โรนัลโด้ ซัดพา แมนยู ไล่เจ๊า เชลซี ในบ้าน - Match Report
การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: คืนวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2022
เวลาแข่งขัน: 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี
สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด
แมนฯ ยูไนเต็ด เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องเรียกตัวแข้งดาวรุ่งมาประจำการที่ซุ้มม้านั่งสำรองถึง 4 ราย รวมไปถึง เอลังก้า ที่ได้ออกสตาร์ทเคียงข้างกับ แรชฟอร์ด แทนที่ ซานโช อีกด้วย
หลังครองบอลได้เหนือกว่าเล็กน้อย โอกาสครั้งแรกเป็นของ รีซ เจมส์ ในนาทีที่ 5 กับลูกยิงไกลนอกกรอบที่ทำเอา เดเคอา ต้องออกแรงปัดทิ้งออกไป
ตามมาด้วยอีก 2-3 จังหวะที่ เชลซี พาบอลเข้าไปถึงแดนอันตรายได้แต่การจบสกอร์กลับยังทำได้ไม่ค่อยดี
นาทีที่ 10 โอกาสแรกของ ยูไนเต็ด มาแล้ว เมื่อ เตลเลส เปิดไปให้ บรูโน ได้โขก ต่อเนื่องกับ แรชฟอร์ด ที่เลี้ยงจี้ อัซปิลิกวยต้า จนได้ลูกเตะมุมที่ไปจบลงด้วยการตีลังกายิงออกไปเองของ โรนัลโด้
เชลซี ดูจะเน้นเล่นงานที่ฝั่งซ้ายของเจ้าบ้านมากเป็นพิเศษและการที่ เมสัน เม้าท์ กับ เจมส์ ได้มีพื้นที่เล่นอยู่บ่อยๆก็ทำให้เข้าใจได้ว่าเหตุใด ทูเคิล จึงตัดสินใจเช่นนั้น
แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นกันค่อนข้างสะเปะสะปะจนขึ้นเกมไม่ได้และเกมรับก็หละหลวมปล่อย ก็องเต้ ให้เล่นได้อย่างใจอยาก ก่อนในนาทีที่ 27 เขาจะแทงให้ ฮาแวร์ตซ์ ได้หลุดไปยิงเหน่งๆแต่ เดเคอา ยังออกมาบล็อคออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อีกหนึ่งเซฟจังๆของ เดเคอา เมื่อ เจมส์ เปิดบอลเข้ากลางอย่างแม่นยำถึงหัว ฮาแวร์ตซ์ ในนาทีที่ 37
นาทีที่ 40 แฟร์นันดส์ หลุดมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ แต่ตัดสินใจพลาดเลือกจ่ายให้ โรนัลโด้ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแทนที่จะลองเสี่ยงสับไกเต็มข้อดูเอง
เชลซี เปิดครึ่งหลังมาด้วยโอกาสยิงของ เม้าท์ ที่หลุดกรอบออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
เกมรับของ ยูไนเต็ด ดูดีขึ้นพอสมควรเมื่อต้องรับมือกับลูกเปิดของ เชลซี และการวิ่งหาช่องอยู่เรื่อยๆของสองหัวหอก
ไม่น่าชมเลย! นาทีที่ 60 เชลซี ขึ้นนำแล้วจาก เจมส์ ที่เปิดเข้ากลางถึง ฮาแวร์ตซ์ โหม่งเช็ดสะกิดบอลมาตกตรงหน้า อลอนโซ ได้ง้างเต็มแรงส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
เฮ ไม่นานอีกอึกใจเดียว คริสเตียโย โรนัลโด้ ซัดไล่เจ๊ามาเป็น 1-1 เริ่มต้นจาก ก็องเต้ ที่จ่ายพลาดไปเข้าเท้า ดาโลต์ บอลไปถึ มาติช ยกให้กองหน้าวัยเก๋าดูดบอลลงมายิงอย่างเฉียบ
เชลซี ไม่มีเวลาให้มาช็อค เขี่ยลูกเริ่มเล่นพร้อมเซตเกมบุกใส่จากทางขวาเหมือนเดิม
ทูเคิล ปรับทัพส่ง พูลิซิช และ ลูกากู ลงมาเพื่อหวังเจาะแนวรับของ ยูไนเต็ด ที่ดูจะรอเล่นเกมสวนกลับท่าเดียวเอาเสียแล้ว
โรนัลโด้ แม้ไม่ได้สวมปลอกแขนกัปตันแต่ก็แสดงท่าทีกระตุ้นรุ่นน้องในทีมอยู่ตลอดให้เดินเกมบุกขึ้นมาสู้บ้าง
นาทีที่ 73 แรชฟอร์ด ได้ทีติดเครื่องโจมตีใส่ เชลซี แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ ก็องเต้ เข้ามาหยุดเกมของ ยูไนเต็ด เอาไว้ได้
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย รังนิค ส่ง มาต้า และ โจนส์ ลงมาแทน แรชฟอร์ด และ มาติช
ท้ายเกม ยูไนเต็ด กล้าเปิดหน้าแลกมาขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะแจ้งอะไรมากนัก
จบ 90 นาทีกันไปแบบสมานฉันท์