ย้อนรำลึกยุคแข้ง ฝรั่งเศส ล้นทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด - NOSTALGIA

ในเดือนมกราคมปี 2013 ขณะที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ แอสตัน วิลลา ได้ถึง วิลลา พาร์ค - เสียงเชียร์ของแฟนๆข้างสนามก็ดังขึ้นมา "บองชู บองชู บองชู พวกเราคือชาวจอร์ดี้"

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะภาพของธงชาติ ฝรั่งเศส ที่ปลิวไสวอยู่ทั่วสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ก็เป็นสิ่งที่คุ้นตาไม่แพ้กันในช่วงนั้น

เหตุผลน่ะเหรอ? ก็เพราะในฤดูกาล 2012-13 เหล่าแข้งเลือดน้ำหอมเป็นกำลังหลักพาทีมจบอันดับที่ 5 และไปเล่น ยูโรปาลีก ได้น่ะสิ ซึ่งนั่นนับเป็นความสำเร็จที่สโมสรแห่งนี้ไม่ได้สัมผัสมานานมากและไม่รู้ว่าจะได้สัมผัสมันอีกครั้งเมื่อใดหากพิจารณาว่าตอนนี้ เอ็ดดี้ ฮาว กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อหนีตกชั้นให้ได้

ในช่วงที่ไม่มีใครเหลียวแล ลีกเอิง นิวคาสเซิล ได้เริ่มลงตลาดจัดหาแข้งมากพรสวรรค์ในแดนน้ำหอมมาร่วมทีมอย่างต่อเนื่องถึง 4 ปี ซ้อนแล้ว แต่ไม่มีปีไหนจะพีคเท่าต้นปี 2013 อีกแล้วเมื่อ อลัน พาร์ดิว นำเข้าแข้ง ฝรั่งเศส มาร่วมทีมถึง 5 รายด้วยกัน

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จไปหมด เพราะทุกๆ โยฮัน กาบาย ก็จะมี โยฮัน กรุฟฟอง และทุกๆ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ก็จะมี มาปู ยองกา เอ็มบีวา

แกรห์ม คาร์ หัวหน้าทีมแมวมองเผยว่า ไมค์ แอชลีย์ อดีตเจ้าของทีมจอมงกมีนโยบายที่ชัดเจนมากในช่วงทศวรรษที่ 2010 - เขาต้องการเซ็นสัญญากับผู้เล่นราคาถูก อายุน้อยและสามารถขายต่อสร้างกำไรได้

"เราเลือกจะเดินทางไปทางตอนเหนือของ ฝรั่งเศส ก่อน เพราะมีทีมอย่าง ลีลล์, วาล็องเซียน และ ล็องส์ ซึ่งหมายความว่าเราจะสามารถเข้าไปชมเกมได้ 2-3 นัดในการเดินทางเพียงแค่ครั้งเดียว"

กระนั้นแข้งชาว ฝรั่งเศส คนแรกที่ปังปุริเย่จริงๆกลับมาจากทางตอนใต้อย่าง มาร์กเซย กับตัวรุกที่ชื่อ เบน อาร์กฟา

"จริงๆเราจับตาดูฟอร์มของ กาบาย มาตั้งแต่เขาอายุ 18 แล้ว แต่ตอนนั้น ลีลล์ ตั้งค่าหัวเขาไว้สูงถึง 10 ล้าน ซึ่งนั่นมันเกินเอื้อมสำหรับเรา"

กระทั่งในปี 2011 พวกเขาก็ได้ตัวกองกลางรายนี้มาร่วมทีมด้วยค่าตัวแค่ 4.8 ล้านปอนด์ เพราะสัญญาที่เหลืออยู่น้อยนิด ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นคีย์แมนของทีมได้อย่างรวดเร็วด้วยการผ่านบอลอันแม่นยำแลลูกนิ่งที่เฉียบขาด

เขาสร้างสรรค์เกมให้ เดมบา บา, ปาปิส ซิสเซ และ เบน อาร์กฟา ที่มาพร้อมกับการเล่นฟุตบอลที่น่าตื่นตาเป็นอย่างยิ่ง

ทว่า หลังจากที่ บา ย้ายไป เชลซี ในตลาดหน้าหนาวปี 2013 เงินที่ได้มาถูกใช้ลงทุนไปกับผู้เล่นที่ไม่ได้ช่วยยกระดับทีมอย่างที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้

หนำซ้ำเมื่อต้องเล่น ยูโรปาลีก ไปด้วย ผลงานในลีกของ นิวคาสเซิล จึงมีแต่จะถอยหลังลงคลองจนกลายเป็นทีมหนีตกชั้นอย่างสมบูรณ์แบบ

หลัง กาบาย ย้ายไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรได้ใช้เงินไปกับ ฟลอรีย็อง โตแว็ง แข้งมากพรสวรรค์ที่กลับไม่สามารถแจ้งเกิดได้จนต้องกลับไป มาร์กเซย ในฤดูกาลถัดมา

จนถึงตอนนี้นโยบายลงตลาด ฝรั่งเศส ก็ถูกใช้งานไปทั่ว พรีเมียร์ลีก แล้ว และเมื่อพวกเขาหันไปหาแข้ง ดัตช์ อย่าง เวอร์นอน อนิต้า และ เซียม เดอ ยอง มันก็กลายเป็นความล้มเหลว

ท้ายที่สุดในปี 2016 พวกเขาก็ตกชั้นลงไปยัง แชมเปี้ยนชิพ แม้จะเพิ่งเปย์หนักไปถึง 80 ล้านปอนด์ในฤดูกาลก่อนหน้าพร้อมปิดฉากการเป็นศูนย์รวมดาวเตะจาก ลีกเอิง ไปโดยปริยาย