ยุคมืดของ บาร์เซโลนา ในฤดูกาล 02/03 - FEATURE

Barcelona coach Louis Van Gaal
Barcelona coach Louis Van Gaal / Shaun Botterill/Getty Images
facebooktwitterreddit

หลังจากหลายปีของการบริหารที่ผิดพลาด บาร์เซโลนา จำต้องใช้เวลาช่วงฤดูร้อนในการตัดภาระค่าใช้จ่ายของพวกเขาอย่างมากโดยการลดจำนวนผู้เล่นและโน้มน้าวให้คนที่อยู่ต่อยอมรับค่าแรงที่ต่ำลง

และแม้จะมีค่าเหนื่อยต่อปีที่ต่ำกว่า วัตฟอร์ด ทีมน้องใหม่ใน พรีเมียร์ลีก แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ ลิโอเนล เมสซี ต้องย้ายออกจากสโมสร

อย่างไรก็ดี นี่อาจจะไม่ใช่ยุคที่ย่ำแย่ที่สุดของสโมสรก็เป็นได้ เพราะเมื่อเกือบสองทศวรรษที่แล้ว ภายใต้น้ำมือของ หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาเคยเจอฤดูกาลที่แสนจะขมขื่นยิ่งกว่านี้เสียอีก

แม้จะเคยคว้าแชมป์ ลาลีกา 2 สมัย แต่ด้วยอัตราการชนะเพียง 55% และความล้มเหลวในการชูถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก กับทีมที่คับคั่งไปด้วยสตาร์เขาจึงจำต้องอำลาสโมสรไปในปี 2000

หลังจากซีซั่นที่ไร้ถ้วยภายใต้การคุมทีมของ โลเรนซ์ เฟร์เร - หลุยส์ ฟาน กัล ก็ได้โอกาสกลับมายัง คัมป์ นูเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูร้อนปี 2002

Rivaldo
Rivaldo / Getty Images/Getty Images

และผลงานแรกของเขาเมื่อเขากลับมาคือการตัดสินใจปล่อยตัว ริวัลโด้ ผู้เล่นอันเป็นที่รักของแฟนๆทั้งๆที่สัญญาเหลืออีกหนึ่งปี ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการสร้างความประทับใจแรกพบที่แย่เอามากๆ

“ฟาน กัล คือสาเหตุหลักของการจากไปของผม ผมไม่ชอบเขาและแน่ใจว่าเขาไม่ชอบผมเช่นกัน” อดีตแข้ง แซมบ้า เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ กล่าว

“เขาขาดความมุ่งมั่นกับสโมสร เขาแค่สนใจที่จะทำเงินได้มากขึ้นและเล่นให้น้อยลง” ฟาน กัล ตอบโต้ “เขาเล่นให้ บราซิล เหมือนกับที่เราอยากจะให้เขาทำที่ บาร์เซโลนา และเขาได้พิสูจน์เรื่องนี้ใน ฟุตบอลโลก รอบ มันชัดเจนว่าเขาออมแรงไว้สำหรับทัวร์นาเม้นต์ที่ ญี่ปุ่น”

ริวัลโด้ มีฤดูกาลที่ไม่ค่อยสวยนักก่อนจะไปเล่นให้กับทีมชาติ โดยเขาทำประตูไปได้ 13 ลูกในฤดูกาล 2001/02 ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อ 4 ปีก่อน

Juan Roman Riquelme of Barcelona
Juan Roman Riquelme of Barcelona / David Rogers/Getty Images

สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ง่ายขึ้นเลย - ความพ่ายแพ้ในช่วงต้นต่อ เรอัล เบติส และ บาญาโดลิด ส่งผลให้ บาร์เซโลนา ร่วงลงไปอยู่ในครึ่งล่างของตารางตั้งแต่ในช่วงกลางเดือนตุลาคม

ความปราชัยอีก 4 ครั้งก่อน คริสต์มาส ทำให้ทีมของ ฟาน กัล กลายเป็นีมที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างเต็มตัวและไม่มีอะไรแสดงให้เห็นความหายนะที่เกิดขึ้นได้ดีไปกว่าชะตากรรมขอ งฮวน โรมัน ริเกลเม

บาร์เซโลนา คาดหวังสิ่งที่ยิ่งใหญ่จาก ริเกลเม หลังจากจ่ายเงิน 11 ล้านยูโรในเดือนพฤศจิกายน 2002 แต่ฟาน กัล กลับแสดงออกว่าไม่ชอยเพลย์เมคเกอร์รายนี้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเข้ามา เขาระบุว่านี่คือการ 'เซ็นสัญญาทางการเมือง' และใช้งาน ริเกลเม น้อยมากแถมยังจับเขาไปเล่นตำแหน่งปีกที่ไม่ถนัดอีกต่างหาก

เมื่อฟอร์มในลีกไม่กระเตื้อง หลังพ่ายต่อ เซลตา บีโก ในเดือนมกราคม สโมสรก็ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยการปลดเขาออกจากตำแหน่ง โดยที่ บาร์เซโลนา มีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนนเท่านั้น

“เขาเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังจากได้ยินข่าว และทันใดนั้น เขาก็ร้องไห้เหมือนเด็กทารก” ฟิลลิปเป้ คริสตันวัล ปราการหลังเล่าให้สื่อฟังเมื่อหลายปีก่อน

“เขารู้สึกเจ็บปวดจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกไปด้วยการเห็นเขาร้องไห้ ทั้งๆที่เขาเป็นคนแข็งกระด้าง"

ราโดเมียร์ อันติช อดีตกุนซือ เรอัล มาดริด ถูกจ้างเข้ามาพร้อมกับข้อเรียกร้องง่ายๆในการช่วยทีมให้รอดจากการตกชั้นเท่านั้น และก็เป็นเขานี่แหละที่ดัน บิลตอร์ บัลเดส และ อันเดรียส อิเนสต้า ขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่

นอกจากนี้ เขายังปรับบทบาทมิดฟิลด์อีกคนขึ้นไปเล่นสูงขึ้นในสนาม และให้เขาลดความรับผิดชอบในเกมรับลงเพื่อจะได้แสดงความสามารถในการสร้างสรรค์เกมออกมาได้อย่างเต็มที่ ชื่อของผู้เล่นคนนั้นคือ ชาบี

ฟอร์มของสโมสรค่อยๆ ดีขึ้น ความกังวลเรื่องการตกชั้นหายไป และสามารถเบนเป้าไปที่ถ้วย ยุโรป ได้อย่างเต็มตัว ก่อนที่จะไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศและถูกเขี่ยตกรอบออกมาด้วยน้ำมือของ ยูเวนตุส แบบสมน้ำสมเนื้อ

บาร์ซา เก็บ 19 แต้มจาก 8 นัดสุดท้ายใน ลาลีกา จบอันดับ 6 และคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่าคัพ ในปีต่อไป

มันอาจฟังดูไม่เหมือนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ อันที่จริงมันเป็นอันดับในลีกที่แย่กว่าที่สุดในรอบ 15 ปีเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงสภาพของทีมในเดือนมกราคมของปี 2003 ผลงานของ อันติช ก็นับว่าดีเกินคาดแล้ว

แน่นอน ลาลีกา เป็นลีกที่แข็งแกร่งกว่านี้ในตอนนั้น เรอัล มาดริด ก็ยอดเยี่ยม บาเลนเซีย ของ ราฟา เบนิเตซ ก็ไม่ธรรมดา เซลตา บีโก และ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ก็ประมาทไม่ได้เลย ในขณะที่ เรอัล โซเซียดัด ก็ขับเคลื่อนโดยมี นิฮัต คาห์เวซี เป็นอาวุธหนัก

Barcelona's new Brazilian soccer star Ro
Barcelona's new Brazilian soccer star Ro / JOSE JORDAN/Getty Images

ฤดูร้อนปี 2003 โจน ลาปอร์ต้า ได้รับเลือกเป็นประธานและแต่งตั้ง แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่

ด้วยแรงผลักดันจาก โรนัลดินโญ คนใหม่ ทำให้ บาร์ซา กลับมาจบอันดับที่ 2 ในปีถัดไปและคว้าแชมป์ลีกกับ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ภายในสองฤดูกาลถัดไป

ทั้งหมดนี้ดูไม่น่าเป็นไปได้ในต้นปี 2003 แต่บางทีสโมสรอาจจำเป็นต้องถึงจุดต่ำสุดก่อนที่จะถีบตัวขึ้นมากลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด