ทำไม แมนฯ ซิตี้ ถึงต้องการตัว มาร์ค คูคูเรญา นัก - OPINION
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมายตา มาร์ค คูคูเรญา ปราการหลังของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักประจำตลาดซัมเมอร์นี้ หลังจากที่เพิ่งจะปิดดีลคว้าตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ มาหมาดๆ ท่ามกลางข่าวลือความเป็นไปได้ที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก อาจจะย้ายออกจาก เอติฮัด เพื่อโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ
คูคูเรญา สร้างความประทับใจได้ไม่น้อยเลยในฤดูกาลแรกของตัวเองที่ประเทศ อังกฤษ เมื่อย้ายเข้ามายัง เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม จาก เกตาเฟ่ ด้วยค่าตัวเพียง 15 ล้านปอนด์ก่อนจะถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสร
ไบรท์ตัน เพิ่งจะปล่อยตัว ลูอิส ดังค์, เดล สตีเฟนส์, เอลเลียต เบนเน็ตต์, เลียม บริดคัตต์ และล่าสุดกับ อีฟส์ บิสซูม่า ไปยัง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ - เพราะฉะนั้นพวกเขาคงไม่ต้องการเสียผู้เล่นตัวหลักไปอีกอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าจะผลตอบแทนจะคุ้มค่า ซึ่งว่ากันว่าค่าตัวของแบ็คซ้ายวัย 23 ปี รายนี้สูงถึง 50 ล้านปอนด์ทีเดียว
เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะไปต่อ หรือจะพอแค่นี้ แล้วผู้เล่นคนนี้เขามีดีขนาดนั้นเลยหรือ?
1. รับก็ได้ รุกก็เยี่ยม
คูคูเรญา รั้งอันดับสาม สำหรับฟูลแบ็คที่สร้างโอกาสมากที่สุดในลีกประจำฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเป็นรองเพียงสองแข้ง ลิเวอร์พูล อย่าง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ เท่านั้น
แต่ไม่ใช่ว่าเกมรุกของเขาจะโดดเด่นเพียงอย่างเดียว เพราะจำนวนการเข้าปะทะของเขาก็ยังคงเป็นอันดับที่สามของลีกอีกแล้ว โดยสองคนที่มีจำนวนการเข้าปะทะคู่แข่งมากกว่าเขาก็คือ ไทริค มิทเชล จาก คริสตัล พาเลซ และ สจ๊วร์ต ดัลลาส ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ขณะที่ฟูลแบ็คหลายๆคนมักจะถนัดแค่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่ คูคูเรญา ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเขาไว้ใจได้ยามเป็นฝ่ายตั้งรับหรือขณะที่ทีมมีบอล เขาก็พร้อมจะเดินหน้าไปสร้างความอันตรายให้คู่แข่งอีกเช่นกัน
2. ความสารพัดประโยชน์
ในช่วง 5 เดือนแรกของเขากับ ไบรท์ตัน คูคูเรญา ถูกใช้งานในบทบาทวิงแบ็คในแผนการเล่น 3-5-2 ก่อนที่ในเดือนกุมภาพันธ์ แดน เบิร์น จะย้ายออกไปยัง นิวคาสเซิล ประกอบกับอาการเจ็บของ ดังค์ และ อดัม เว็บสเตอร์
เกรแฮม พอตเตอร์ จึงได้ทดลองให้เขาปรับมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายแทน ตำแหน่งที่เขาไม่เคยเล่นมาก่อนในอาชีพการค้าแข้งเลยแต่เขากลับทำได้ดีมากทีเดียว
คูคูเรญา ได้อิสระในการเติมขึ้นมาเมื่อทีมเป็นฝ่ายบุก บ่อยครั้งเราจึงเป็นเขายืนขึ้นมาสูงเท่ากับมิดฟิลด์ หรือแม้กระทั่งเท่ากับเหล่าตัวรุกอย่างที่เห็นในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เขาเป็นผู้เบิกร่องทำประตูแรกในชัยชนะ 4-0 อย่างท่วมท้าต่อ ราล์ฟ รังนิค
สไตล์การเล่นของเขาสอดคล้องกับรูปแบบการเล่นของฟูลแบ็คของ ซิติ้ เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นหากพวกเขาเลือกควักเงินจำนวน 50 ล้านปอนด์จ่ายไปจริงๆ
กวาร์ดิโอลา จะไม่เพียงแต่ได้ตัวฟูลแบ็คที่ไม่ต้องปรับตัวมากมาเสริมทีมอีกคน แต่เขายังจะได้เซ็นเตอร์แบ็คที่วางบอลดีมาใช้งานยามจำเป็นอีกด้วย
3. อายุ
กับวัยแค่ 23 เขายังพัฒนาได้อีกมากและอันที่จริงแค่จากต้นฤดูกาลมาถึงช่วงท้ายเราก็ได้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องมากขึ้นเพียงใดแล้ว
ยากที่จะเชื่อจริงๆว่านี่เป็นเพียงแค่ปีแรกในลีกที่เขาไม่คุ้นชินแถมยังมีอุปสรรคเรื่องภาษาเข้ามาอีกต่างหาก