จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน - RANKED

การจะเลือกนักเตะที่ดีที่สุดในโลกแต่ละตำแหน่งนั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดอันดับให้ตรงใจใครหลาย ๆ คน แต่แน่นอนว่านี่แหละคือความสนุกของฟุตบอลกับการมานั่งจับเข่าคุยว่าใครเหนือกว่าใคร

ในวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัยผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกเปรียบเสมือนผู้สร้างสรรค์ และมันสมองของทีมที่คอยทำหน้าที่หาโอกาสทำประตู และเปลี่ยนจากจังหวะทำธรรมดาให้เหนือความคาดหมาย และวันนี้เราจะพาไปพบกับ...

จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน

25, โจนาส ฮอฟมันน์

ตัวรุกอีกคนผูเอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ในฤดูกาลนี้ เล่นร่วมกับทั้ง เวิร์ตซ์ และ โบนิเฟซ ได้อย่างเข้าขา แถมมีทีเด็ดอยู่ที่ลูกเซ็ตเพลย์ที่ทั้งเฉียบขาดและแม่นยำ

24. มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์

เหตุผลหลักที่ทำให้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ยังคงโลดแล่นอยู่ในศึก พรีเมียร์ลีก จนถึง ณ ตอนนี้ มันมาจากฟอร์มการเล่นของ  กิ๊บส์-ไวท์ อย่างไม่มีใครกล่าปฏิเสธ โดยจอมทัพวัย 24 ปี เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในแนวรุกของพลพรรค “เจ้าป่า” อย่างแท้จริง

23. อิสโก้

เพลย์เมกเกอร์ชาวสเปน ไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับ เรอัล มาดริด จากนั้น ก็ย้ายไปค้าแข้งกับ เซบียา แต่ยังเรียกฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในซีซันนี้ อิสโก้ วัย 31 ปี เหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งกับ เรอัล เบติส หลังระเบิดฟอร์มสุดยอดซัดไป 7 ประตู จาก 31 เกมรวมทุกรายการ

22. เอเบเรชี เอเซ

เอเซ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างความตื่นเต้นมากที่สุดให้กับแฟนบอล พรีเมียร์ลีก และจากผลงานที่น่าประทับใจกับ คริสตัล พาเลซ ตลอดหลายปีที่ผ่านนั้น ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

21. คอเนอร์ กัลลาเกอร์

คอนอร์ กัลลาเกอร์ เคยสร้างความประทับใจกับการยืมตัวที่ พาเลซ และดูเหมือนว่า เขาจะปักหลักเดป็นผู้เล่นตัวจริงในทีม เชลซี ได้อย่างถาวรแล้ว นอกจากนี้ ภายใต้การทำงานร่วมกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ดาวเตะเลือดผู้ดี ก็พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด

20. ดานี่ โอลโม

หลังจากระเบิดฟอร์มสุดยอดกับ ดินาโม ซาเกร็บ ในโครเอเชีย โอลโม่ ก็ย้ายไปโชว์ฝีเท้ากับ แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อกลางฤดูกาล 2019/20 และมีบทบาทสำคัญช่วยให้ทีมทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และตอนนี้ในวัย 25 ปี เขากลายเป็นเพลย์เมคเกอร์ตัวหลักของทีมชาติสเปนไปเรียบร้อยแล้ว

19. บราฮิม ดิแอซ

ดิแอซ ทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอระหว่างการยืมตัว 3 ปีที่ เอซี มิลาน โดยลงเล่นไปมากกว่า 100 เกม และในซีซันนี้ ดาวเตะโมร็อกโก กลับมายังต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง มาดริด และยังโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องหลังซัดไป 9 ประตู จาก 35 เกมรวมทุกรายการ

18. จูเลียน บรันดท์

บรันดท์ ชื่อเสียงโด่งดังในศึก บุนเดสลีกา มาเป็นเวลานานแล้ว และถึงแม้จะเป็นตัวริมเส้นธรรมชาติ แต่ดาวเตะเลือดเบียร์ทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับบทบาทกองกลางหมายเลข 10 แถมยังขยับขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าตัวกลางได้อีกด้วย

17. โธมัส มุลเลอร์

แม้จะมีอายุ 34 ปี แต่ มุลเลอร์ ยังเป็นหนึ่งในนักเตะแนวรุกที่โดดเด่นที่สุดในวงการฟุตบอลอยู่เสมอ และความสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง รวมถึงคุณภาพในการจบสกอร์ยังทำให้ แข้งชาวเยอรมัน เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อันตรายที่สุด

16. คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู

ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ช่วยให้ เอ็นกุนคู เป็นหนี่งในกองกลางตัวรุกที่ดีที่สุดสมัยทั้งคู่ร่วมงานกันที่ ไลป์ซิก และหลังจากย้ายมาเล่นกับ เชลซี ดาวเตะเฟรนช์แมน โชคร้ายมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนจนไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ แต่คุณภาพของเขาเป็นสิ่งไม่สามารถมองข้ามไปได้

15. ชาบี ซิมอนส์

หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในลีกฮอลแลนด์ ไซมอนส์ ได้ย้ายไปเล่นกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา จากนั้นจึงย้ายไป ไลป์ซิก แบบยืมตัวเพื่อพัฒนาฝีเท้า และตอนนี้ จอมทัพวัย 20 ปี แสดงให้เห็นแล้วว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของ บุนเดสลีกา

14. ชูเอา เฟลิกซ์

ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก และถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จกับ แอตเลติโก มาดริด หรือช่วงเวลายืมตัวที่ เชลซี แต่ เฟลิกซ์ ไม่เคยสูญเสียความมั่นใจ และกำลังระเบิดฟอร์มสุดยอดกับ บาร์เซโลน่า ในปีนี้

13. เปาโล ดีบาล่า

ดีบาลา ถูกมองว่าเป็นกองหน้าธรรมชาติ แต่สไตล์การเล่นของเขานั้น มักจะลงมาล้วงบอลต่ำ และสร้างสรรค์เกมด้วบตัวเอง โดยเท้าซ้ายอันเฉียบขาด วิสัยทัศน์ และเทคนิคที่สุดยอด ทำให้กุนซือทุกคนต้องเลือกเขาเป็นตัวจริงอยู่เสมอ

12. เจมส์ แมดดิสัน

แมดดิสัน ทำผลงานโดดเด่นตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ซึ่งการย้ายมายัง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในปีนี้ มันทำให้เขายิ่งพัฒนาไปมากกว่าเดิม และเจ้าตัวเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10 แบบดั้งเดิมที่ทีมชาติอังกฤษตามหามาอย่างยาวนาน

11. โมฮัมเหม็ด คูดุส

จอมทัพทีมชาติกาน่า ตกเป็นข่าวพัวพันกับหลายสโมสรทั่วยุโรป ก่อนจะย้ายลงเอยกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบเซอร์ไพรส์ในช่วงซัมเมอร์ก่อน และฟอร์มการเล่นของ คูดุส มันเกินคำว่าคุ้มต่าตัว 32 ล้านปอนด์ ที่ “ขุนค้อน” จ่ายให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปเรียบร้อยแปล้ว

10. ไค ฮาแวร์ตซ์

ฮาแวร์ตซ์ สร้างชื่อในฐานะกองกลางตัวรุกที่มากพรสวรรค์ที่สุดใน บุนเดสลีกา กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลังจากย้ายไป เชลซี เขาถูกขยับมาเล่นเป็นกองหน้า และทำผลงานไม่ดีเท่าที่ควร แต่หลังจากย้ายมาเล่นกับ อาร์เซนอล ในปีนี้ เจ้าตัวได้เล่นบในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ตามถนัด และกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง

9. จูเลียน อัลวาเรซ

อัลวาเรซ ถูกเซ็นสัญญาเข้ามาในฐานะกองหน้าสำรองของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ และเขาก็ดีเกินกว่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองไปตลอด โดยเวลานี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ปรับเปลี่ยนให้ แข้งชาวอาร์เจนไตน์ ถอยมาเล่นในบทบาทกองกลางตัวรุก และมันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีแบบน่าเหลือเชื่อ

8. บรูโน่ แฟร์นันส์

หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดของ แมนฯยูไนเต็ด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เฟอร์นานเดส ย้ายมาจก สปอร์ติง ลิสบอน ในเดือนมกราคม 2020 และซัดไป 15 ประตูจากการลงเล่น 14 นัดในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลดังกล่าว ก่อนจะตะบันไปอีก 18 ประตูในลีกซีซันถัดมา และถึงแม้ผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะตกต่ำ แต่ฟอร์มส่วนตัวของ ดาวเตะฝอยทองก็สมควรได้รับคำชื่นชม

7. ฟลอเรียน เวิร์ตซ์

หลังจากปลุกปั้น ฮาแวร์ตซ์ จนโด่งดัง เลเวอร์คูเซน ก็มีผลผลิตที่สุดยอดจากอคาเดมีอีกรายคือ เวิร์ตซ์ โดยนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาสู่ทมีชุดแรกเมื่อปี 2019 ดาวเตะวัย 20 ปี ก็กลายเป็นคีย์แมนของทีมมาตลอด และได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ดีที่สุดชองวงการฟุตบอลเยอรมันอีกด้วย

6. จามาล มูเซียลา

อังกฤษและเยอรมันต่อสู้กันอย่างเต็มที่เพื่อจะแย่งตัว มูเซียลา ไปเล่นด้วย และสุดท้ายกลายเป็น “อินทรีเหล็ก” ที่ประสบความสำเร็จ โดยดาวเตะวัย 20 ปี สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ บาเยิร์น มิวนิค มาตลอดหลายปี และถูกคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนของ มุลเลอร์ ในอนาคต

5. แบร์นาร์โด้ ซิลวา

มันยากที่จะระบุตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งที่ ซิลวา เล่นได้ดีที่สุด เพราะเขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงกองกลาง และแนวรุก ซึ่งคุณภาพฝีเท้า และความเป็นมืออาชีพของเจ้าตัวนั้น เป็นสิ่งที่ กวาร์ดิโอล่า และแฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” ชื่นชมมาตลอด

4. มาร์ติน โอเดการ์ด

โอเดการ์ด ล้มเหลมกับ มาดริด และต้องตระเวนไปค้าแข้งแบบยืมตัวกับหลายสโมสร แต่หลังจากเลือกย้ายมายัง อาร์เซนอล ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดาวเตะชาวนอร์เวย์ กลายเป็นกัปตันทีม “ปืนใหญ่” และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของสโมสร รวมถึงกำลังพาทีมรั้งจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก ในเวลานี้

3. ฟิล โฟเด้น

กวาร์ดิโอล่า มักจะออกมายกย่อง โฟเด้น อย่เสมอ และเคยประกาศไว้ว่า ต่อให้ได้เงิน 500 ล้านปอนด์ ก็ไม่มีทางปล่อย มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ออกจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นอันขาด และในเวลานี้ เขากลายเป็นสัญลักษณ์ และตำนานของ “เรือใบสีฟ้า” อย่างรวดเร็ว

2. เควิน เดอ บรอยน์

มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนบนโลกที่ผสมผสานความแข็งแกร่ง พลังงาน ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถทางเทคนิคเอาไว้ด้วยกัน แต่ เดอ บรอยน์ คือ นักเตะคนนั้น โดยเพลย์เมคเกอร์ชาวเบลเยียมรายนี้ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ แมนฯ ซิตี้ และเชื่อได้ว่า ไม่มีนักฟุตบอลคนใดที่จะเหมือนเขาอีกแล้ว

1. จู๊ด เบลลิงแฮม

คงไม่มีใครคาดคิดว่า เบลลิงแฮม จะสร้างผลกระทบในทันทีหลังย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปเล่นกับ มาดริด ในซีซันนี้ แต่มิดฟิลด์วันเดอร์คิดทีมชาติอังกฤษ ระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าทึ่ง และน่าจะมีลุ้นรางวัล “บัลลงดอร์” ในวัยเพียง 20 ปี

อ่านบทความเกี่ยวกับ ซีรี่ย์ Welcome to World Class เพิ่มเติมได้ที่นี่

• จัดอันดับ 25 ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 แบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 ปราการหลังตัวกลางที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 มิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
• จัดอันดับ 25 ปีกซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 ปีกขวาที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 กองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับ 25 ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้
• จัดอันดับนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน