เกิดอะไรขึ้นกับ เบรนท์ฟอร์ด? จากชัยชนะเหนือ อาร์เซนอล สู่การดิ้นรนหนีตกชั้น - FEATURE
ในช่วงสองสามเดือนแรกของฤดูกาล ไม่มีใครไม่พูดถึงทีมน้องใหม่อย่าง เบรนท์ฟอร์ด หลังจากชัยชนะเหนือ อาร์เซนอล ในเกมนัดเปิดซีซั่น ตามมาด้วยฟอร์มของพวกเขาในเกมกับ วูล์ฟ และ เวสต์แฮม ที่บ่งบอกว่าพวกเขามีคุณภาพที่จะเป็นทีมระดับ พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่แค่ทีมที่แวะมาเล่นเท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาจะแพ้ 1-0 ให้กับ เชลซี ในวันที่ 16 ตุลาคม พวกเขาก็ยังได้รับคำสรรเสริญมหาศาล เพราะทีมของ โธมัส ทูเคิล ซึ่งตอนนั้นเป็นจ่าฝูงของตาราง มีโอกาสยิงเพียง 5 ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด มี 17
แชมป์ ยุโรป ถูกคู่ต่อสู้กดดันจนโงหัวไม่ขึ้นและอันที่จริง เบน ชิลเวลล์ ยังถึงกับบรรยายว่า 20 นาทีสุดท้ายของเกมนั้นเป็นเสมือน 'นรกบนดิน'
พวกเขาเก็บ 12 แต้มจาก 7 เกมแรกและทัศนคติในการเล่นที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเองที่เต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตาม ใน 20 เกมที่ตามมา ทีมของโธมัส แฟรงค์ เก็บแต้มเพิ่มได้อีกแค่เท่าตัวพร้อมกับผลงานที่ถอยหลังลงคลองไม่หยุด
จากชัยชนะ 2-1 ของ เบรนท์ฟอร์ด เหนือ แอสตัน วิลลา เมื่อวันที่ 2 มกราคมทำให้พวกเขาห่างจากโซนตกชั้น 12 คะแนน แต่ตอนนี้มันเหลือแค่ 3 เท่านั้นเอง
ปัญหาใหญ่ของ เบรนท์ฟอร์ด เกิดขึ้นแค่ในช่วง 4 วันเท่านั้นเอง เริ่มจากวันที่ 24 ตุลาคม ดาวิด ราญา นายทวารมือหนึ่งของพวกเขาปะทะกับ อโยเซ เปเรซ จนเจ็บหนักต้องพักยาวถึงสี่เดือน ก่อนจะตามมาด้วยอาการบาดเจ็บของ คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ผู้เล่นใหม่ค่าตัวระดับสถิติสโมสรที่ย้ายมาจาก เซลติก ในเกมบอลถ้วยกับ สโต๊ค ที่กว่าจะฟื้นตัวเต็มร้อยก็ลากยาวมาจนถึงเดือนมกราคมเลย
ในสามเกมถัดไปของ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งพบกับ เบิร์นลีย์, นอริช และ นิวคาสเซิล พวกเขาเสียไป 8 ประตู เท่ากับที่เสียใน 8 เกมก่อนหน้านั้น เพราะการขาดตัวหลักทั้งสองส่งผลต่อเกมรับของทีมอย่างหนัก
หนำซ้ำ มาเธียส “ซานก้า” ยอร์เกนเซน ที่ แฟรงค์ เซ็นฟรีเข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์ก็ดันทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่เข้าไปอีก จน อีธาน พินน็อค จำต้องถูกโยกมาเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด
อัลวาโร แฟร์นันเดซ ที่ถูกยืมตัวมาจาก อูเอสกา ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่ใกล้เคียงกับ ราญา เลยแม้แต่น้อย โดยในการลงเล่น 12 นัด เฟร์นันเดซเสีย 24 ประตูและเก็บคลีนชีตได้เกมเดียว
การตัดสินใจของ เบรนท์ฟอร์ด ในเดือนมกราคมที่จะมอบสัญญาใหม่ให้ แฟรงค์ และผู้ช่วยโค้ช ไบรอัน รีเมอร์ ต่ออยู่กับทีมต่อไปจนถึงฤดูร้อนปี 2025 แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงเชื่อใจในทีมงานเต็มร้อย
เพราะครั้งหนึ่งเมื่อ แฟรงค์ เข้ามารับงานครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2018 เขาแพ้ 8 นัดจาก 10 นัดแรกที่คุมทีม ก่อนที่กุนซือวัย 48 ปีจะเปิดอกพูดคุยกับ โรเมน ซอว์เยอร์ส กัปตันทีมของเขาในขณะนั้นและร่วมกันสร้างความเป็นอันหนึ่งเดียวกันในห้องแต่งตัวจนพลิกสถานการณ์มาได้ดังเช่นทุกวันนี้
เบรนท์ฟอร์ด อาจแพ้ถึง 7 จาก 8 เกมลีกหลังสุด แต่พวกเขาก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี ชะตากรรมของพวกเขาอยู่ในกำมือของตัวเองและพวกเขายังมีโปรแกรมต้องเจอกับทีมที่อันดับต่ำกว่าตัวเองครบทุกทีมระหว่างตอนนี้จนถึงสิ้นฤดูกาล
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับ แฟรงค์ และลูกทีมของเขาแล้ว ว่าจะสามารถผ่านสถานการณ์ที่ยากเข็ญเช่นนี้ไปได้หรือไม่