ทำไมต้องเป็น 'คริส วู้ด' - OPINION

Burnley v Crystal Palace - Premier League
Burnley v Crystal Palace - Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages
facebooktwitterreddit

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ตั้งใจที่จะเซ็นสัญญากับกองหน้าอีกสักคนให้ทันเวลาก่อนจะเปิดสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค รับการมาเยือนของ วัตฟอร์ด ในวันเสาร์นี้ เพราะ คัลลัม วิลสัน กองหน้าคนเดียวที่ไว้ใจได้ของพวกเขายังต้องการเวลาพักฟื้นอีกอย่างน้อยแปดสัปดาห์

การขาดตัวจบสกอร์ส่งผลให้พวกเขาถูก เคมบริดจ์ เขี่ยตกรอบ เอฟเอ คัพ ไปอย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมๆกับโอกาสแล้วโอกาสเล่าที่ไม่สามารถถูกเปลี่ยนให้เป็นตัวเลขบนสกอร์บอร์ดได้

และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มออกล่ากองหน้าอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยใน พรีเมียร์ลีก - การแข่งขันรายการที่สำคัญที่สุดสำหรับ เอ็ดดี้ ฮาว ในขณะนี้

โดยจากรายงานล่าสุดของ ฟาบริซิโอ โรมาโน ระบุว่า คริส วู้ด กำลังจะย้ายเข้ามาเป็นผู้เล่นคนที่สองของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ต่อจาก คีแรน ทริปเปียร์ ในตลาดหน้าหนาวนี้

แต่เหตุใดต้องเป็นเขา? แล้วทำไม ฌอน ไดช์ ถึงต้องปล่อยผู้เล่นคนสำคัญของตัวเองมาให้กับทีมที่ห้ำหั่นกันหนีตายกับ เบิร์นลีย์ ของเขา


Chris Wood
Burnley v Crystal Palace - Premier League / Jan Kruger/GettyImages

ปัจจัยแรกเลยคือค่าฉีกสัญญาของกองหน้าวัย 30 ปีผู้นี้ ซึ่งอยู่ที่ 20 ล้านปอนด์...ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับตลาดซื้อขายยุคใหม่

ลำดับถัดมาคงหนีไม่พ้นการตัดกำลังของ เบิร์นลีย์ ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของพวกเขาและหากว่ากันตามตรง แม้ วู้ด อาจจะไม่ใช่กองหน้าที่ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำแต่เขาก็เป็นผู้เล่นที่สำคัญมากสำหรับ ไดช์

เรื่องบทบาทก็เป็นอีกจุดที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะด้วยเม็ดเงินสนับสนุนจากเจ้าของใหม่ ฮาว จะเซ็นสัญญากับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หรือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ บัดเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ (ถ้าพวกเขายอมมาน่ะนะ) แต่นั่นก็คงหมายความว่า วิลสัน จะสูญเสียสถานะการเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมไปโดยปริยาย ซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยเมื่อพิจารณาถึงฟอร์มการเล่นและค่าแรงที่เขาได้รับอยู่ในตอนนี้ที่เป็นรองเพียงแบ็คขวารายใหม่ของทีมเท่านั้น

นอกจากนี้สไตล์การเล่นของ วู้ด ยังดูเหมาะสมที่จะจับเอามาเข้าขากับ ทริปเปียร์ และเท้าชั่งทองของเขาอย่างลงตัวทีเดียว โดยจุดแข็งของ วู้ด นอกจากการเล่นลูกกลางอากาศก็คงหนีไม่พ้นการใช้ร่างกายที่กำยำเป็นโล่กำบังให้แก่ตัวรุกรอบๆข้างเขาเหมือนอย่างที่เขาทำกับ แอรอน เลนนอน และ ดไวท์ แม็คนีล ที่กำลังจะเปลี่ยนมาเป็น แซงต์-แม็กซิแมง กับ ไรอัน เฟรเซอร์ และ มิเกล อัลไมรอน ในเวลาไม่ช้า


ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ดีลที่ดีเลิศประเสริฐศรีอะไรขนาดนั้น แต่มันก็ดีที่สุดและสมเหตุสมผลที่สุดในตอนนี้แล้ว เพราะหาก นิวคาสเซิล อยากจะเริ่มพัฒนาผลงานของทีม ก็คงไม่มีเกมไหนจะเหมาะไปกว่าการเจอกับ วัตฟอร์ด ที่ฟอร์มยังลุ่มๆดอนๆแบบนี้อยู่อีกแล้ว