โควาซิช ตะบันเต็มข้อ! เชลซี ตามสองเม็ดก่อนไล่รัวท้ายครึ่งแรกตามเจ๊า ลิเวอร์พูล - Match Report

การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2022
เวลาแข่งขัน: 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: เชลซี 2-2 ลิเวอร์พูล
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์

เริ่มเกมกันด้วยใบเหลืองของ มาเน ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีแรก เมื่อเขาเทคตัวขึ้นเอาศอกฟาดใส่หน้าของ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา

เชลซี ครองเกมได้อย่างหมดจดในช่วง 4 นาทีแรก

แต่โอกาสจะแจ้งหนแรกเป็นของทีมเยือนเมื่อ ซาลาห์ ได้สับไกให้ รูดิเกอร์ เข้าไปบล็อคจนเกือบจะเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง

เชลซี เอาบ้างกับลูกยิงของ พูลิซิช ที่ยังไม่ผ่านมือของ เคลเลเฮอร์

ลิเวอร์พูล ขึ้นนำก่อนแล้วในนาทีที่ 9 จากจังหวะที่ โชต้า สาดขึ้นหน้ามาแต่ ชาโลบาห์ โหม่งสกัดไม่ดีไปเข้าทาง มาเน ฉกไปล็อคหนี เมนดี้ ได้ล่อเป้าเหน่งๆ 1-0

หลังจากถูกออกนำไปตั้งแต่นาทีที่ 9 ถึงถิ่นตัวเอง เชลซี ก็โหมบุกเข้าใส่ ลิเวอร์พูล เต็มกำลัง แต่การจะเจาะแนวรับของทีมเยือนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

อลอนโซ พยายามเติมไปหาช่องจบได้บ้างแต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะตีไข่แตกได้

นาทีที่ 25 ลิเวอร์พูล บวกได้อีกเม็ดจาก ซาลาห์ - เริ่มต้นจากการเคาะบอลกันแบบเนียนตา ก่อนที่ เทรนต์ จะโยนให้ตัวรุกชาว อียิปต์ ลากหนี อลอนโซ ไปยิงแสกหน้า เมนดี้ เข้าไปตุงตาข่ายแบบง่ายดายเกินคาด

เห็นได้ชัดว่าเกมรับของ ทูเคิล มีปัญหาอย่างหนัก ขณะที่เกมรุกเมื่อมีโอกาสก็ได้แค่ขึงแต่ไม่สามารถไปต่อได้มากกว่านั้น

นาทีที่ 31 เหมือนสถานการณ์ยังไม่แย่พอ เมสัน เม้าท์ ยังพาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับการโดนใบแดงอีก หลังชน ซิมิกาส ล้มแล้วแอบแถมสะกิดด้วยแข้งเบาๆตอนลุกขึ้น

นาทีที่ 41 เชลซี ไล่มาเป็น 1-2 ตั้งต้นจากฟรีคิกที่นอกกรอบเขตโทษ เคลเลเฮอร์ ปัดทิ้งมาเข้าทางปืน โควาซิช ซัดวอลเลย์ตูมเดียวสวนกลับไปกระดอนเสาเข้าประตูอย่างสุดอลัง

โมเมนตั้มเริ่มมา เชลซี เลยขออีกเม็ดจากจังหวะที่ ลิเวอร์พูล เคลียร์กันไปกันมาไม่ขาด บอลไปถึง ก็องเต้ สะกิดให้ พูลิซิช หลุดไปดวลกับ เคลเลเฮอร์ ก่อนจะยิงยัดเข้ามุมบนของตาข่ายพร้อมไล่ตามมาได้สำเร็จ 2-2

ไม่เพียงเท่านั้น เชลซี ยังเกือบพลิกแซงได้ช่วงท้ายครึ่งในจังหวะที่ อลอนโซ เปิดยาวไปถึง ไค ฮาเวิร์ตซ ยิงไปติดบล็อคก่อน เม้าท์ ได้ซ้ำหลุดกรอบไปนิดเดียวเท่านั้น

ออกสตาร์ทครึ่งหลังมาทั้งสองทีมยังคงดูเชิงกันอยู่ ไม่กล้าแลกเหมือนอย่างท้ายครึ่งแรกแล้ว

โอกาสทองครั้งแรกเป็นของ ซาลาห์ ในนาทีที่ 56 กับจังหวะสวนกลับที่ โชต้า บังบอลได้ดี ก่อนจะผ่านต่อไปให้ ซาลาห์ แหวกไปลองยิงไกลให้ เมนดี้ ต้องออกแรงเซฟ

นาทีที่ 61 โอกาสของ พูลิซิช ได้ยิงจ่อๆแต่ยังไม่ผ่านมือของ เคลเลเฮอร์

จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าแดนกลางของ ลิเวอร์พูล จะสู้ เชลซี ไม่ได้เลย บอลของ เชลซี จึงผ่านไปสู่แดนอันตรายของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

นาทีที่ 70 หลัง ทูเคิล ปรับมาเล่นกองกลางสามตัวด้วยการใส่ จอร์จินโญ ลงไปแทน ชาโลบาห์ ก็ดูเหมือน ลิเวอร์พูล จะได้ครองบอลมากขึ้น

ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเจ้าบ้านถอยกันลงไปแพ็คเกมในแดนตัวเองบ่อยขึ้นด้วย เกมรุกของ หงส์แดง จึงสร้างความอันตรายอะไรไม่ได้มาก

ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเกมกลับมาเป็นของ เชลซี อีกครั้ง โดยที่ ลิเวอร์พูล สลับถอยลงไปตั้งรับลึกรอสวนกลับบ้าง

จบ 45 นาทีหลัง ไม่มีการทำประตูเพิ่มในเกมที่ดุเดือดเลือดพล่านนี้ โดยทั้งสองฝ่ายแบ่งแต้มกันไปคนละแต้ม

เชลซี ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ที่แข่งเท่ากัน 10 คะแนน ส่วน ลิเวอร์พูล แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัดตามอยู่ 11 แต้ม