[OPINION] โอซาน คาบัค ! แข้งที่จะทำให้ตลาดนักเตะของ ลิเวอร์พูล จบอย่างสมบูรณ์แบบ

FC Bayern Muenchen v FC Schalke 04 - Bundesliga
FC Bayern Muenchen v FC Schalke 04 - Bundesliga / Alexander Hassenstein/Getty Images
facebooktwitterreddit

หลังปล่อยให้แฟนบอลรอแล้วรออีกที่สุดแล้วภายใน 24 ชั่วโมง ลิเวอร์พูล ก็ได้ประกาศคว้าตัวทั้ง ติอาโก อัลคันทารา จาก บาเยิร์น มิวนิค เข้าทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และ ดิโอโก โจต้า จาก วูลฟ์แฮมป์ตัน ด้วยค่าตัว 41 ล้านปอนด์

ทั้งสองนักเตะได้ตอบโจทย์ปัญหาในทีม ลิเวอร์พูล ได้เป็นอย่างดี อย่างที่เราได้เห็นในเกมกับ เชลซี ที่ ติอาโก สามารถสร้างมิติใหม่ๆ ให้กับเกมของทีมได้

ติอาโก สามารถสร้างสถิติจ่ายบอลสำเร็จได้ถึง 75 ครั้งพร้อมโชว์คลาสที่แตกต่างออกไปจากกองกลางทั้งหมดของ ลิเวอร์พูล แม้จะลงสนามเป็นแค่เกมแรกหลังเปิดตัวไม่กี่ชั่วโมง

ขณะที่อีกหนึ่งรายอย่าง โจต้า แม้จะยังไม่ได้ลงสนามแต่เขาเองก็ฝากผลงานไว้ให้เห็นแล้วใน พรีเมียร์ลีก และก็น่าจะสามารถสอดแทรกสลับกันเล่นกับสามประสานในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ได้ดีอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามก็ดูเหมือน หงส์แดง จะยังมีพื้นที่ว่างให้เสริมทีมอีกหนึ่งตำแหน่งนั่นก็คือกองหลัง หลังเพิ่งปล่อย เดยัน ลอฟเรน ออกจากทีมไปแต่ยังไม่มีใครมาแทนที่

เกมล่าสุดเมื่อ โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป บาดเจ็บ เยอร์เกน คล็อปป์ ก็ได้เข็น ฟาบินโญ ลงมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คแทน แม้เขาจะทำได้ดีแต่ก็มีจังหวะที่หลุดอยู่บ้างเพราะความถนัดโดยธรรมชาติของเขานั้นเป็นการเล่นกองกลางตัวรับเสียมากกว่า

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก ก็มีข่าวกับปราการหลังที่แฟนบอลอาจจะไม่คุ้นชื่อนักอย่าง โอซาน คาบัค ของ ชาลเก 04 ที่หากได้ตัวมาก็จะทำให้ตลาดนักเตะรอบนี้ของ ลิเวอร์พูล ปิดตัวอย่างเพอร์เฟ็ค

แล้วทำไมต้องเป็นกองหลังตัวนี้ ทั้งๆ ที่ในตลาดก็ยังมีตัวเลือกอีกมากมาย?

คาบัค คือกองหลังดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปีซึ่งในตอนนี้ได้ติดทีมชาติตุรกีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ราชันสีน้ำเงิน

จุดเด่นของเขาคือเรื่องการดวลบอลกลางอากาศ, การเข้าปะทะ, สมาธิในเกมรับและการอ่านจังหวะที่ถูกต้องในการเข้าไปบล็อคลูกยิง

กับ ชาลเก ในบุนเดสลีกา เมื่อฤดูกาลก่อนเขามีสถิติได้ดวลลูกกลางอากาศถึง 5.46 ครั้งต่อเกมซึ่งสามารถเอาชนะได้ด้วยสถิติถึง 70.43%

ขณะที่สถิติการเข้าสกัดบอลโดยเฉลี่ยแล้ว คาบัค ทำได้ 1.4 ครั้งต่อเกม และการเคลียร์บอลจากพื้นที่อันตรายก็ทำไปได้ถึง 3.6 ครั้งต่อเกม ซึ่งเมื่อเทียบกับกองหลัง ลิเวอร์พูล อย่าง โจ โกเมซ แล้วเขาเองก็ทำได้ดีกว่าในแทบทุกด้าน

แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นนั่นก็คือการที่ คาบัค เล่นได้อย่างมีแววว่าจะสามารถพัฒนากลายเป็นกองหลังระดับท็อปในอนาคตได้โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในมือของ เยอร์เกน คล็อปป์ ด้วยแล้ว

ซึ่งหาก คาบัค เข้าทีมจริงๆ เขาจะยังไม่ได้เป็นตัวหลักของ ลิเวอร์พูล แต่ก็จะสามารถกลายเป็นส่วนเสริมในยามที่ขาดแคลนกองหลังเช่นนี้ได้

แต่ก็ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วหากมีการเจรจาเกิดขึ้นจริงค่าตัวที่ ชาลเก ตั้งไว้จะเป็นใจหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากได้เขาเข้าทีมมาก็จะทำให้ขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล แน่นปึ๊กในทุกตำแหน่งพร้อมจะไล่ล่าทุกแชมป์ในฤดูกาลนี้ต่อไปอย่างแน่นอน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!

*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด