[NOSTALGIA] หน้าแหก ! เมื่อ โอเดมวิงกี้ ขับรถไปรอเปิดตัวกับ QPR ก่อนที่ดีลจะล่มจนอดย้าย

Football Black List 2016
Football Black List 2016 / Jeff Spicer/Getty Images
facebooktwitterreddit

ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายเดือนมกราคมแบบนี้ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2013 ตอนที่ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ที่ในตอนนั้นยังเป็นผู้เล่นของ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน อยู่ ตัดสินใจขับรถไปถึงสนามของ ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส เพื่อจะพบว่าดีลการย้ายทีมของตนเองได้ล่มไปเสียแล้ว

QPR ตัดสินใจปลด มาร์ค ฮิวจส์ ออกจากตำแหน่งหลังไม่สามารถพาทีมขึ้นจากตำแหน่งบ๊วยได้ก่อนที่จะหันไปหา แฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือมากประสบการณ์ที่ยื่นคำขาดของบเสริมทัพเพิ่มเติมเพื่อหวังจะช่วยสโมสรจากการตกชั้น

คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, โลอิค เรมี และ สเตฟาน เอ็มเบีย เป็นเพียง 3 จาก 17 ผู้เล่นที่ย้ายเข้ามายัง ลอฟตัส โร้ด ตั้งแต่เมื่อต้นฤดูกาล 2012/13 แต่ เรดแนปป์ ยังไม่นำใจและตัดสินใจทาบทาม ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ หัวหอกของ เดอะ แบ๊กกีส์ ที่หลุดมาเป็นเพียงตัวสำรองเพราะ ลูกากู ที่ต้นสังกัดของเขายืมตัวมากำลังยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

โอเดมวิงกี้ เริ่มต้นกดดันสโมสรให้ขายเขาออกไปโดยไวด้วยการร่ายยาวบน ทวิตเตอร์ เกี่ยวกับการทุ่มเทให้สโมสรเป็นอย่างมากทั้งการยอมฉีดยาเพื่อให้ลงสนามได้ทั้งๆที่ยังไม่ฟิตพอ ไปจนถึงการบ่นน้อยใจที่ไม่เคยได้ขึ้นปกนิตยสารก่อนเกมของทีมเลยทั้งๆที่รับใช้ เวสต์บรอม มาหลายปีแล้ว

ข่าวลือเกี่ยวกับการเจรจาของ QPR และ เวสต์บอรม เริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆจนมาถึงช่วงไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายของตลาดซื้อขาย โดยในยุคนั้นที่โซเชียลมีเดียอาจจะไม่ได้มีบทบาทเท่านี้ เหล่าผู้สื่อข่าวและแฟนบอลต้องแห่ไปดักรอดูหน้าผู้เล่นใหม่ของทีมกันเองถึงสนาม รายการที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ก็ปรากฎภาพของ โอเดมวิงกี้ ที่ขับรถ เรนจ์ โรเวอร์ เข้าสนามไปพร้อมกับนักข่าวช่อง สกายสปอร์ต ที่จ่อไมค์ไปสัมภาษณ์หัวหอกชาว ไนจีเรีย

กองหน้าตัวจี๊ดไม่ขวยเขินกับการให้สัมภาษณ์ออกทีวี เขาพูดด้วยความมั่นใจว่าจะสามารถยกระดับทีมจาก ลอนดอน ได้ด้วยฝีเท้าตัวเองและแทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะร่วมงานกับผู้เล่นชื่อดังในทีมพร้อมกับกล่าวขอบคุณแฟนๆ เวสต์บรอม ไปด้วยเลย

อย่างไรก็ดีในตอนนั้นทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าดีลระหว่าง 2 ทีมได้ล่มลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีก็แต่บุรุษเพียงคนเดียวที่ใช้เวลาไปกับการขับรถจนไม่ทราบถึงสถานการณ์รอบตัวเลย

ภาพสุดท้ายที่ตากล้องจับเอาไว้ได้คือขณะที่ โอเดมวิงกี้ ที่พยายามเดินเข้าประตูสนามไปก่อนจะโดนพนักงานดูแลความเรียบร้อยไล่กลับบ้านด้วยใบหน้าที่สับสนงงงวย

อีกไม่กี่นาทีก็จะถึง 5 ทุ่มแล้ว ช่วงเวลาเดดไลน์ของการย้ายทีม เหล่าสตาฟฟ์ของ QPR และ เอเยนต์ของผู้เล่นบางคนพากันทอยอมเดินกลับไปยังลานจอดรถเพื่อจะกลับบ้านและในวินาทีนั้นเองที่ทุกอย่างชัดเจนแล้วว่า โอเดมวิงกี้ จะไม่ได้ย้ายไปไหน

วันรุ่งขึ้นเมื่อมหอกและขวัญจากการโกลาหลได้จางหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว QPR ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีการกีดกันไม่ให้ โอเดมวิงกี้ เข้าสนามว่าทำไปเพื่อ 'ต้องการแสดงความเคารพต่อต้นสังกัดผู้เล่น' ส่วนที่อีกฟากของเมือง แม้จะรู้สึกผิดหวังและอับอายแค่ไหนในที่สุดอดีตกองหน้าของ โลโคโมทีพ มอสโก ก็ได้ออกมาขอโทษผ่านสื่อและยืนยันว่าจะถวายหัวรับใช้ต้นสังกัดต่อไปอย่างแน่นอน

ทว่านั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับแฟนๆ เดือนต่อมาในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ โอเดมวิงกี้ ได้ถูกส่งลงสนามก็เกิดเสี่ยงโห่ไล่ขึ้นอย่างอื้ออึง ก่อนที่เขาจะได้ย้ายทีมสมใจอยากในเดือนมิถุนายน หนนี้มันไม่ใช่เพราะเขาอยากย้าย แต่มันเป็นเพราะว่า โอเดมวิงกี้ ไม่สามารถลงสนามใน เดอะ ฮอว์ทอนส์ โดยที่ไม่มีเสียงโห่ไล่ได้อีกเลย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด