[NOSTALGIA] ใจหายใจคว่ำ ! จุดโทษแรกในอาชีพค้าแข้งของ ชาบี อลอนโซ

UEFA Champions League Final - AC Milan v Liverpool
UEFA Champions League Final - AC Milan v Liverpool / Mike Hewitt/Getty Images
facebooktwitterreddit

ลิเวอร์พูล คือทีมจอมคัมแบ็คทีมหนึ่งอย่างที่เราได้เห็นพวกเขากลับมาเอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0 ใน ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศเลกสองฤดูกาลก่อนหลังแพ้มาในเลกแรก 3-0 จนคว้าแชมป์ไปครองในที่สุด

แต่หนึ่งในการคัมแบ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและยังถูกเล่าขานมาจนถึงปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นเกมชิงชนะเลิศถ้วยบิ๊กเอียร์นี้เองในปี 2005 ที่กรุงอิสตันบูลประเทศตุรกี

AC Milan v Liverpool - UEFA Champions League Final
AC Milan v Liverpool - UEFA Champions League Final / Etsuo Hara/Getty Images

ในการเจอกับทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปในสมัยนั้นอย่าง เอซี มิลาน ดูแล้ว ลิเวอร์พูล ก็เป็นรองอยู่ทุกประตูและหลังจบครึ่งแรก เดอะค็อป หลายคนแทบจะปิดทีวีนอนไปแล้วหลังโดนนำถึง 3-0 พร้อมรูปเกมที่ไม่น่ากลับมาได้เลย

อย่างที่รู้ๆ กันเมื่อท้ายที่สุด หงส์แดง ก็ตามมาตีเสมอในเวลา 3-3 ก่อนจะชนะจุดโทษไปพร้อมฝากเรื่องน่าจดจำไว้มากมาย

แต่ก็มีหนึ่งเรื่องที่ ซาบี อลอนโซ จำได้ฝังใจกับในเกมสุดมหัศจรรย์เกมนั้นมาจนถึงทุกวันนี้.....

UEFA Champions League Final - AC Milan v Liverpool
UEFA Champions League Final - AC Milan v Liverpool / Clive Brunskill/Getty Images

นั่นคือตอนที่ ลิเวอร์พูล ยังตามหลังอยู่ 3-2 และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โดน เจนนาโร กัตตูโซ ทำฟาวล์ในกรอบ 18 หลา ก่อนมิดฟิลด์มาดคุณชายจะเดินเอาลูกไปวางตรงจุดโทษอย่างมั่นใจแม้จะไม่เคยสังหารมันในเกมเป็นทางการมาซักครั้งก่อนหน้านี้

"นี่มันเป็นจุดโทษครั้งแรกในการเล่นระดับอาชีพของผม ผมไม่เคยยิงมันเลยซักครั้งตอนอยู่กับ เรอัล โซเซียดาด ผมรู้ว่ามันเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่แต่ตอนนั้นก็ไม่กังวลอะไรเลย" อดีตกองกลางทีมชาติสเปนกล่าวผ่าน Anfieldwrap ในภายหลัง

"พรีเมียร์ลีก เกมล่าสุด สตีวี่ เพิ่งพลาดจุดโทษไป ราฟา เบนิเตซ เลยบอกว่าถ้าเราได้ในเกมนี้จะให้ผมหรือไม่ก็ แฮร์รี คีลล์ ยิง"

วินาทีที่ลั่นไกไปทางซ้ายมือก็เป็นนายทวารจอมหนึงอย่าง ดีด้า พุ่งเซฟได้ปลายมือ แต่ด้วยปฏิกิริยาอันว่องไวก็ทำให้ อลอนโซ ตามเข้าไปซ้ำได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด

แต่ถ้าหากมันเกิดไม่เข้าขึ้นมาประวัติศาสตร์คงจะออกไปอีกหน้าและ อลอนโซ ก็อาจจะไม่ใช่ฮีโร่ของ เดอะ ค็อป อย่างในทุกวันนี้

"ผมดูรูปตัวเองตอนยิงจุดโทษและเห็นได้ชัดเลยว่าหน้าในตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความกังวลและการต้องแบบรับความรับผิดชอบ" เขากล่าวผ่าน Fourfourtwo เมื่อปี 2017 "หากซ้ำไม่เข้าเรื่องราวของผมกับ ลิเวอร์พูล คงต่างออกไปจากนี้แน่นอน"

หลังจบเกม อลอนโซ ก็คืนความคิดที่จะมาเป็นคนยิงจุดโทษเบอร์ต้นๆ ของทีมให้ ราฟาเอล เบนิเตซ ไป แต่แน่นอนว่าหากทีมต้องการเขาก็ยังกล้าพอจะรับหน้าที่นี้แม้อาจจะแหยงๆ อยู่บ้าง

จากวันนั้นจนกระทั้งเลิกเล่นเป็นเวลา 10 กว่าปีแม้จะไม่ใช่มือวางอันดับหนึ่งแต่เขาก็ยังได้ยิงจุดโทษอยู่เรื่อยๆ ให้กับทั้งสโมสรและทีมชาติ

ครั้งสุดท้ายที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษกับทีมชาติเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 2014 ซึ่งแม้จะยิงเข้าแต่สุดท้ายแล้วทีมชาติสเปนก็โดนทีมชาติเนเธอร์แลนด์ถล่มไปถึง 1-5

ส่วนกับสโมสรอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ล่าสุดที่เราได้เห็น อลอนโซ ยิงจุดโทษก็คือปี 2015 แต่ก็เป็นการพลาดลื่นล้มยิงหลุดออกไปไกลทำให้แพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตกรอบ เดเอฟเบ โพลคาล ไป

จากทุกเรื่องที่กล่าวมาการยิงจุดโทษจึงอาจจะไม่ใช่ของโปรดของ อลอนโซ นัก แต่ถึงยังไงเขาเองก็ยังถูกจดจำในฐานะหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลกคนหนึ่งไม่ว่าจะเล่นภายใต้สีเสื้อใดก็ตาม


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด