เจมส์ เวียร์ อดีตผู้เล่น แมนยู ที่ได้เดบิวต์เพียง 60 วินาที ก่อนจะถูกลืมไปตลอดกาล - FEATURE

Manchester United v Chelsea: Premier League 2
Manchester United v Chelsea: Premier League 2 / Matthew Ashton - AMA/Getty Images
facebooktwitterreddit

แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกคนจะจดจำวันที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดตัวครั้งแรกกับทีมชุดใหญ่ได้

มันคือเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 และอนาคตสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ยิงสองประตูในการเปิดตัวบน พรีเมียร์ลีกเพื่อพาต้นสังกัดกุมชัย 3-2 เหนือ อาร์เซนอล ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียงสามวันหลังจากทำสองประตูใน ยูโรป้าลีก กับ มิดเทลแลนด์

ชัยชนะเหนือ อาร์เซนอล นั้นยังเป็นที่จดจำว่าเป็นเกมที่เราได้เห็น หลุยส์ ฟาน ฮาล ทิ้งตัวลงข้างสนามเพื่อประท้วงกับสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นการพุ่งล้มของ อเล็กซิส ซานเชซ อีกด้วย

นอกจากนี้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเรายังได้เห็น เจมส์ เวียร์ นักเตะจากอะคาเดมีได้ถูกลงสนามมาแทน อันแดร์ เอร์เรรา แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่านั่นจะเป็นทั้งเกมแรกและเกมเดียวของเขาในสีเสื้อ ปีศาจแดง

James Weir
Manchester United v Arsenal - Premier League / Matthew Ashton - AMA/Getty Images

กว่าห้าปีต่อมา แรชฟอร์ด ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยหลังจากยกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นดาวเตะแถวหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติ อังกฤษ รวมถึงการออกช่วยเหลือสังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเสมอมา

แต่ เวียร์ ที่ร่วมเติบโตขึ้นมาพร้อมๆกับ แรชฟอร์ด กลับมีเส้นทางที่แตกต่างออกไป

ก่อนหน้านี้ เขาใช้เวลาหนึ่งปีกับสโมสรใน สโลวาเกีย ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก โปห์โรนี ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ เอ็มทีเค บูดาเปสต์ ทีมในลีกสูงสุดของ ฮังการี ที่ซึ่งเขาย้ายไปเมื่อเดือนพฤษภาคม

“คงจะดีถ้าได้เล่นในทีมชุดใหญ่นานกว่านี้ แต่การอยู่ที่ ยูไนเต็ด เป็นช่วงเวลาที่พิเศษในชีวิตของผม” เวียร์กล่าว

“ผมสามารถบอกลูกๆ และหลานๆ ได้ว่าผมเคยเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใน พรีเมียร์ลีก แม้ว่าผมจะไม่ได้ลงเล่นถึงนาทีเลยก็ตาม!”

เวียร์ ก้าวขึ้นมาทีละขั้นในทีมแต่ละชุดของสโมสร โดยเป็นกัปตันทีมในกลุ่มอายุต่างๆ และได้รับรางวัลระดับนานาชาติจากทีมชาติ อังกฤษ ชุดยู-16 และยู-18 อีกด้วย

เขาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของ ยูไนเต็ด ภายใต้ เดวิด มอยส์ อยู่บ้าง ก่อนที่จะได้ร่วมซ้อมกับแข้งระดับซีเนียร์บ่อยขึ้นในช่วงเวลาของ ฟาน ฮาล

“ฟาน ฮาล เน้นเรื่องแท็คติกมากกว่ามาก และคุณต้องมีสมาธิจริงๆ” เขากล่าว “เขาโมโหครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขามักจะบอกคุณอย่างตรงไปตรงมา

“เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ซึ่งผมคิดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ชอบเพราะบางครั้งคุณมีโค้ชที่ไม่บอกความจริงทั้งหมดกับคุณ”


เขาได้สัมผัสรสชาติของการมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ เซนต์ เจมส์พาร์ค ในเดือนมกราคม 2016

“จริงๆแล้วผมเล่นเป็นตัวสำรองเมื่อคืนก่อน และถูกเปลี่ยนตัวหลังจาก 75 นาที ซึ่งผมคิดว่าแปลกเพราะผมเล่นได้ค่อนข้างดี

“ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากนั้น วอร์เรน จอยซ์ โค้ชทีมสำรอง บอกให้ผมไปอาบน้ำเพราะมีรถรอพาผมไปที่ นิวคาสเซิล”

“จริงอยู่ที่ผมถูกเรียกตัวไปเล่นในทีมชุดใหญ่เพราะมีคนบาดเจ็บ แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี”

เขามีชื่อยู่บนม้านั่งสำรองหลายครั้งหลังจากคืนนั้นและในที่สุดก็ได้รับโอกาสกับ อาร์เซนอล

“ปกติแล้ว คุณเริ่มวอร์มร่างกายหลังจากผ่านไป 25 นาทีหรือวิ่งสักหน่อยเพื่อเรียกความสนใจจากผู้จัดการทีม แต่มันต่างออกไปกับ ฟาน ฮาล” เวียร์ กล่าว

“คุณต้องรอจนกว่าเขาบอกให้คุณอุ่นเครื่อง ซึ่งหมายความว่าเขาน่าจะส่งคุณลงไป หลังจากนั้นประมาณนาทีที่ 75 หรือ 80 เขาบอกให้ผมวอร์มร่างกาย แล้วมีคนตะโกนบอกผมที่ให้กลับมาเพื่อฟังบรีฟแผนการเล่น ผมกำลังคิดว่า 'โอ้ว คุณพระ ผมจะได้ลงแล้ว'

“พ่อแม่ของผมอยู่ที่นั่น แต่ทุกอย่างเร็วมาก – และผมจำอะไรไม่ได้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกเหนือจากการยืนข้างๆ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ และ แพดดี้ แมคแนร์ ก่อนที่เสียงนกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้น ผมพยายามจะทำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด"

James Weir
Hull City v Newcastle United - EFL Cup Quarter-Final / Stu Forster/Getty Images

เวียร์ ได้รับข้อเสนอสัญญาสองปีในช่วงฤดูร้อนหลังจากที่ โจเซ มูรินโญ เข้ามาแทนที่ ฟาน ฮาล ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมรับปากจะส่งเขาออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่อื่น

อย่างไรก็ตาม เขาได้เซ็นสัญญาสองปีกับ ฮัลล์ ซิตี้ ซึ่งได้แต่งตั้ง ไมค์ ฟีแลน อดีตผู้ช่วยโค้ชของยูไนเต็ด เป็นผู้จัดการทีมหลังจากที่ สตีฟ บรูซ จากไป

“บางครั้งคุณอาจถูกลืมไปเลยก็ได้จากการถูกยืมตัวครั้งแล้วครั้งเล่าและ ยูไนเต็ด เพิ่งเซ็นสัญญากับ ปอล ป็อกบา ในขณะที่ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ก็อยู่ที่นั่นแล้ว” เวียร์กล่าว

“ตอนนั้นผมอายุ 21 และเล่นฟุตบอลทีมชุดใหญ่ได้นาทีเดียว ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะย้ายไป ฮัลล์ เนื่องจากพวกเขาเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งกลับสู่ พรีเมียร์ลีก”

อย่างไรก็ตาม การดำรงตำแหน่งของ ฟีแลน นั้นไม่ยั่งยืนเอาเสียเลย สโมสรแต่งตั้ง มาร์โก ซิลวา ขึ้มาสืบทอดตำแหน่งเขาในเดือนมกราคม 2017

Wigan Athletic V Bristol City
Wigan Athletic V Bristol City / Nathan Stirk/Getty Images

เวียร์ พบว่าโอกาสของเขามีจำกัดและได้ย้ายไป วีแกน แอธเลติก แบบชั่วคราว ซึ่งมี วอร์เรน จอยซ์ อดีตโค้ชของเขาที่ ยูไนเต็ด เป็นกุนซืออยู่

เมื่อกลับมาที่ ฮัลล์ ซึ่งมีผู้จัดการทีมคนใหม่ใน ลีโอนิด สลุตสกี้ ในที่สุดเขาก็ได้เดบิวต์ในลีกเสียทีในวันเปิดฤดูกาล 2017-2018 โดยผลลงเอยที่การเสมอกับ แอสตัน วิลลา 1-1

ทว่าหลังจากนั้นเขาได้รับบาดเจ็บที่เข่าอย่างรุนแรงขณะเล่นให้กับทีมสำรอง และใช้เวลา 15 เดือนเพื่อรักษาตัวก่อนที่จะถูกปล่อยตัวเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2018-2019

“ผมโชคร้ายจริงๆ ที่ไม่มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองที่ ฮัลล์” เวียร์กล่าว “ผมอายุเกือบ 24 ปีตอนที่ผมจากไป แต่ผมเล่นเกมทีมชุดใหญ่มาแล้ว 16 เกมในอาชีพค้าแข้ง”

จุดหมายต่อไปสำหรับเขาคือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งกำลังดิ้นรนหาเจ้าของใหม่เนื่องจากสภาพทางการเงินที่ไม่สู้ดีนัก

เวียร์ จรดปากกาลงบนสัญญาในตอนเช้าของเกมแรกของฤดูกาลที่พวกเขาแพ้ 2-0 ต่อ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส สัปดาห์ต่อมา ผู้จัดการ ฟิล พาร์กินสัน ลาออก และ คีธ ฮิลล์ ก็ถูกแต่งตั้งเข้ามาแทน

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ถัดมาในเกมฟุตบอลถ้วยกับ แมนฯ ซิตี้ ยู-21 เวียร์ ถูกผู้จัดการทีมเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 37 ก่อนจะโดนวิจารณ์อย่างหนักหลังจบเกม

“มันเป็นการเปิดหูเปิดตาเล็กน้อยในการไป โบลตัน” เวียร์กล่าว “ในวันแรกของผมที่นั่น มีผู้เล่นพูดคุยกับสื่อมวลชนว่าพวกเขาไม่ได้รับค่าจ้าง ดังนั้นเราจึงไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ในตอนนั้น ผมแค่อยากลงเล่นเพราะรู้สึกว่าถูกลืมไปบ้างแล้ว และคิดว่า โบลตัน น่าจะเหมาะสมดี”

“ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้จัดการทีมเลย จนกระทั่งมีคนมาบอกผม ดังนั้นความมั่นใจของผมจึงลดลงเล็กน้อย และมันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดี"


หลังจากออกจาก โบลตัน ในเดือนมกราคม 2020 เขาได้รับข้อเสนอให้ไปทดสอบผีเท้ากับ สโลวาน ลิเบอเร็ค สโมสรในลีก เช็ก ก่อนเซ็นสัญญากับสโมสร โปห์โรนี ในอีกสองเดือนต่อมา

แต่ไม่นานการระบาดของโคโรนาก็เกิดขึ้น และเขาออกจาก สโลวาเกีย ไปยัง แมนเชสเตอร์ ในเที่ยวบินสุดท้ายก่อนที่จะมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรก

เขากลับมาในเดือนพฤษภาคม 2020 และได้เดบิวต์ในลีกในเดือนต่อมา และกลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ อย่างรวดเร็ว

“เมืองของผมไม่ใช่สถานที่ที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัยและแทบจะไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย” เวียร์ กล่าว “มีเด็กสองสามคนจาก แอฟริกา ในทีมที่พูดภาษา อังกฤษ ได้ ดังนั้นเราจึงพบปะกันและเล่นไพ่ในร้านกาแฟท้องถิ่น

“ผมสนุกกับมันที่นั่น แต่ผมมองว่า สโลวาเกีย เป็นเพียงก้าวบันไดเพื่อไปอีกขั้นเท่านั้น”

ข้อตกลงในการย้ายไป บูดาเสต์ เกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ และเขาได้ย้ายไปยังเมืองหลวงของ ฮังการี ในเดือนพฤษภาคม

“ฮังการีเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะผมรู้ว่ามาตรฐานลีกดีกว่า เอ็มทีเค เป็นสโมสรที่ดีและ บูดาเปสต์ เป็นเมืองที่น่าอยู่มากกว่า” เวียร์ ซึ่งภรรยาขอเขายังคงอยู่ใน อังกฤษ กล่าว

“พวกที่สโมสรเป็นคนดีจริงๆ และผู้คนมากมายที่นี่พูดภาษา อังกฤษ ได้ หวังว่าเมื่อสิ่งต่างๆดีขึ้น แอนนาเบลล์ จะสามารถมาได้ทุกสองสามสัปดาห์นะ”

เวียร์ ยืนยันว่าเขาไม่เสียใจที่ย้ายออกจากยูไนเต็ด และกำลังปรับตัวกับ เอ็มทีเค อย่างดี ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเขาขนานนามเขาว่า “สโคลส์” ตามชื่อมิดฟิลด์ระดับตำนานของสโมสร

“ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะรูปลักษณ์หรือทักษะ แต่หวังว่าจะเป็นทั้งสองอย่าง! ถ้าผมสามารถย้อนเวลากลับไปอยู่กับ ยูไนเต็ด ได้ ผมจะกล้าแสดงออกและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นกว่านี้

“การได้เล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ แม้ว่าจะเป็นเพียงนาทีเดียวก็ตาม”


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด