บทบาทใหม่ของ โชเอลินตอน เบื้องหลังผลการสุดแจ่มของ นิวคาสเซิล - OPINION
ชัยชนะเหนือ ไบรท์ตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ถึง 8 เกมติดกันเข้าไปแล้ว โดยคนที่สมควรได้รับเครดิตคงหนีไม่พ้น โชเอลินตอน เจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของสโมสร
และสำหรับใครที่ยังไม่ทราบ ในตอนนี้อดีตกองหน้า ฮอฟเฟนไฮม์ ได้รับการปรับบทบาทใหม่โดย เอ็ดดี้ ฮาว มาเป็นกองกลางที่ครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยกองหน้าชาว บราซิล เจอปัญหาการปรับตัวตั้งแต่แรกที่ย้ายมา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำประตูของเขาเป็นอย่างมาก และแม้จะถูกโยกไปเล่นทั้งในบทบาทตัวริมเส้นไปจนถึงเพลย์เมคเกอร์ตัวพักบอล แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีบทบาทไหนที่เหมาะสมกับเขาเท่ากับการเป็นกองกลางตัวชนเฉกเช่นในตอนนี้อีกแล้ว
และอันที่จริงนับตั้งแต่ถูกถอยลงมาเล่นในแผงมิดฟิลด์ของ สาลิกาดง ในเกมกับ ลิเวอร์พูล เมื่อปลายปีที่แล้ว ยังไม่มีผู้เล่นคนไหนเอาชนะการเข้าปะทะในลีกมากเท่ากับเขาที่ 40 ครั้งเลย
พละกำลังของ โชเอลินตอน ช่วยให้ จอนโจ เชลวีย์ มีเวลาในการตัดสินใจจ่ายบอลมากขึ้นและลูกล่อลูกชนของเขาก็ช่วยให้ โจ วิลล็อค เล่นได้อย่างอิสระโดยสามารถหาช่องสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษของคู่แข่งได้ โดยไม่ต้องพะวงเรื่องเกมรับแบบที่แล้วๆมาเลย
ปัญหาเรื่องแดนกลางและเกมรับเป็นปัญหาของ นิวคาสเซิล มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นฤดูกาลภายใต้ สตีฟ บรูซ เมื่อพวกเขายังคงเป็นทีมที่เน้นเกมรับเป็นหลักมาโดยตลอด
และจริงอยู่ที่การจะเจาะเข้าไปทำประตูใส่ นิวคาสเซิล นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณภาพของผู้เล่นในแนวรับของพวกเขาก็ไม่ได้มากขนาดที่จะสามารถตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่นตลอด 90 นาที โดยที่ไม่เผลอเปิดช่องหรือทำอะไรผิดพลาดเองอย่างน้อยหนหรือสองหนต่อเกม
อดีตกุนซือ บอร์นมัธ มาพร้อมกับสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตามากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความเอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นกัน แต่ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าแข้งใหม่ในตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนและการปรับบทบาทของอดีตกองหน้าราคา 40 ล้านก็ช่วยมาเติมเต็มให้แทคติกในอุดมคติของ ฮาว เป็นสิ่งที่จับต้องได้จริงๆ
ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่ทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอีกแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าจะรักษาฟอร์มแล้วขยับไปได้สูงเพียงไหนเพื่อเติมความมั่นใจก่อนที่จะได้ตั้งเป้าเพื่อตั๋วฟุตบอล ยุโรป ในฤดูกาลถัดไป