นับถอยหลังเวลาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ลิเวอร์พูล - OPINION

Wolverhampton Wanderers v Liverpool: Emirates FA Cup Third Round Replay
Wolverhampton Wanderers v Liverpool: Emirates FA Cup Third Round Replay / Marc Atkins/GettyImages
facebooktwitterreddit

นอกจากข่าวเรื่องการไล่ล่าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม และกองกลางรายอื่น ๆ ในช่วงซัมเมอร์ของ ลิเวอร์พูล แล้ว อีกหนึ่งข่าวที่ผุดขึ้นมาชิงพื้นที่เล็ก ๆ ในสื่อโซเชียลก็คืออนาคตอันเป็นคำถามของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เจ้าของรางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ต้องยอมรับกันว่าปีนี้นอกจากจะไม่ใช่ปีที่ดีของ หงส์แดง แล้วยังถือเป็นปีที่เงียบเชียบของกองหน้าทีมชาติอียิปต์ด้วย หลังจากที่ลงเล่นในทุกรายการไป 37 นัดยิงได้ 17 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ ซึ่งมองเผิน ๆ แล้วไม่น่าใช่สถิติที่น่าเกลียดอะไร แต่หากเทียบกับเมื่อฤดูกาลก่อน ๆ ก็บอกได้เลยว่ามาตรฐานของแข้งวัย 30 ปีตกลงไปจากเดิมเป็นอย่างมาก

แม้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนโดยเขาแสดงความมั่นใจว่า ซาลาห์ จะกลับมาทำลายสถิติต่าง ๆ ได้อีกครั้ง หลังจากที่ฟอร์มตกในช่วงหลัง โดยยิงไปเพียง 7 ประตูจากการลงเล่น 20 นัดใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งมันน้อยมาก ๆ เมื่อย้อนกลับไปดูจำนวนประตูทีเกิดขึ้นในนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โรมา เมื่อปี 2017

Wolverhampton Wanderers v Liverpool FC - Premier League
Wolverhampton Wanderers v Liverpool FC - Premier League / MB Media/GettyImages

หลายคนเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการได้รับสัญญาฉบับใหม่ที่ทำให้เขาได้ค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์คิดเป็น 18.2 ล้านปอนด์ต่อปีแม้ว่าเจ้าตัวจะอายุเข้าหลัก 30 ไปแล้วก็ตาม ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุที่แท้จริงหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าในเวลานี้ฟอร์มของนักเตะ ลิเวอร์พูล แทบจะทั้งทีมก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นัก

หากแต่มาตรฐานที่กองหน้า หงส์แดง เคยทำเอาไว้นั้นมันกำลังย้อนกลับมาเล่นงานตัวเขาในซีซันนี้ พร้อมด้วยความคาดหวังจากเงินรายได้มหาศาล การยิงประตูอย่างกระจุ๋มกระจิ๋มแบบนี้จึงเป็นเรื่องที่แฟนบอลตั้งข้อสังเกต บางรายถึงกับรับไม่ได้

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ ซาลาห์ จะถูกวิจารณ์อย่างหนักและมีข่าวตามออกมาว่า ลิเวอร์พูล กำลังพิจารณาการปล่อยตัวออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์เพื่อทำกำไรและนำเงินค่าตัวมาเป็นทุนในการสรา้งทีมใหม่ให้กับ เยอร์เก้น คล้อปป์ ต่อไป

TOPSHOT-FBL-FRA-LIGUE1-PSG-MESSI-PRESSER
TOPSHOT-FBL-FRA-LIGUE1-PSG-MESSI-PRESSER / STEPHANE DE SAKUTIN/GettyImages

โดยทีมที่ตกเป็นข่าวกับแข้งอียิปต์จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มีศักยภาพทางการเงินมากที่สุด รวมทั้งความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า และสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของทีมกับแข้ง หงส์แดง จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในการย้ายทีมในอนาคต โดยแหล่งข่าวในอังกฤษเชื่อว่าค่าตัวของเขาจะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านปอนด์ในตลาดซัมเมอร์ ซึ่งถ้าได้ราคานี้จริง ๆ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ เดอะเร้ด จะไม่ยอมขาย

ในขณะเดียวกันข่าวที่มาแรงควบคู่กันไปก็คือ การมองหาตัวแทนของ ซาลาห์ โดยสื่อเมืองผู้ดีโฟกัสไปที่ เฟเดริโก้ เคียซา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ เอนริโก้ เคียซา อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลี ซึ่งตอนนี้ค้าแข้งอยู่กับ ยูเวนตุส ใน กัลโช เซเรีย อา ซึ่งเขาคือปีกขวาที่น่าจับตามองคนหนึ่งของยุโรปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เขาคือคีย์แมนคนสำคัญของทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ ยูโร 2020 โดยทำได้ 2 ประตูในทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว

แนวโน้มของดีลนี้ดูจะมีความเป็นไปได้ในระดับหนึ่งเมื่อมองจากสถานการณ์ของทีม เจ้าม้าลาย ที่โดนตัด 15 แต้มร่วงลงไปอยู่อันดับ 13 ของตาราง กัลโช และดูเหมือนว่าจะหมดลุ้นในการไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ค่อนข้างจะแน่นอน นั่นจึงทำให้นักเตะหลายคนในทีมมีสิทธิ์ที่จะย้ายออกมา ซึ่ง เคียซา ก็เป็นหนึ่งในนั้นและเขาถูกจับโยงกับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ รวมทั้ง อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ก็ให้ความสนใจอยู่เหมือนกัน

Federico Chiesa
Juventus FC v SS Lazio - Coppa Italia Quarter Final / Jonathan Moscrop/GettyImages

อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากผลงานใน กัลโช เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก หลังจากที่เพิ่งกลับมาสู่ทีมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจากการได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมกราคม โดยปัจจุบันลงเล่นไปทั้งหมด 10 นัดและทำได้เพียง 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ และยังทำประตูในลีกไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว

แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่สื่อก็ยังเชื่อว่าเขายังมีศักยภาพที่สามารถเล่นในระดับสูงได้และเป็นนักเตะที่มีความสำคัญต่อ ยูเวนตุส ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเขาจะสามารถก้าวเข้ามาแทนที่ ซาลาห์ ได้หากย้ายมาเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ในฤดูกาลหน้า

ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างก็ต้องขึ้นกับฟอร์มของแข้งจากแดนมัมมีด้วยว่าในช่วง 18 เกมที่เหลือเขาจะกลับมายิงประตูได้เหมือนเดิมและสามารถช่วยทีมให้คว้าโควต้า แชมเปี้ยนส์ลีกหลังจบฤดูกาลได้หรือไม่

ซึ่งหากทุกอย่างดีขึ้น ลิเวอร์พูล อาจจะไม่ต้องการปีกขวาคนใหม่อย่างที่เป็นข่าวก็ได้