[OPINION] รออีกซักนิด ! แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของ ลิเวอร์พูล หลังเจ๊า เอฟเวอร์ตัน แบบสุดจืด

เกมแรกของ ลิเวอร์พูล ว่าที่จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้หลังช่วงพักเบรก COVID-19 จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยสกอร์ 0-0 แบบเนือยๆ แถมยังเกือบโดน เอฟเวอร์ตัน น็อคที่ กูดิสันปาร์ค

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล ทีมเดิมในช่วงก่อนหน้านี้ พวกเขาเหมือนจะยังต่อกันไม่ติดและเมื่อไหร่ก็ตามที่เครื่องเริ่มร้อนก็มักจะถูกขัดจังหวะด้วยการเบรคดื่มน้ำ, พักครึ่งเวลา, เปลี่ยนตัว, ดื่มน้ำและก็เปลี่ยนตัววนกันไป

แน่นอนว่าแฟนบอลอาจจะไม่ค่อยพอใจกับฟอร์มการเล่นแบบนี้นัก แม้แต่ เยอร์เกน คล็อปป์ เองก็แสดงอาการหัวเสียแบบเห็นได้ชัดที่ข้างสนาม

แต่หากจะมองลึกๆ แล้ว 3 แต้มจากเกมนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่กลับเป็นการเตรียมตัวเพื่ออนาคตต่างหาก...

หลังพลาดคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ ไปก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า หงส์แดง คงจะไม่เสริมทัพอะไรมากนักในฤดูกาลหน้า ดังนั้นที่ต้องทำคือโฟกัสกับนักเตะที่มีอยู่ในมือ

สองคนที่ได้รับโอกาสในเกมนี้ก็คือ ทาคูมิ มินามิโนะ กับ นาบี เกอิตา ซึ่งแม้จะมีจังหวะผิดพลาดอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและสามารถปั่นป่วนเกมรับของ เอฟเวอร์ตัน ได้

เชื่อว่าทั้งสองคนนี้จะยังได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ ต่อไปเรื่อยๆ และเมื่อฤดูกาลหน้ามาถึงพวกเขาก็อาจจะกลายเป็นคนที่สามารถสอดแทรกเข้ามาในตำแหน่ง 11 คนแรกแบบจริงจังก็เป็นได้

ที่สำคัญ คล็อปป์ เองก็คงไม่ได้กะจัดตัวมาเพื่อเน้น 3 คะแนนเท่าไหร่นัก ถ้าผู้เล่นคนไหนไม่พร้อมเช่น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เขาก็จะไม่ฝืนส่งลง รวมถึงยังได้ใช้โควต้าเปลี่ยนตัวนักเตะครบทั้ง 5 ตำแหน่งด้วย

นี่จึงเป็นเหมือนเกมพรีซีซั่นกลายๆ ที่ คล็อปป์ เองจะได้ลองอะไรใหม่ๆ และทำให้นักเตะทุกคนฟิตพร้อมมากที่สุดเมื่อฤดูกาลหน้ามาถึง ซึ่งก็คงจะเป็นช่วงเวลาหลังจบซีซั่นนี้ไปไม่นาน

แล้วหาก คล็อปป์ จัดเต็มในเกมนี้ก็อาจจะเสี่ยงต่อการทำให้นักเตะบาดเจ็บหนัก โดยเฉพาะกับการมีเกมกลางสัปดาห์รออยู่ซึ่งก็ไม่ใช่อะไรที่คุ้มเลย

แน่นอนว่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปีนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญแต่ 5 คะแนนจาก 8 นัดก็คงไม่มีใครแทงสวนว่า หงส์แดง จะพลาดแชมป์ได้ลงคอ

อีกทั้งการเล่นกับทีมที่มีผู้จัดการทีมจอมเขี้ยวที่ชื่อว่า คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ไม่ใช่อะไรง่ายๆ อยู่แล้ว และมันก็ยังเป็นการยืดสถิติไม่แพ้ เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่ปี 2011 ออกไปอีก

ตอนนี้ที่ เดอะ ค็อป จะทำได้ก็คือใจเย็นๆ พร้อมรอไปอีกซักเกมสองเกม แม้จะหน่วงๆ อยู่บ้างแต่มันก็เป็นอะไรที่จิ๊บจ๊อยมากๆ หากจะเทียบกับกว่า 3 ทศวรรษที่เรารอคอยกันมาก่อนหน้านี้

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด