[NOSTALGIA] ก่อนยุครุ่งเรือง ! ย้อนดู 11 ตัวจริง แมนฯ ซิตี้ ก่อนท่าน ชีค เข้ามาเทคโอเวอร์
1 กันยายน 2008 คือวันที่ ชีค มานซูร์ เข้ามาครอบครองสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับสามารถสร้างให้ เรือใบสีฟ้า กลายเป็นยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ ด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย รวมไปถึงแชมป์ ลีก คัพ อีก 5 สมัย มาย้อนดูกันว่า 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นในเกมซึ่งพวกเขาเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ไป 3-0 ผู้เล่นของพวกเขาทั้ง 11 ตัวจริงมีใครบ้างและในตอนนี้พวกเขาอยู่ไหนกันแล้ว
1. ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท
ฮาร์ท ติดทีมชาติ อังกฤษ ในฤดูกาลนั้นพร้อมยึดตำแหน่งมือ 1 ของ ซิตี้ มาอย่างยาวนาน ก่อนการเข้ามาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในปี 2016 จะทำให้เขาต้องถูกลดบทบาทลงและถูกส่งออกไปให้ โตริโน ยืมไปใช้ ก่อนจะตามด้วย เวสต์แฮม ในซีซั่นต่อมา หลังหมดสัญญากับ เรือใบสีฟ้า เขาได้รับโอกาสอีกครั้งที่ เบิร์นลีย์ แต่ก็เป็นเพียงในฐานะนายประตูมือ 2 ปัจจุบันเขาเพิ่งย้ายมา ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ของ โจเซ มูรินโญ โดยได้รับบทเป็นตัวสำรองของ อูโก้ ยอริส อีกเช่นกัน
2. แบ็คขวา : เวดราน ชอร์ลูก้า
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือเกมสุดท้ายของ ชอร์ลูก้า กับสโมสร เพราะในวันรุ่งขึ้นเขาก็ถูกขายให้กับ สเปอร์ส ทันที ปัจจุบันในวัย 34 แบ็คชาว โครเอเชีย กำลังเล่นอยู่กับ โลโคโมทีฟ มอสโก ในลีก รัสเซีย
3. เซ็นเตอร์แบ็ค : ไมกาห์ ริชาร์ดส์
หนึ่งในลูกหม้อไม่กี่คนที่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมมาได้หลังจากการเข้ามาเทคโอเวอร์ของ ชีค ทว่าหลัง ทีมของเขา สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แรก มาได้ในรอบ 44 ปี ริชาร์ดส์ ก็ต้องพบกับอาการบาดเจ็บที่ส่งผลให้เขาจำใจต้องเลิกเล่นฟุตบอลไปในที่สุด ปัจจุบันในวัย 32 เจ้าตัวกำลังไปได้สวยกับงานใหม่ที่ช่อง สกายสปอร์ตส์
4. เซ็นเตอร์แบ็ค : ริชาร์ด ดันน์
ริชาร์ด ดันน์ จบฤดูกาล 2008/09 ด้วยการเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรถึง 4 ปีซ้อน ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายออกไปเล่นที่ แอสตัน วิลลา และ แขวนสตั๊ดกับ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ในปี 2015
5. แบ็คซ้าย : ไมเคิล บอล
ไมเคิล บอล ไม่สามารถยึดตัวจริงในทีมได้แบบถาวรตลอดช่วงเวลาของเขากับ อดีตต้นสังกัด ในปีต่อมา บอล พบกับอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าจนต้องพักยาวไปเกือบปี ก่อนจะหวนกลับมาลงสนามให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เพียง 3 นัด แล้วก็ต้องตัดสินใจเลิกเล่นไปในที่สุด
6. ปีกขวา : สตีเฟน ไอร์แลนด์
ไอร์แลนด์ มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดของเกมนี้ในฐานะผู้ทำประตูแรกของเกม เขาสามารถจับคู่กับ โรบินโญ ที่ย้ายเข้ามาในอีก 1 อาทิตย์หลังการเทคโอเวอร์ กลายเป็นสองแนวรุกคนสำคัญของ ซิตี้ และตัดสินใจย้ายตาม มาร์ค ฮิวจ์ส ไป สโต็ค ซิตี้ ในเวลาต่อมา ปัจจุบันในวัย 34 ปีเขาเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วหลังแยกทางกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อปี 2017
7. กองกลาง : ไมเคิล จอห์นสัน
ชายผู้ครั้งหนึ่งสมัยเป็นดาวรุ่งเคยได้รับคำชมจาก ดีทมาร์ ฮามันน์ ว่าเป็นคนที่มีความเข้าใจเกมสูงกว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด น่าเศร้าที่เขาต้องถูกรบกวนโดยอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งจนตัดสินใจอำลาวงการไปในปี 2012
8. กองกลาง : แวงซองต์ กอมปานี
ใช่...ครั้งหนึ่งอดีตคีย์แมนคนสำคัญที่พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เถลิงแชมป์มานับไม่ถ้วนเคยเล่นในตำแหน่งกองกลางมาก่อน ปัจจุบันเขาเป็นผู้จัดการทีม อันเดอร์เลชท์ ในลีก เบลเยียม
9. กองกลาง : ดีทมาร์ ฮามันน์
เช่นเดียวกับ ชอร์ลูก้า นี่เป็นเกมสุดท้ายของ ดีดี้ ก่อนจะย้ายไปยัง โบลตัน และปัจจุบันเขากลายเป็นกูรูฟุตบอลทางช่องทีวีของ เยอรมัน
10. ปีกซ้าย : ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์
ฟิลลิปส์ ยิงไปสองประตูในครึ่งหลัง สำหรับเกมนี้ โดยเขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงต่อไปได้อีกเกือบ 2 ปี ก่อนจะต้องย้ายออกมายัง คิวพีอาร์ และเพิ่งตัดสินใจแขวนเกือกเมื่อปีก่อนกับสโมสร ฟีนิกซ์ ไรซิง ในสหรัฐ อเมริกา
11. กองหน้า : โช
โช ไม่ประสบความสำเร็จบนลีกสูงสุดของ อังกฤษ ทั้งกับ ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน ปัจจุบันเขากลับไปเล่นในลีกบ้านเกิดกับ โครินเธียนส์ โดยช่วงที่พีคที่สุดของ กองหน้าชาวบราซิล คือตอนย้ายไปเล่นให้กับ นาโกยา แกรมปัส ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขายิงไปถึง 30 ประตู ใน 65 เกม
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด