เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกม ยูโร 2020 : เนเธอร์แลนด์ เบียดชนะ ยูเครน สุดระทึก 3-2

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูโร 2020ร อบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : เนเธอร์แลนด์ 3-2 ยูเครน
สนาม : โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา

เนเธอร์แลนด์ ของ แฟรงค์ เดอ บัวร์ เริ่มต้น ยูโร 2020 ของพวกเขาด้วยการเอาชนะ ยูเครน 3-2 กับช่วงเวลา 90 นาทีที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดในทัวร์นาเมนต์จวบจนถึงตอนนี้

เริ่มเกมมาได้ไม่เท่าไหร่ เมมฟิส เดปาย ก็แผลงฤทธิ์ลากบอลจากนอกกรอบเข้าไปยิงเรียดๆ แต่ยังติดเซฟของ บูชาน

นาทีที่ 5 โอกาสของ เนเธอร์แลนด์ มาอีกครั้งจากการประสานงานกันของ ไวจ์นัลดุม และ เดปาย ก่านจะผ่านบอลไปให้ ดัมฟรีส์ ที่เติมมาจากฝั่งขวาได้จบสกอร์แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ บูชาน

ยูเครน เองก็ไม่ได้รอให้โดนบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียวและมีโอกาสได้เปิดเกมรุกใส่ เนเธอร์แลนด์ อยู่บ้าง

นาทีที่ 30 ยาร์โมเลนโก ล็อคหนี บลินด์ ได้โอกาสยิง แต่บอลเบาไปนิด

บูชาน ผู้รักษาประตู ยูเครน ช่วยให้เกมยังคงไร้สกอร์ต่อไปจากการเซฟลูกยิงวอลเลย์อันสวยงามของ ไวจ์นัลดุม จากนอกกรอบก่อนจะตามด้วยลูกโหม่งของ เดนเซล ดัมฟรีส์ จากระยะหกหลาที่หลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดายจริงๆ

หมด 45 นาทีแรกไปแบบไร้สกอร์

ยูเครน ดูจะปรับไปเน้นเกมรับมากกว่าครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด

นาทีที่ 52 เนเธอร์แลนด์ออกนำแล้ว 1-0 ในจังหวะที่ ดัมฟรีส์ เติมมาทางขวามือก่อนจะตบเข้ากลาง บูชาน ปัดทิ้งออกไปเข้าทางปืน ไวจ์นัลดุม วิ่งมาซัดตูมเดียวหาย

นาทีที่ 55 บอลจาก เดปาย ถึง เวกฮอสต์ ได้ยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษแต่ยังไม่ผ่านมือ บูชาน

นาทีที่ 59 เนเธอร์แลนด์ ขึ้นนำเป็น 2-0 จาก ดัมฟรีส์ คนเดิมวิ่งเติมมาสุดเส้นก่อนจะผ่านบอลเข้ากลางไปถึง เวกฮอสต์ ได้ยิงระยะเผาขนเข้าประตูไป

เนเธอร์แลนด์ เริ่มเล่นช้าลงและเน้นครองบอลมากขึ้น

นาทีที่ 75 ยาร์โมเลนโก รับบอลมาจาก ยาเรมชุค ก่อนจะตัดเข้ากลางแล้วลองยิงไกลทันที บอลพุ่งเสียบมุมตุงตาข่าย ยูเครน ไล่ตามมาเป็น 2-1

ส่วนหนึ่งต้องโทษสามเซ็นเตอร์ของ เนเธอร์แลนด์ ที่เปิดพื้นที่ให้แนวรุกของ ยูเครน เล่นกันได้

นาทีที่ 79 2-2 ยูเครน ไล่ตามมาได้สำเร็จจากลูกโหม่งของ ยาเรมชุค

ลูกตีเสมอของ ยูเครน ช่วยปลุกให้เหล่าแข้ง ดัตช์ กลับมาตื่นตัวกันอีกครั้ง

นาทีที่ 85 เนเธอร์แลนด์ กลับมาขึ้นนำอีกครั้ง อาเก้ ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมา เปิดบอลจากนอกกรอบฝั่งซ้ายไปถึง ดัมฟรีส์ เทคตัวโหม่งหนีตัวประกบ บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย 3-2

เนเธอร์แลนด์ ประเดิมเก็บสามแต้มได้แบบหืดจับเล็กน้อย

คะแนนนักเตะทั้งสองทีม

เนเธอร์แลนด์

สเตเคเลนเบิร์ก (6), ทิมเบอร์ (6), เดอ ฟราย (7), บลิดน์ (7), ดัมฟรีส์ (8), เดอ รูน (6), ไวจ์นัลดุม (8), เดอ ยอง (7), ฟาน อาน โฮลท์ (6), เวสฮอสต์ (7), เดปาย (7)

ตัวสำรอง : อาเก้ (7), ไวจ์นดัล (6), เดอ ยอง (6), เวลท์แมน (6), มาเลน (6)

ยูเครน

บูชาน (7), คาราวาเยฟ (6), ซาบานยี (6), มัธวีเยนโก (5), มายโกเลนโก (5), ซินเชนโก (4), ซีดอร์ชุค (5), มาลินอฟสกี (6), ยาร์โมเลนโก (7), ซุบค็อฟ (6), ยาเรมชุค (7)

ตัวสำรอง : มาร์ลอส (4), ชาร์ปาเลนโก (6)

คีย์แมน

เดนเซล ดัมฟรีส์

มีส่วนร่วมอยู่กับเกมเสมอ (และมีส่วนร่วมกับทั้งสามประตูของทีมอีกด้วย) พลังงานอันล้นเหลือของเขาสร้างปัญหาให้กับ ยูเครน อย่างมากและหากข่าวลือกับ เอฟเวอร์ตัน เป็นจริง ดัมฟรีส์ นี่แหละคือคนที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการก้าวขึ้นมาแทนที่ของ เชมุส โคลแมน ที่สร้างมาตรฐานไว้สูงพอสมควรใน กูดิสัน พาร์ค

อย่างไรก็ตามเรื่องเกมรับของเขาอาจจะดูมีปัญหาเล็กน้อยจากการเปิดพื้นที่ให้ ยาเรมชุค เล่นได้ง่าย และการตามประกบก็ยังดูหลุดๆอยู่บ้าง

ประเด็นหลังเกม

เกมรับอันหละหลวม

แม้ มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก จะทำอะไรไม่ได้มากกับลูกยิงอันเฉียบขาดของ ยาร์โมเลนโก แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามความจริงที่ว่าเซ็นเตอร์ชาว ดัตช์ ทั้งสามคนเปิดพื้นที่ให้ ยูเครน เล่นกันได้ง่ายอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับลูกตีเสมอ 2-2 ที่เกิดขึ้นจากการประกบที่ผิดพลาดอีกเช่นกัน

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด