เว้าส์ เวคฮอสท์ ฟันเฟืองสู่การอยู่รอดบน พรีเมียร์ลีก ของ เบิร์นลีย์ - OPINION
เมื่อ เวคฮอสท์ ย้ายมายัง เบิร์นลีย์ ทุกคนทึกทักเอาเองว่าเขาคงเป็นแค่ตัวแทนของ คริส วู้ด ในฟุตบอลสไตล์อุดและโยนของ ฌอน ไดช์ ด้วยความที่รูปร่างของทั้งคู่สูงใหญ่ไม่ต่างกันมากนัก
แต่อันที่จริงหัวหอกชาว นิวซีแลนด์ ที่ปัจจุบันย้ายไปยัง นิวคาสเซิล แล้ว โดดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศเป็นอย่างมาก ในขณะที่กองหน้าชาว ดัตช์ กลับเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามที่ชอบเล่นบอลกับพื้นและมักจะถอยลงมาเชื่อมเกมอยู่บ่อยๆ แถมยังโดดเด่นเป็นอย่างมากเรื่องการไล่เพรสซิ่งแนวรับของคู่แข่ง
โดยในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เขามีจำนวนการวิ่งไล่กดดันแผงหลังของ บรูโน ลาจ ที่มากถึง 57 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในหมู่ผู้เล่นทุกคนใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และอันที่จริงนับตั้งแต่เขาย้ายมาในตลาดหน้าหนาว เวคฮอสท์ มีค่าเฉลี่ยการวิ่งกดดันคู่แข่งมากถึง 33 ครั้งต่อเกม ซึ่งก็สูงที่สุดในลีกอีกนั่นแหละ โดยจำนวนดังกล่าวมากกว่า วู้ด ที่ย้ายไปแล้วเป็นอย่างมากกับจำนวน 13 ครั้งต่อเกมเท่านั้นในครึ่งฤดูกาลแรกกับ เบิร์นลีย์
โดยหากย้อนกลับไปในเกมพ่าย นอริช ซิตี้ - ไดช์ ยังให้สัมภาษณ์อยู่เลยว่าที่ เวคฮอสท์ ไม่ค่อยยิงประตูเป็นเพราะเจ้าตัวมัวแต่พะวงหน้าพะวงหลังจนทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะศูนย์หน้าตัวเป้าได้ไม่เต็มที่
ทว่าในตอนนี้สไตล์ของ เวคฮอสท์ ดูลงตัวและเหมาะสมเป็นอย่างมากกับวิธีการเล่นของกุนซือขัดตาทัพ ไมค์ แจ็คสัน ที่ปรับให้ เบิร์นลีย์ ผ่านบอลสั้นมากขึ้นและเป็นการผ่านบอลไปแบบเท้าสู่เท้ามากกว่าจะโยนยาวไปให้ลุ้นกันต่อเอง ขณะที่ตัวริมเส้นก็ดูจะมีอิสระในการเดินเกมรุกมากขึ้นเมื่อมียักษ์ปักหลั่นจาก โวล์ฟบวร์ก ช่วยกรุยทางให้อยู่ในแดนหน้า
อย่างไรก็ดี ครั้นจะยกความดีความชอบให้ผู้เล่นใหม่อย่างเดียวก็คงไม่ใช่เรื่อง เพราะ แจ็คสัน เองก็ทำงานหนักมากเพื่อหวังพาต้นสังกัดบินสูงไปเกาะอยู่ในโซนปลอดภัย
เขาเริ่มด้วยการขอความช่วยเหลือจาก เบ็น มี กัปตันทีมให้เข้ามาช่วยเป็นลูกมือของเขาและเป็นเสมือนกระบอกเสียงคอยแนะแนวทางการเข้าหาผู้เล่นคนอื่นๆให้ด้วยเพราะเขาเชื่อว่าการจะมาเปลี่ยนรูปแบบการเล่นแบบปุปปับอาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคนเอาได้
อดีตผู้ช่วยกุนซือที่ล้มเหลวกับ ทรานสเมียร์ โรเวอร์ส และ ชรูวส์บิวรี่ ทาวน์ เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองและนำมันมาใช้ในตอนนี้
แจ็คสัน ยอมรับว่าหลังรู้ข่าวว่า ไดช์ จะปลดและเกมถัดไปจะลงเตะในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว เขาจึงขอสละเวลาทุกอย่าง แม้กระทั่งกับครอบครัวเพื่อนั่งศึกษาคู่แข่งและกระจายหน้าที่คุมการฝึกซ้อมไปยังสตาฟฟ์โค้ชหลังชี้แจงถึงแทคติกให้ทุกคนฟังอย่างละเอียดแล้ว
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ เบิร์นลีย์ ดูดีขึ้นทันตาคือการทำให้ผู้เล่นทุกคนมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลอีกครั้งอย่างที่เห็นได้ในเกมกับ เซาแธมป์ตัน เมื่อ ดไวท์ แม็คนีล ยิ้มแก้มปริหลังถูกเปลี่ยนตัวออกมาจากสนาม
เขาถูกโยกมาเล่นทางขวาของแผงกองกลางสี่คน จากเดิมที่เคยอยู่ทางซ้ายมาก่อนในยุคของ ไดช์ พร้อมกับอิสระที่จะตัดเข้าในมาสองยิงไกลหรือผ่านบอลให้เพื่อนเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการและนั่นก็เป็นเสมือนกุญแจในการปลดล็อคศักยภาพอดีตดาวรุ่ง ปีศาจแดง รายนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
เช่นเดียวกับการนำ แจ็ค คอร์ก กองกลางวัย 32 ปีกลับเข้ามาสู่ทีมอีกครั้งเพื่อเติมความเก๋าในแดนกลางกับจุดแข็งเรื่องการคุมจังหวะของเกมที่ดูจะลงตัวกับวิธีการเล่นใหม่นี้เสียเหลือเกิน
ทุกประการที่กล่าวมาคือสิ่งที่ ไมค์ แจ็คสัน ทำให้แฟนๆ เบิร์นลีย์ มีความหวังว่าจะได้เห็นทีมรักของตัวเองอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไป - และไม่ใช่ว่า ฌอน ไดช์ ไม่ดี เพราะหากไม่มีเขา เบิร์นลีย์ คงมาไม่ถึงจุดนี้ แต่บางครั้งความเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งที่ฟหลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน