabi Alonso
Borussia Dortmund v Bayer 04 Leverkusen - Bundesliga / Christof Koepsel/GettyImages

8. ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ

สปัลเล็ตติ พส นาโปลี คว้าแชมป์ลีกแรกในรอบ 33 ปีของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย และตอนนี้ เจ้าตัวก็ก้าวมารับงานใหญ่ด้วยการคุมทีมชาติอิตาลี ซึ่งเป็นการทำงานในระดับนานาชาติครั้งแรกอีกด้วย

Luciano Spalletti
Ecuador v Italy - International Friendly / Claudio Villa/GettyImages

7. อูไน เอเมรี่

เทรนเนอร์จอมแท็คติคชาวสเปน ทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมกับ แอสตัน วิลล่า ด้วยการพารทีมรั้งอันดับ 4 ในตารางคะแนน และมีโอกาสสูงที่จะคว้าตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้า นอกจากนี้ เอเมรี ยังทำให้ วิลล่า กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งเกมรับ และเกมรุก

UEFA Conference League 2023/24Lille OSC - Aston Villa
UEFA Conference League 2023/24Lille OSC - Aston Villa / ANP/GettyImages


6. ดิเอโก้ ซิเมโอเน่

ทุกครั้งที่คุณคิดว่าการคุมทีมของ ซิเมโอเน่ ที่ แอตฯ มาดริด เดินไปในทางที่ดีแล้ว แต่โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ ยังหาวิธีแปลกใหม่มาพัฒนาทีมอยู่เสมอ และการคุมทีมระดับสูงในเวลานานกว่าทศวรรษนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผอาชีพผู้จัดการทีม

Diego Simeone
Deportivo Alaves v Atletico Madrid - LaLiga EA Sports / Juan Manuel Serrano Arce/GettyImages

5. มิเกล อาร์เตต้า

หลายคนมองว่า อาร์เตต้า อาจจะเป็นอีกการทดลองที่ล้มเหลวอีกครั้งของ อาร์เซนอล แต่เทรนเนอร์ชาวสเปนค่อยๆ สร้างทีมในแนวทางของตัวเองจนทำให้ “ปืนใหญ่” กลายเป็นทีมระดับท็อป และการลุ้นแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกัน คงบอกถึงศักยภาพของเขาได้เป็นอย่างดี

Mikel Arteta
Wolverhampton Wanderers v Arsenal FC - Premier League / Copa/GettyImages

4. ซิโมน อินซากี

เหตุผลหลักที่ อินเตอร์ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และใกล้จะคว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ในปีนี้ มันเป็นการวางแท็คติคของ และการบริหารทีมของ อินซากี อย่างแท้จริง โดยปัจจุบัน “งูใหญ่” กลายเป็นทีมที่ไม่มีใครอยากจะเผชิญหน้าด้วยแน่นอน

Simone Inzaghi
AC Milan v FC Internazionale - Serie A TIM / Marco Luzzani/GettyImages

3. คาร์โล อันเชล็อตติ

ถ้าในปีนี้ เรอัล มาดริด สามารถคว้าแชมป์ ลา ลีกา หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยมี โฆเซลู เป็นตัวเลือกกองหน้าตัวกลางเพียงตัวเลือกเดียว อันเชล็อตติ ควรจะขึ้นไปยืนเป็นอันดับ 1 อย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

Carlo Ancelotti
Real Madrid CF v FC Barcelona - LaLiga EA Sports / Quality Sport Images/GettyImages

2. เจอร์เก้น คล็อปป์

แฟนบอล ลิเวอร์พูล ยังคงโศกเศร้ากับข่าวที่ว่า คล็อปป์ จะอำลา แอนฟิลด์ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล โดยชาวเยอรมันเป็นคนที่ปฏิวัติทีม “หงส์แดง” อย่างแท้จริง นับตั้งแต่เข้ามาทำงานในปี 2015 และตลอด 9 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมันกลายเป็นตำนานไปแล้ว

Jurgen Klopp
Fulham FC v Liverpool FC - Premier League / Justin Setterfield/GettyImages

1. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ไม่มีโค้ชคนใดในวงการฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากกว่านายใหญ่คนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกแล้ว และสถิติการพาทีมคว้าแชมป์ 1 รายการต่อ 1 ซีซัน จะยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งไม่เกินไปนักที่จะบอกว่า เขาเป็นกุนซือที่ดีที่สุดที่ในปัจจุบัน และอาจจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย

Pep Guardiola
Manchester City v Chelsea - Emirates FA Cup Semi Final / Catherine Ivill - AMA/GettyImages

อ่านบทความเกี่ยวกับ ซีรี่ย์ Welcome to World Class เพิ่มเติมได้ที่นี่