5 ดาวเตะคัมแบ็กทีมเก่าด้วยค่าตัวสุดแพงแบบ ลูกากู - FEATURE

Belgium Training Session and Press Conference
Belgium Training Session and Press Conference / Isosport/MB Media/Getty Images
facebooktwitterreddit

ได้หวนกลับมาค้าแข้งในทีมเดิมอีกครั้งหนึ่งจนได้ สำหรับ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม โดย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินให้ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการดึงตัวกลับคืนสู่ถิ่นเก่าเป็นครั้งที่ 2 ด้วยค่าตัวสูงถึง 97.5 ล้านปอนด์ และได้ขึ้นแท่นเป็นเจ้าของสถิตินักฟุตบอลค่าตัวแพงที่สุดของ เชลซี ไปด้วยเลย เพราะได้ทุบสถิติเดิมของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนเมื่อตอนที่ย้ายมาจาก แอธเลติก บิลเบา ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 71.6 ล้านปอนด์

Chelsea's Belgian striker Romelu Lukaku
Chelsea's Belgian striker Romelu Lukaku / GLYN KIRK/Getty Images

นอกจากนี้ ลูกากู ยังได้ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ในฐานะเจ้าของสถิตินักเตะที่ได้ย้ายกลับคืนสู่ทีมเก่าด้วยค่าตัวแพงที่สุดไปเลยด้วย โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นนักเตะของ เชลซี มาแล้วหนึ่งรอบเมื่อตอนที่ย้ายมาจาก อันเดอร์เลชท์ ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ แต่ต้องพเนจรออกไปค้าแข้งให้กับทีมต่างๆ เพราะตอนนั้นไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ ทำให้ดาวเตะวัย 28 ปีได้เดินตามรอยเท้าของ 5 นักเตะที่ได้คัมแบ็กทีมเดิมด้วยค่าตัวแพงๆ มาก่อนเหมือนกัน แต่ตอนนี้มีราคาน้อยกว่าดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมไปแล้วตามรายชื่อดังต่อไปนี้เลย


Paul Pogba
Manchester United v Leeds United - Premier League / Catherine Ivill/Getty Images

ปอล ป็อกบา

เริ่มต้นกันด้วย ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเคยรั้งอันดับ 1 แต่ตอนนี้หล่นลงไปอยู่อันดับ 2 เสียแล้ว โดยเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2011 แต่กลับไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรที่ใช้แจ้งเกิดบนเวทีลูกหนังโลก หลังจากนั้นได้ตัดสินใจย้ายไปซบ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ในปี 2012 แบบไม่มีค่าตัว เพราะมองว่าน่าจะมีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงได้มากกว่า และสามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวคุมเกมที่ดีที่สุดของโลกเลยด้วย ทำให้ "ปีศาจแดง" ยอมทุ่มเงินดึงตัวกลับมาร่วมทีมเป็นครั้งที่ 2 เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัวสูงถึง 89 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ซึ่งเคยเป็นสถิตินักฟุตบอลที่มีค่าตัวแพงที่สุดของโลกในตอนนั้นไปเลย


Mats Hummels
Borussia Dortmund v Manchester City - UEFA Champions League Quarter Final 1: Leg Two / BSR Agency/Getty Images

มัตส์ ฮุมเมลส์

ส่วนในรายของ มัตส์ ฮุมเมลส์ กองหลังทีมชาติเยอรมนีของ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งรั้งอยู่ในอันดับ 3 ได้เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งจากการเป็นเด็กปั้นของ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค มาก่อน แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ จึงถูกปล่อยให้ไปย้ายซบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2009 ด้วยค่าตัวเพียง 3.8 ล้านปอนด์เท่านั้น และทำผลงานจากการทำหน้าที่ยืนคุมแนวรับได้อย่างโดดเด่น ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจซื้อกลับมาร่วมทีมเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ แต่หลังจากนั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ลงทุนซื้อกลับมาเสริมแนวรับอีกรอบในปี 2019 ด้วยค่าตัว 31.5 ล้านปอนด์ เท่ากับว่าดาวเตะเมืองเบียร์ได้หวนกลับไปเล่นให้กับทีมเก่าถึง 2 สโมสรด้วยค่าตัวรวมกันทั้งหมด 69.3 ล้านปอนด์


Nicolas Anelka
Nicolas Anelka / Jamie McDonald/Getty Images

นิโกลาส์ อเนลก้า

ขณะที่ นิโกลาส์ อเนลก้า อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสตามมาเป็นอันดับ 4 โดยเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ "เปแอสเช" ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 1996 แต่ถูกปล่อยให้ย้ายไปซบ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในปี 1997 ด้วยค่าตัวเพียง 500,000 ปอนด์ โดยฝากผลงานยิงประตูได้อย่างโดดเด่น ทำให้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ตัดสินใจลงทุนคว้ามาเสริมแนวรุกในปี 1999 ด้วยค่าตัว 22.3 ล้านปอนด์ แม้จะโชว์ฟอร์มดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ทุ่มเงินคว้ากลับมาร่วมทีมเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2000 ด้วยค่าตัว 31 ล้านปอนด์ และได้แยกทางกันในปี 2002 หลังจากนั้นอดีตหัวหอกชาวเมืองน้ำหอมได้พเนจรย้ายไปโชว์ฝีเท้าให้กับหลายๆ สโมสรในประเทศต่างๆ ก่อนจะประกาศ "แขวนสตั๊ด" เลิกเล่นฟุตบอลกับ มุมไบ ซิตี้ ในประเทศอินเดียเมื่อปี 2015


Cesc Fabregas
FC Barcelona v RC Celta de Vigo - La Liga / Alex Caparros/Getty Images

เชส ฟาเบรกาส

ด้าน เชส ฟาเบรกาส กองกลางชาวสเปนของ โมนาโก อยู่ในอันดับ 5 โดยได้เริ่มเดินบนเส้นทางลูกหนังจากการเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า แต่ได้ตัดสินใจย้ายไปเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในปี 2003 และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมากๆ ทำให้ บาร์ซ่า ตัดสินใจซื้อกลับมาร่วมทีมเป็นรอบที่ 2 ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 30.6 ล้านปอนด์ แม้จะโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ แต่ว่าตอนนั้น "เจ้าบุญทุ่ม" มีผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ให้เลือกใช้งานได้หลายคนเลย โดยเฉพาะ ซาบี้ เฮอร์นันเดส, อันเดรียส อิเนียสต้า และ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ซึ่งเป็น 2 ประสานในแผงแดนกลางอยู่แล้ว จึงยอมปล่อยให้ย้ายไปร่วมทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในปี 2014 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ โดยปัจจุบันได้ย้ายไปค้าแข้งกับ โมนาโก มาตั้งแต่ปี 2019 แล้วด้วย


Nemanja Matic
Chelsea v Tottenham Hotspur - Premier League / Shaun Botterill/Getty Images

เนมันย่า มาติช

ปิดท้ายด้วย เนมันย่า มาติช กองกลางชาวเซอร์เบียของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอันดับ 6 ซึ่งเคยเป็นอดีตนักเตะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เมื่อตอนที่เป็นเพียงแข้งดาวรุ่งที่ย้ายมาจาก โคซิเซ่ ในปี 2007 ด้วยค่าตัวเพียง 1.5 ล้านปอนด์ แต่ตอนนั้นไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ จึงถูกปล่อยให้ย้ายไปซบ เบนฟิก้า ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ และโชว์ฟอร์มจากการทำหน้าที่คุมเกมในแผงแดนกลางได้อย่างโดดเด่น ทำให้ เชลซี ตัดสินใจคว้ากลับมาร่วมทีมเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2014 ด้วยค่าตัว 21 ล้านปอนด์ โดยคราวนี้ได้เป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์เลยด้วย แต่ได้ถูกขายเพื่อทำกำไรจากการปล่อยให้ย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2017 ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์จนถึงปัจจุบัน

นั่นคือรายชื่อของ 5 ดาวเตะที่ได้หวนกลับคืนสู่ทีมเก่าด้วยค่าตัวแบบสุดแพงมาก่อน แต่ตอนนี้มีตัวเลขของค่าตัวเป็นรอง ลูกากู ซึ่งเป็นเจ้าของสถิตินี้ในฐานะอันดับ 1 เรียบร้อยแล้วนั่นเอง

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด