เกิดอะไรขึ้นกับ มาร์กซิยาล และการยืมตัวที่ล้มเหลวไปยัง เซบียา ของเขา - OPINION
อองโตนี มาร์กซิยาล เปิดตัวย้ายซบ เซบียา ในวันที่ 25 มกราคม ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมชูนิ้วโป้งสองนิ้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นได้ไม่บ่อยนักตอนที่เขาลงสนามให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ฆูเลน โลเปเตกี เองก็ยอมรับว่ามีความสุขมากที่ได้ตัวแข้งเลือดน้ำหอมรายนี้มาร่วมทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าทั้ง ยูเวนตุส และ บาร์เซโลนา ก็ต้องการตัวเขาไม่แพ้กัน
เซบียา ในตอนนั้นอยู่อันดับ 2 ในตาราง ลาลีกา จากการเก็บชัยได้ 13 นัดและแพ้เพียง 2 จาก 22 เกมลีกแรกของฤดูกาล แต่ก็เพิ่งจะโดนเขี่ยตกรอบ โคปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ลงมาเล่นใน ยูโรปาลีก - รายการโปรดของพวกเขาที่มีสังเวียนนัดชิงเป็นรังเหย้าของสโมสรเสียด้วย
มาร์กซิยาล ได้เดบิวต์ในเกมกับ โอซาซูน่า วันที่ 5 ของเดือนกุมภาพันธ์กับตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า ที่ลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 เมื่อ อีวาน ราคิติช ยิงจุดโทษพลาดในช่วงท้ายเกมอย่างน่าเสียดายและทำให้พวกเขาพลาดโอกาสไล่จี้ เรอัล มาดริด เหลือแต้มเดียว
เกมถัดมากับ เอลเช่ เขาก็ได้เป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่เป็นในบทบาทกองหน้าตัวต่ำ พร้อมทำไปหนึ่งแอสซิสต์ช่วยทีมเก็บชัยชนะมาได้ ตามมาด้วยอีกเกม ซึ่งเป็นเกมที่เขายิงประตูแรกของตัวเองได้กับ ดินาโม ซาเกร็บ ในรอบน็อคเอาท์ของ ยูโรปาลีก
อย่างไรก็ดี โดยรวมใน 10 เกมลีกแรกเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงไป 7 เจ็บ 2 และเป็นสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาอีก 1 โดยที่ไม่สามารถยิงประตูได้เลยและทำแอสซิสต์เพิ่มอีกไม่ได้เช่นกัน แถมไม่เคยได้อยู่ครบ 90 นาทีเลยแม้แต่เกมเดียว
ตัดภาพมาที่เกมแสนสำคัญกับการเปิดบ้านรับการมาเยือนของจ่าฝูง ที่ในเกมดังกล่าว มาร์กซิยาล เจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ ส่วนทีมของเขาก็เป็นฝ่ายปราชัยไปโดยปริยาย
จากหกเกมที่ถัดมา เขาไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีมใน 3 เกมแรก ได้ลงเล่นในช่วง 23 นาทีสุดท้ายกับ มายอร์ก้า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม และหายจากทีมไปอีกในสองเกมถัดมา
ฤดูกาลของพวกเขาจบลงด้วยชัยชนะในบ้านเหนือ แอธเลติก บิลเบา และจบอันดับ 4 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเกมที่เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังต้องเห็นเมืองของพวกเขาคับคั่งไปด้วยแฟนๆ เรนเจอร์ส และ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ห้ำหั่นกันเพื่อยื้อแย่งถ้วยที่เป็นเสมือนของรักของพวกเขา
ในช่วงแรกที่เขาเล่นได้ไม่เอาอ่าวเลย แฟนๆยังคงให้สัมภาษณ์ในแง่บวกว่าอาจเป็นเพราะ มาร์กซิยาล ไม่ค่อยได้ลงเล่นจึงต้องใช้เวลาเรียกความฟิตและหวังจะเป็นเขากลับคืนฟอร์มเก่งของตัวเองได้
"เซบียา เป็นทีมที่คืนฟอร์มนักเตะได้ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ เอเวอร์ บาเนก้า ตอนย้ายจาก บาเลนเซีย มาไง"
แต่สิ่งที่ทำให้ มาร์กซิยาล แตกต่างจาก บาเนก้า หรือคนอื่นๆกคือทัศนคติล้วนๆ - เขาไม่ได้เล่นอย่างเต็มที่ ไม่ได้พยายามผูกมิตรกับเพื่อนร่วมทีมและไม่ได้พยายามทำทุกวิถีทางให้ เซบียา เจรจาเพื่อเซ็นสัญญากับเขาถาวรจาก ยูไนเต็ด
"ไม่มีแม้แต่เกมเดียวเลยที่ผมดูเขาเล่นแล้วคิดว่ามันเป็นดีลที่คุ้มค่าจริงๆและนี่ขนาดว่าต้นสังกัดของเขาช่วยออกค่าเหนื่อยไปบางส่วนด้วยนะ" มาโนโล มาร์ติน พิธีกรวิทยุท้องถิ่นกล่าว
"ท้ายที่สุดเขาก็เป็นแค่อีกดีลยืมตัวที่เราหวังว่ามันจะช่วยทีมได้อย่างกรณีของ ซามีร์ นาสรี, อันเดร ซิลวา หรือ สเตฟาน โยเวติช แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น"
สำหรับสังกัดแม่อย่าง ปีศาจแดง เองก็คงผิดหวังไม่แพ้กันเพราะหากตัวนักเตะทำผลงานได้ดี สโมสรก็จะสามารถเรียกค่าตัวกลับคืนมาได้อยู่บ้าง
แต่ในตอนนี้กับวัย 26 ปีและสัญญาที่เหลืออยู่อีกเพียงปีเดียว และการเข้ามาของ เอริค เทน ฮาก กับฟุตบอลที่เรียกร้องให้ทุกคนในสนามต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเกินร้อยอยู่เสมอ
มันก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่า มาร์กซิยาล อาจจะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ย้ายเข้ามาแพงและเก็บกระเป๋าออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปโดยที่สโมสรไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลย