ครั้งหนึ่งกับสามประสาน แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล และ กรีนวู้ด ที่เป็นอนาคตของ แมนยู - OPINION
แง่มุมที่น่าเศร้าที่สุดประการหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือความรู้สึกของความหวังและความคาดหมายที่แฟนๆ รู้สึกเมื่อสองปีก่อนตอนทุกสิ่งทุกอย่างบ่งชี้ว่าสโมสรกำลังเดินมาถูกทางแล้ว
หัวหอกสามประสานของโอเล กุนนาร์ โซลชา กระทั่งยิงประตูรวมกันได้มากกว่าแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนั้นเสียอีก - อองโตนี มาร์กซิยาล (23 ประตู), มาร์คัส แรชฟอร์ด (22 ประตู) และ เมสัน กรีนวู้ด (17 ประตู) รวมกันแล้วได้มากถึง 62 ลูกในฤดูกาล 2019/20 ซึ่งมากกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (23), ซาดิโอ มาเน (22) และโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน (12) ที่ทำได้ รวม 57 ประตู
อนาคตดูสดใสสำหรับ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข่าวลือว่า จาดอน ซานโช ทำท่าว่าจะย้ายมาเริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่าในตอนนั้นเกมรุกและการสร้างสรรค์เกมทางขวาของ ปีศาจแดง นั้นไม่ค่อยดีเอาเสียเลย
ตัดภาพมาในตอนนี้ แนวรุกสามประสานของ ลิเวอร์พูล ดูแข็งแกร่งกว่าที่เคย ขณะที่ทั้งสามคนของ ยูไนเต็ด ต่างก็ค่อยๆเลื่อนหายไป และอันที่จริงในฤดูกาลนี้พวกเขายังไม่ได้ได้ออกสตาร์ทร่วมกันเลยและโอกาสในการได้เล่นร่วมกันอีกครั้งก็คงเกือบจะเป็นศูนย์ฃ
ฤดูกาลนี้พวกเขาทำได้รวมกันเพียง 12 ประตู (กรีนวู้ด 6, แรชฟอร์ด 5, มาร์กซิยาล 1) - แต่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับทั้งสามคน
1. มาร์กซิยาล
สิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากสำหรับฤดูกาลที่เขาทำได้ 23 ประตูก็คือการที่นั่นเป็นเพียงฤดูกาลเดียวที่เขาทำได้เกิน 20 ลูกนับตั้งแต่ย้ายมาในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
เขาเป็นผู้เล่นที่ไร้ซึ่งความสม่ำเสมอและการออกสตาร์ทฤดูกาลที่แล้วด้วยการเท้าบอดถึงสามนัดติดก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ เอดินสัน คาวานี ถูกดึงตัวเข้ามาในนาทีสุดท้ายด้วย
และแทนที่จะฮึดสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ มาร์กซิยาล กลับยิ่งทำให้เห็นว่าทุกอย่างที่หัวหอกชาว อุรุกวัย มี ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยแสดงให้เห็นในสนามเลย
ทั้งการทุ่มเทใจไปเต็มร้อย, การเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดหย่อนและสัญชาตญาณของกองหน้าในการค่อยหาช่องจบสกอร์
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มาร์กซิยาล กลับยิ่งถดถอยลงและเริ่มมีอาการบาดเจ็บแทรกเข้ามาเป็นระยะจนถึงขั้นเคยตกลงเป็นเป็นตัวเลือกลำดับที่ห้าเมื่อทุกคนฟิตพร้อมกันหมด
การย้ายไป เซบียา ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จนัก ตอนนี้เขาทำไปประตูเดียวและพลาดสามเกมล่าสุดด้วยอาการบาดเจ็บ และ มาร์กซิยาล อาจจะได้โอกาสอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์กับสังกัดแม้ เพียงเพราะว่า เซบียา คงไม่ใช้ออฟชั่นซื้อขาดเขาเป็นแน่แท้
2. แรชฟอร์ด
อันที่จริง แรชฟอร์ด แสดงให้เห็นถึงช่วงฟอร์มตกมาได้สักปีนึงแล้ว หลังมีฤดูกาล 2019 และ 2020 ที่น่าประทับใจไม่เบาก่อนที่จะมาโดนอาการเจ็บเล่นงานและตามมาด้วยสูญเสียความมั่นใจหลังความพ่ายแพ้ใน ยูโรปาลีก และรอบชิง ยูโร 2020
ฝืนตัวเองมาพักใหญ่จนได้ไฟเขียวให้ไปขึ้นเขียงผ่าและแม้จะไม่ได้ถูกรีบเร่งให้กลับมาลงสนามเขาดันกลับมาพร้อมกับฟอร์มที่ตรงข้ามกับที่ทุกคนคาดว่าจะได้เห็นทั้งๆที่ไม่มีอาการที่หัวไหล่มารบกวนแล้ว
การตัดสินใจของเขาทั้งตอนจะจ่ายและตอนจะยิงดูผิดพลาดไปหมด นอกจากนี้เรายังเห็นเขาดูลังเลมากอีกด้วยยามต้องดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับแนวรับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ขนาดโดนรุมสองหรือสาม แรชชี่ ยังกล้าที่จะลองเสี่ยงกระชากหนีดูเลยด้วยซ้ำ
นักวิเคราะห์หลายคนถึงขั้นชี้ว่าปัญหาของเขาอยู่ที่สภาพจิตใจ ที่การทุ่มเทแรงกายและใจนอกสนามอาจจะส่งผลร้ายให้เขาดูไม่ทุ่มเทอะไรเลยยามอยู่ในสนาม
3. กรีนวู้ด
เคสที่น่าเสียดายที่สุดในสามคน เพราะเขาคงไม่ได้เล่นฟุตบอลระดับสูงอีกแล้วเพราะปัญหานอกสนามที่ก่อเอาไว้
เขาออกสตาร์ทขรุขระเล็กน้อยเมื่อต้องเล่นกับ โรนัลโด้ ก่อนที่จะค่อยๆเข้าขากันในเวลาต่อมาและก็น่าเสียดายยิ่งนักเมื่อพิจารณาว่าเขาคือหนึ่งในคนที่จบสกอร์ได้เด็ดดวงที่สุดของ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ เวลาที่ทีมกำลังมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูอยู่พอดิบพอดีเลย