รู้จักกับเจ้าหนู ชาร์ลี ซาเวจ ดาวรุ่ง แมนยู ที่เพิ่งได้ประเดิมสนามไปหมาดๆในเกมกับ ยัง บอยส์ - Player Profile
ในขณะที่ ร็อบบี้ ซาเวจ ไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสัมผัสฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลยแม้แต่เกมเดียว แต่ล่าสุด ชาร์ลี ลูกชายของเขาได้ทำทั้งสองอย่างพร้อมกันขณะที่มีอายุเพียง 18 ปี เท่านั้น
ซาเวจ ผู้เป็นลูกถูกส่งลงมาซึมซับบรรยากาศแทน ฆวน มาต้า ในช่วงท้ายเกม ขณะที่พ่อของเขารับหน้าที่ผู้บรรยายในเกมดังกล่าวของช่อง บีที สปอร์ต
ชาร์ลี ไม่ควรถูกมองว่าเป็นแค่ "ลูกชายของ ร็อบบี้ ซาเวจ" เพราะเจ้าหนูคนนี้ใช้ทั้งพรสวรรค์และพรแสวงบากบั่นไต่ระดับขึ้นมาจากอคาเดมีของสโมสรด้วยตัวเองเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้มีอนาคตไกลในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในแบบที่พ่อของเขาไม่เคยมีโอกาส
และก่อนที่จะถึงวันนั้น - เรามาทำความรู้จักกับเขาเพิ่มอีกสักเล็กน้อยกันดีกว่า
พื้นเพของ ชาร์ลี
เกิดที่ เลสเตอร์ ในปี 2003 ซาเวจ เข้าร่วมอคาเดมีของ ยูไนเต็ด เมื่ออายุเพียงสี่ขวบ เขาไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆจนได้ประเดิมสนามให้กับทีม ยู-18 ในเดือนมกราคม 2020 กับแบล็คเบิร์นในชัยชนะ 1-0
จากนั้น นักเตะวัย 18 ปีก็ทำไป 3 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีในฤดูกาล 2020/21 แต่ก็ดันมาพลาดเสียแชมป์ให้กับอริร่วมเมืองไปแบบฉิวเฉียด
ผลงานที่น่าประทับใจของเขาทำให้สโมสรจับ ชาร์ลี เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกในเดือนเมษายน ปี 2021 พร้อมก้าวขึ้นสู่ทีม ยู-23 โดยผลงานตอนนี้เขาลงเล่นไปแล้ว 12 นัดใน พรีเมียร์ลีก 2 พร้อมกับทำไป 2 แอสซิสต์
ซาเวจ ยังเดินตามรอยเท้าพ่อของเขาด้วยการเลือกเล่นให้ เวลส์ และลงเล่นให้ทีมยู-19 ไปแล้ว 5 เกม โดยทำประตูได้หนึ่งลูก
ตำแหน่งที่ลงเล่น
แม้ว่าเขาจะเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางเหมือนพ่อของเขา แต่นั่นก็เป็นเรื่องเดียวที่ทั้งสองมีคล้ายกัน เพราะขณะที่ ร็อบบี้ มีชื่อเสียงในแง่ของการเป็นผู้เล่นฮาร์ดแมนที่มาพร้อมกับความดุดันและรับใบเหลืองเป็นว่าเล่น
ชาร์ลี กลับเป็นผู้เล่นสไตล์เทคนิคจ๋าที่สามารถเล่นได้ทั้งรุกและรับคล้ายคลึงกันกับ เนมันยา มาติช (ไม่ใช่ตอนที่อายุเข้าเลขสามแบบตอนนี้) แถมยังมีเท้าซ้ายที่ทรงพลังเหมือนกันเลยด้วย
คนพูดถึงเขาว่าอย่างไร
“เขาไม่เคยอยู่ในอันดับต้นๆของกลุ่มแต่เขาไม่เคยยอมแพ้ ความปรารถนาของเขามากล้นแต่ขณะเดียวกันก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตนด้วย" ร็อบบี้ พูดถึงลูกชายของตตัวเองเอาไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง
“ผมต้องบอกว่า ชาร์ลี มีทัศนคติที่ดี” ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ กุนซือทีมชาติ เวลส์ รุ่นยู-18 กล่าวเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา “ผลงานของเขาในแคมป์เก็บตัวของเรานั้นเป็นมืออาชีพมาก เรากำหนดมาตรฐานไว้สูงแต่เมื่อ ชาร์ลี มาร่วมทีมเรา เขาก็สามารถแสดงให้เห็นได้ถึงบุคลิกที่เหมาะเลย"
เขาพูดถึงตัวเองไว้ว่าอย่างไร
"ไอดอลของผมคือ สก็อต แม็คโทมิเนย์ เขามาคุยกับพวกเราแข้งเยาวชนเสมอเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก่อน"
"เขาเองก็ไม่ได้ลงเล่นมากนักแต่ก็ไม่ยอมแพ้และพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นดีพอจะขึ้นชุดใหญ่ได้"
"เราสองคนต่างกันมาก เขาเป็นนักเตะที่ระห่ำ ส่วนผมนั้นชอบไปกับบอล นอกจากนี้ผมยังคิดว่าผมจบสกอร์ดีกว่าเขาอีกด้วย แต่เขาคงไม่ชอบแน่หากได้ยินผมพูดเช่นนี้ แต่ว่างั้นเถอะ ขอให้ผมไปได้สักครึ่งหนึ่งของเขาก็พอใจแล้ว" ชาร์ลี พูดถึงพ่อของตัวเอง