3 นักเตะ แมนยู ผู้สานต่อตำนานรองแชมป์แบบ บัลลัค - FEATURE

Manchester United v Arsenal - Premier League
Manchester United v Arsenal - Premier League / Visionhaus/Getty Images
facebooktwitterreddit

ถือว่าเป็นปีที่ไม่น่าจดจำของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งเป็น 3 นักเตะ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง เพราะทำได้ดีที่สุดเพียงแค่สวมบท "พระรอง" จนถึงช่วงกลางปี 2021 จากการเข้าป้ายรองแชมป์ถึง 3 รายการ ไล่ตั้งแต่ในเกมระดับสโมสรที่เข้าป้ายรองแชมป์พรีเมียร์ลีก และรองแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก จากการปราชัยให้กับ บียาร์เรอัล ในช่วงดวลจุดโทษตัดสินเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนในระดับชาติได้ติดโผทัพลูกหนัง "สิงโตคำราม" อังกฤษ ผ่านเข้าถึงนัดชิงยูโร 2020 แต่กลับไปไม่ถึงฝั่งฝันจากการพลาดท่าแพ้ "อัซซูรี่" อิตาลี ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน จึงได้สัมผัสเพียงรองแชมป์ด้วยเช่นกัน

Jadon Sancho, Marcus Rashford, Harry Maguire, Harry Kane, Luke Shaw, Bukayo Saka, Jack Grealish, John Stones, Kalvin Phillips, Raheem Sterling
Italy v England - UEFA Euro 2020: Final / Laurence Griffiths/Getty Images

เท่ากับว่า 3 แข้งดัง "ปีศาจแดง" ทำได้ดีที่สุดเพียง "ทริปเปิ้ลรองแชมป์" จากการเข้าป้าย 2 รองแชมป์ในเกมระดับสโมสร และอีกหนึ่งรองแชมป์ระดับชาติ ซึ่งรวมกันทั้งหมดเป็น 3 รายการนั่นเอง แม้จะเป็นเรื่องที่น่าน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา แต่อย่างน้อยทั้ง 3 คนดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นนักเตะกลุ่มแรกที่ต้องไร้วาสนาในเรื่องความสำเร็จแบบนี้ เพราะว่าในอดีตเคยมี 5 ขุนพลแข้งทีมชาติเยอรมนีขของ "ห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ต้องชอกช้ำใจหนักกว่านี้เสียด้วยซ้ำ

ย้อนหลังกลับไปในช่วงฤดูกาล 2001/2002 ตอนนั้น "ห้างขายยา" กำลังโชว์ฟอร์มห้าวแบบสุดขีด ซึ่งอยู่ภายใต้การนำทัพของ มิชาเอล บัลลัค เจ้าของสมญานามที่แปลเป็นไทยว่า "ไกเซอร์น้อย" หรือจักรพรรดิแห่งวงการฟุตบอลเยอรมันในยุคนั้นเลยด้วย เพราะมีลุ้นคั่วแชมป์ถึง 3 รายการเลยทีเดียว แต่สุดท้ายกลับคว้าน้ำล้มเหลวจากการเข้าป้ายรองแชมป์ทั้งหมดเลย ไล่ตั้งแต่ รองแชมป์บุนเดสลีกา เพราะพลาดท่าโดน "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แซงหน้าเข้าวินในช่วงบั้นปลายนั่นเอง และทำได้ดีที่สุดเพียงรองแชมป์เดเอฟเบ โพคาล จากการปราชัยให้กับ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ ในนัดชิงชนะเลิศ 4-2

Bayer Leverkusen
Bayer Leverkusen / Shaun Botterill/Getty Images

นอกจากนี้ เลเวอร์คูเซ่น ได้ทะลุเข้านัดชิง "เจ้าสโมสรยุโรป" อีกด้วย เพราะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ 1-2 จึงทำได้ดีที่สุดเพียงรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย และต้องจำใจรับตำแหน่ง "ทริปเปิ้ลรองแชมป์" ในเกมระดับสโมสรไปเลย หลังจากนั้น บัลลัค รวมถึงอีก 4 นักเตะของ "ห้างขายยา" นั่นก็คือ ฮันส์-ยอร์จ บุตต์, คาร์สเท่น ราเมโลว์, โอลิเวอร์ นอยวิลล์ และ แบรนด์ ชไนเดอร์ ได้ถูกเรียกตัวให้ไปรับใช้ทัพลูกหนัง "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ในศึกฟุตบอลโลก 2002 ทั้งหมดเลยด้วย

แม้ว่า 5 ขุนพลแข้งของ เลเวอร์คูเซ่น จะสามารถช่วยให้ทีมบ้านเกิดผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ได้ด้วย แต่กลับต้องพบกับความชอกช้ำใจอีกครั้ง เพราะเป็นฝ่ายแพ้ "แซมบ้า" บราซิล ในนัดชิง 0-2 ทำให้ทั้ง 5 คนดังกล่าวได้สัมผัสเพียงแค่รองแชมป์ฟุตบอลโลกในเกมระดับชาติไปอีกหนึ่งรายการด้วยเลย จึงถือว่าอาภัพเรื่องของความสำเร็จในช่วงปี 2002 อย่างแท้จริง เพราะเข้าป้ายรองแชมป์ถึง 4 รายการเลยทีเดียว

Michael Ballack
Germany's Michael Ballack celebrates his 39th minu / EMMANUEL DUNAND/Getty Images

อย่างน้อย 3 นักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าอาภัพน้อยกว่า บัลลัค และเพื่อนพ้อง "ห้างขายยา" เมื่อ 18 ปีก่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็คงจะไม่นักเตะคนใดอยากจะไร้วาสนาในเรื่องของความสำเร็จแล้วเดินตามรอยความชอกช้ำใจแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าทุกคนก็อยากจะเป็นฝ่ายสมหวังได้ชูถ้วยรางวัลกันทั้งนั้น จึงไม่มีใครอยากจะเป็นเพียงแค่ "พระรอง" ในฐานะรองแชมป์นั่นเอง

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด