อาร์เซนอล: จากวิกฤตสู่ท็อปโฟร์ เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างนั้น - FEATURE

Watford v Arsenal - Premier League
Watford v Arsenal - Premier League / Julian Finney/GettyImages
facebooktwitterreddit

อาร์เซนอล ออกสตาร์ทฤดูกาลอย่างย่ำแย่ด้วยการแพ้ไปทั้งสามเกมแรก โดยที่เสียถึง 9 ประตูและยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆไต่ระดับมาอย่างช้าๆจนมาสู่ท็อปโฟร์ได้ในที่สุด

แต่อะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างนั้นกันที่ทำให้ผลงานของทีมเปลี่ยนไปได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นที่เห็นในตอนนี้


แนวรับ

Takehiro Tomiyasu, Ben White
Arsenal v Crystal Palace - Premier League / Catherine Ivill/GettyImages

พาโบล มารี, คัลลัม แชมเบอร์ส และ เซอัด โคลาซินัช ลงเล่นในสามเกมแรกนั้น ก่อนที่แต่ละคนจะได้ลงเล่นให้กับทีมอีกสองเกมและถูกปล่อยตัวออกไป

ขณะที่ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ยังอยู่ที่ โบโลญญา เบน ไวท์ พลาดไปสองจากสามเกมเพราะ​ โควิด-19 กาเบรียล ยังไม่ฟิตจากอาการบาดเจ็บที่เข่าในช่วงซัมเมอร์ และมีเพียง คีแรน เทียร์นีย์ คนเดียวที่ลงเป็นตัวจริงทั้งสามเกม

เมื่อ แอรอน แรมส์เดล ลงเล่นพร้อมกับแบ็คโฟร์ชุดที่ดีที่สุด ผลงานของทีมก็ดีขึ้นทันตาจากการเก็บได้สองคลีนชีตและเสียเพียงหนึ่งประตูในสามเกมลีกของพวกเขา

นายประตูที่ครั้งหนึ่งเคยถูกหยามว่าย้ายไปไหนต้นสังกัดก็ตกชั้น เป็นกำลังสำคัญให้ทีมทั้งในแง่ของการป้องกันประตูไปจนถึงการเป็นตัวเริ่มต้นเกมบุกของทีมได้อีกด้วย

การผ่านบอลของเขา 55% เป็นการสาดบอลยาวขึ้นหน้า ซึ่งมากกว่า เลโน ที่คิดเป็น 34% จากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งส่วนมากเป็นการสาดไปตรงกลางซึ่งเป็นจุดที่ อาร์เซนอล สร้างโอกาสได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้

กองกลาง

Martin Odegaard
Watford v Arsenal - Premier League / Alex Pantling/GettyImages

สืบเนื่องจากข้างต้นเกี่ยวกับเกมบุกจากแดนกลาง ที่ดูจะเป็นโฟกัสใหม่ในการเล่นเกมรุกของ อาร์เตต้า เมื่อเทียบจากฤดูกาลที่แล้วที่กว่า 38% ของโอกาสที่สร้างได้จะมาจากฝั่งซ้ายและเปิดเข้ากลางเป็นส่วนใหญ่จนทำให้คู่แข่งจับทางได้หมดแล้ว

และอันที่จริงในสามเกมแรกมันก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่เมื่อ กรานิต ชาก้า จ่ายบอลให้ เทียร์นีย์ ในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด เกมเดียวถึง 25 ครั้ง

ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปด้วยการประสานงานกันของ สมิธ-โรว, โอเดการ์ด และ บูคาโย ซาก้า ที่ต่างก็มีบทบาทต่างกันออกไป

เมื่อพวกเขาเล่นร่วมกัน สมิธ-โรว มักจะเป็นตัวสอดไปทำประตู ขณะที่ ซาก้า จะประจำการที่ริมเส้นและหุบเข้ามาข้างในเพื่อสร้างโอกาสร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด ได้อย่างลงตัว

โดยที่จนถึงตอนนี้ 48% ของโอกาสที่สร้างได้จะมาจากตรงกลางล้วนๆ

แนวรุก

Pierre-Emerick Aubameyang, Alexandre Lacazette
Arsenal v Aston Villa - Premier League / Richard Heathcote/GettyImages

เกมรุกเป็นจุดที่ดีขึ้นถนัดตา เมื่อ โอบาเมยัง ที่ฟอร์มตกจนน่าเกลียดได้ย้ายออกไป บาร์เซโลนา พร้อมคืนฟอร์มได้สำเร็จ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเขาเองอยู่แล้ว

ในขณะที่อดีตสังกัด เมื่อตัวเขาถูกแทนที่ด้วย ลากาแซตต์ เกมรุกก็ดูไหลลื่นขึ้นเมื่อหอกชาว ฝรั่งเศส ยินดีที่จะรับบทพระรองคอยเชื่อมเกมให้ดาวรุ่งทั้งหลายทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะรูปแบบการเข้าทำของ อาร์เซนอล เองก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เราจะเห็น โอบาเมยัง คอยเพรสซิ่งอย่างไม่ลดละแต่ไร้คนคอยมาช่วย สู่การถอยลงมาของอดีตกองหน้า ลียง ในแดนกลางเพื่อเพิ่มโอกาสชิงบอลกลับมาก่อนจะถึงทีปั้นเกมสวนกลับไปบ้าง