[OPINION] 4 แข้ง เอฟเวอร์ตัน ที่ถูกยกระดับขึ้นในยุคของ คาร์โล อันเชลอตติ
เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่ เอฟเวอร์ตัน สามารถบุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ถึง แอนฟิลด์ มิหนำซ้ำพวกเขายังมีแต้มเท่ากันอีกด้วยซึ่งก็แน่นอนว่าด้วยจำนวนเกมที่เหลือมันยังคงมีความเป็นไปได้อยู่ที่พลพรรค ทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลถัดไป
เราไม่อาจพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่สมบูรณ์แบบแต่นับตั้งแต่ คาร์โล อันเชลอตติ เข้ามากุมบังเหียนสโมสรแห่งนี้เราได้เห็นพัฒนาการมากมายโดยหนึ่งในนั้นก็คือการยกระดับฝีเท้าผู้เล่นในทีม เรามาดูกันว่าจากทั้งกว่า 20 คน ใครคือคนที่ดูจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำงานกับกุนซือมากประสบการณ์ผู้นี้
4. ทอม เดวีส์
ในขณะที่ อัลลัน ไม่สามารถลงสนามได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมเพราะอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย ทอม เดวีส์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเติมเต็มช่องว่างที่หายไปขอองแข้งชาว บราซิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบิ๊กทีมใน พรีเมียร์ลีก
อย่างเช่นในเกมที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 เดวีส์ ทำการโหม่ง3 ครั้งการสกัดกั้น 2 ครั้งและเคลียร์บอลทิ้ง 4 เพื่อช่วยฝั่งของจากแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมมาตลอดเกม ใน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขามีส่วนสำคัญในการขัดขวางการเล่นเกมรุกของ ลิเวอร์พูล จากการเข้าปะทะสำเร็จ 8 หนและเป็นเกราะป้องกันระหว่างกองกลางและกองหน้าของ คล็อปป์ ให้ไม่สามารถเชื่อมเกมได้สะดวกนัก
กองกลางชาว อังกฤษ อาจจะไม่สามารถทะลุทะลวงแนวรับคู่แข่งหรือเลี้ยงบอลเผาเครื่องฝ่ายตรงข้ามได้แบบที่ รอดริเกวซ และ ดูคูเร ทำ แต่สิ่งที่เขาทำคือการใช้ความคล่องตัวและความขยันในการอุดช่องว่างระหว่างกองหลังและปิดพื้นที่ยามกองกลางคนอื่นๆเติมเกมรุกขึ้นไปสูง
“ผมคิดว่าก่อนอื่นทอมเป็นนักเตะมืออาชีพจริงๆเขามีสมาธิกับสิ่งที่เขากำลังทำมาก” อันเชล็อตติ กล่าวหลังจากเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
“สิ่งเดียวที่ผมพูดกับเขาคือทำเล่นให้ง่ายเข้าไว้ บทบาทของเขาต้องมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา
...การครองบอลเขาอาจจะไม่ได้มีคุณภาพเท่ามิดฟิลด์ชั้นนำ แต่ในตำแหน่งของเขาเราจำเป็นต้องเล่นบอลธรรมดาๆคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ซับซ้อนมากเกินไป"
3. เบน ก็อดฟรีย์
ในขณะที่ คีน มักจะเป็นแนวป้องกันสุดท้ายระหว่างกองหน้าฝ่ายตรงข้ามกับผู้รักษาประตูของ เอฟเวอร์ตัน มันคงเป็นไปไม่ได้หากเราจะไม่พูดถึงคู่หูของเขา
เบน ก็อดฟรีย์ ย้ายมาด้วยค่าตัวที่สูงถึง 25 ล้านปอนด์จาก นอริช ทีมที่เสียไป 75 ประตูจาก 38 เกม จนต้องตกชั้นไปยัง แชมเปี้ยนชิพ ฝั่งนอริชในขณะที่อายุ 23 ปีเขายังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาการในอาชีพของเขา อย่างไรก็ตาม Godfrey ได้ทำเกินความคาดหมายทั้งหมดแล้ว
เขาถูกจับลงเล่นทั้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คและฟูลแบ็คทั้งสองข้าง ก็อดฟรีย์ มีวิธีการเล่นที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดี ยามเป็นฟูลแบ็คเขาจะไม่ขึ้นเกมมากนักและปักหลักรับมือกับตัวริมเส้นของคู่แข่งโดยเปิดโอกาสให้มิดฟิลด์ตัวรับเติมเกมบุกได้มากขึ้นส่วนในการยืนตรงกลางเขาก็จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า คีน เล็กน้อยและใช้ความเร็วเพื่อรับมือกับตัวรุกของคู่แข่ง
2. ไมเคิล คีน
แม้จะได้โอกาสติดทีมชาติไปแล้วถึง 12 นัด แต่ ไมเคิล คีน ก็มักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอเพราะเรามักจะติดภาพการยืนตำแหน่งที่ผิดพลาดและการถูกแนวรุกความเร็วสูงเผาเครื่องซะไหม้
ฤดูกาลนี้เขาได้ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกจนแทบไม่เหลือเค้า คีน คนเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมบุกไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล เหล่า 3 ประสานของ คล็อปป์ ไม่สามารถเล่นได้เลยเมื่อเจอกับอดีตดาวรุ่งจากอะแคเดมีของ แมนฯ ยูไนเต็ด รายนี้
ไม่ต่างจาก คัลเวิร์ต-เลวิน บทบาทของ คีน ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ในพื้นที่เล็กๆและการเข้ามาของ อัลลัน กับ ดูคูเร ช่วยทำให้เกมรับของ เอฟเวอร์ตัน แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเมื่อบอลไม่ได้อยู่กับตัว ทั้ง 2 มิดฟิลด์จะถอยลงมาทำหน้าที่เดียวกับเซ็นเตอร์แบ็คที่รับหน้าที่จัดการกับตัวริมเส้นของคู่แข่งเพื่อให้หน้าที่ของกองหลังตัวกลาง 2 คนลำบากน้อยลง
ผลลัพธ์ก็คือเขาถูกเลี้ยงบอลฝ่าไปได้เพียง 9 ครั้ง และมีจำนวนการเคลียร์บอลมากเป็นอันดับ 2 ของลีก ที่ 105 ครั้ง
1. โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน
เริ่มต้นรายแรกด้วยคนที่พัฒนาการของเขาแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดที่สุด หลังจากที่ทำไปได้ 1,4 และ 6 ประตูตามลำดับจากฤดูกาลก่อนๆหน้านี้ นับเฉพาะแค่ใน พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้ 'ดอม' ทำไปแล้ว 13 ลูก และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เซอไพรส์พวกเรามากที่สุดคนหนึ่งไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ผลงานของเจ้าตัวยังส่งผลให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกเขาติดธงไปแล้ว 5 นัด และมีความเป็นไปได้ไม่น้อยเลยที่หัวหอกจาก เมอร์ซีย์ไซด์ รายนี้จะได้ไปร่วมวาดลวดลายในศึกฟุตบอล ยูโร 2020
อันเช เลือกที่จะให้เขาป้วนเปี้ยนอยู่แต่ในกรอบเขตโทษของคู่แข่งเท่านั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากความจมูกไวให้ได้สูงที่สุดผนวกกับการสร้างสรรค์เกมโดย ฮาเมส และ การเปิดบอลอันแม่นยำของ ดีญ 8 จาก 13 ประตูที่เขาทำได้เกิดขึ้นในกรอบ 6 หลาเท่านั้นส่วนอีก 5 ก็ยังคงอยู่ในกรอบเขตโทษเหมือนเดิม นี่พิสูจน์ว่ากองหน้าที่ดีไม่จำเป็นต้องยิงประตูได้แรงหรือยิงไกลได้ดี ขอเพียงแค่คุณต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นก็พอแล้ว
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด