ลากาแซตต์ จากไปแล้วแต่ภารกิจล้างคำสาปหมายเลข 9 ของ อาร์เซนอล ยังต้องดำเนินต่อไป - OPINION
มีทฤษฎีในหมู่แฟนๆ อาร์เซนอล ว่าเสื้อหมายเลข 9 ของสโมสรอาจถูกสาป ทั้งๆที่มันเคยตกเป็นของยอดผู้เล่นอย่าง มัลคอล์ม แมคโดนัลด์, ชาร์ลี นิโคลัส และ อลัน สมิธ แต่ในระยะหลังคนที่สวมมันกลับเป็นดั่งขั้วตรงข้ามของพวกเขาเหล่านี้
โดยนับตั้งแต่ นิโคลัส อเนลก้า ย้ายทีมออก เสื่อเบอร์ 9 ได้ถูกส่งต่อไปให้แก่ ดาวอร์ ซูเคอร์, ฟราสซิส เจฟเฟอร์ส, โจเซ อันโตนิโอ เรเยส, ฮูลิโอ บัปติสต้า, เอดูอาร์โด้, พาร์ค ชู-ยอง, ลูคัส โพโดลสกี้, ลูคัส เปเรซ และล่าสุดกับ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์
ในหมู่รายชื่อทั้งหมดที่เอ่ยถึงนี้ ประกอบไปด้วยผู้เล่นที่มีค่าตัวเป็นสถิติของสโมสรถึงสองราย, คนที่เคยได้แชมป์ ฟุตบอลโลก และอดีตดาวซัลโวทีมชาติ อังกฤษ ชุดเล็ก - กระนั้น พวกเขากลับไม่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มที่กับ อาร์เซนอล เลยแม้แต่คนเดียว
สำหรับรายล่าสุดนั้น นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลียง ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ลากาแซตต์ ก็ดูจะพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อลบล้างคำสาปนี้
71 ประตูจาก 206 นัดที่ลงเล่นอาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่แย่ แต่โดยรวมแล้วผลงานของเขาก็ไม่ได้ถือว่าเข้าทีนัก
ในแง่บวก
เขาช่วยให้ อาร์เซนอล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2020 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรในฤดูกาลก่อนหน้า แถมยังเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาล 2017/18 และ 2020/21 แถมทำประตูแสนสำคัญอย่างลูกตีเสมอ ลิเวอร์พูล ไปจนถึงการเอาชนะ ท็อตแนม 4-2 ใน ลอนดอนดาร์บี้
แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือความคาดหวัง เพราะเราคงไม่อาจเอาเขาไปเปรียบกับผู้เล่นอย่าง ชู-ยอง หรือ ลูคัส เปเรซ ที่ย้ายเข้ามาเพื่อเป็นแบ็คอัพตั้งแต่ทีแรก ส่วน ลากาแซตต์ กับค่าตัวที่ไม่ได้เห็น อาร์เซนอล จ่ายหนักบ่อยๆนัก ก็หมายความว่าเขาถูกหมายตาเอามาเป็นแกนกลางของทีมและคนที่จะนำพาสโมสรไปอีกขั้นได้
มันคงยากที่จะพูดถึง ลากาแซตต์ และไม่พูดถึง โอบาเมยัง เมื่ออดีตกองหน้า ดอร์ทมุนด์ ถูกคว้าตัวเข้ามาเพื่อทดแทน ซานเชส, ชิรูด์ และ ธีโอ วัลคอตต์ พร้อมกับเป้าหมายที่จะให้ทั้งสองคนเล่นร่วมกันได้ในแดนหน้า
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย...นอกสนามด้วยไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกัน แต่ในสนามนั้นคนละเรื่อง เมื่อ อาร์เซนอล ไม่เคยเป็นทีมที่เล่นได้ดีด้วยกองหน้าสองคนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ทุกอย่างชัดเจนขึ้นในยุคของ อูไน เอเมอรี่ เมื่อ ลากาแซตต์ มักจะรับบทเป็นพระรองของ โอบาเมยัง เสมอ ทั้งในแง่ของการเป็นกึ่งเพลย์เมคเกอร์ให้กับเขาไปจนถึงการเป็นตัวดึงตัวประกบเพื่อให้แข้งทีมชาติ กาบอง เล่นได้ง่ายขึ้น
อีกประเด็นคือการที่ ลากาแซตต์ ดูจะปรับตัวเข้ากับความเร็วของ พรีเมียร์ลีก ไม่ได้เสียที แถมมักจะหมดแรงจนหายออกจากเกมไปดื้อๆอยู่เป็นประจำในครึ่งหลังจนแฟนๆเริ่มจะเคยชินกับภาพที่เขาโดนถอดออกจากเกมในช่วงนาทีที่ 60 หรือ 70 ไปแล้ว
ท้ายที่สุดเขาจึงกลายร่างมาเป็นฟอลซ์ ไนน์ อย่างเต็มตัว โดยที่ค่าเฉลี่ยโอกาสในการสับไกต่อเกมก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจาก 2.9 ครั้งในฤดูกาลแรกจนมาถึงเพียง 2 ครั้งในฤดูกาลล่าสุด
ความถดถอยของเขาส่งสัญญาณถึง อาร์เซนอล ให้พิจารณาให้ดีเกี่ยวกับความคิดที่จะต่อสัญญากับแข้งรายนี้ กระทั่งล่าสุดในวัย 31 เขาก็เลือกย้ายกลับไปเล่นให้กับต้นสังกัดเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการลงสนาม 30 เกมในลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำไปได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น และแทบจะไม่ได้เป็นตัวอันตรายของทีมเลยกับบทบาทเป็นตัวซัพพอร์ตเหล่าแนวรุกอายุน้อยเหมือนดังตอนเล่นกับ โอบาเมยัง ไม่มีผิดเพี้ยน
“เขาต้องส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ นั่นคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง” อาร์เตต้า กล่าวหลังูกถามเกี่ยวกับสเปคของกองหน้าที่ต้องการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “ต้องสร้างภัยคุกคามให้คู่แข่งได้ตลอด ทีมที่ประสบความสำเร็จทุกทีมต้องการโอกาสทำประตูที่เพียงพอในทีม หากทำไม่ได้คุณก็ไม่ดีพอ”