จาดอน ซานโซ่ และ 4 ดีลฟันกำไรก้อนโตให้ ดอร์ทมุนด์ - RANKING

FBL-GER-BUNDESLIGA-DORTMUND-PR-MAN UTD-SANCHO
FBL-GER-BUNDESLIGA-DORTMUND-PR-MAN UTD-SANCHO / INA FASSBENDER/Getty Images
facebooktwitterreddit

แม้จะสูญเสียพวกแข้งดังอยู่เป็นประจำเลย แต่ยังคงเป็นทีมลูกหนังที่สามารถสร้างผลกำไรทางธุรกิจจากการซื้อขายนักเตะได้แบบต่อเนื่อง สำหรับ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี และเพิ่งฟันเงินก้อนใหญ่จากการขาย จาดอน ซานโซ่ ให้ย้ายซบ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย จึงนับว่าเป็น 1 ในดีลการค้าขายที่ดีที่สุดตามโผ 5 อันดับแรกของสโมสรดังต่อไปเลย

1. มุสซ่า เดมเบเล่

Ousmane Dembele
FC Barcelona v RC Celta - La Liga Santander / Quality Sport Images/Getty Images

เริ่มต้นกันด้วยอันดับ 1 นั่นก็คือดีลของ มุสซ่า เดมเบเล่ ปีกทีมชาติฝรั่งเศส โดย ดอร์ทมุนด์ ได้ลงทุนคว้ามาตอนที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แรนส์ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร และโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจมากๆ ทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยอมจ่ายเงินดึงไปร่วมทีมในปี 2017 ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 147 ล้านยูโรเลยทีเดียว เท่ากับว่า "เสือเหลือง" ฟันกำไรจากตอนที่ซื้อดาวเตะวัย 23 ปีมาร่วมทัพได้มากถึง 127 ล้านยูโร ซึ่งยังคงเป็นสถิตินักเตะที่ขายออกไปแล้วได้เงินค่าตัวมากที่สุดของสโมสรจนถึงปัจจุบันเลยด้วย

2. จาดอน ซานโซ่

Jadon Sancho
England Training Camp - Euro 2020 / Robbie Jay Barratt - AMA/Getty Images

ไปต่อกันที่อันดับ 2 นั่นก็คือดีลของ จาดอน ซานโซ่ ปีกทีมชาติอังกฤษ โดย ดอร์ทมุนด์ ได้ลงทุนคว้ามาตอนที่ยังเป็นเพียงเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2017 ในราคา 8 ล้านยูโร และสามารถแจ้งเกิดในวงการลูกหนังโลกได้สำเร็จ ทำให้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงินซื้อมาร่วมทีมในปี 2021 ด้วยค่าตัวสูงถึง 85 ล้านยูโรเลยทีเดียว เท่ากับว่า "เสือเหลือง" ฟันกำไรจากตอนที่ซื้อดาวเตะวัย 21 ปีมาร่วมทัพเป็นเงินทั้งหมด 72.25 ล้านยูโร เพราะจะต้องจ่ายเงินจำนวน 12.75 ล้านยูโรให้กับทีมต้นสังกัดเดิม ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันเอาไว้ว่า ถ้ามีการขายต่อจะให้จ่ายส่วนแบ่งให้ 15% นั่นเอง

3. คริสเตียน พูลิซิช

Christian Pulisic
Aston Villa v Chelsea - Premier League / Visionhaus/Getty Images

ขณะที่อันดับ 3 เป็นดีลของ คริสเตียน พูลิซิช ปีกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของ ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง จึงไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนเพื่อคว้าตัวมาจากทีมอื่นด้วย และได้ให้โอกาสเลื่อนชั้นขึ้นไปแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ในปี 2015 หลังจากนั้น "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้ซื้อไปร่วมทีมในปี 2018 ด้วยค่าตัว 64 ล้านยูโร เท่ากับ "เสือเหลือง" ได้รับทรัพย์จากการฟันเงินค่าตัวของดาวเตะวัย 22 ปีแบบที่เป็นในส่วนของกำไรทั้งหมดไปเลย

4. ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง

Pierre-Emerick Aubameyang
Chelsea v Arsenal - Premier League / Marc Atkins/Getty Images

ส่วนอันดับ 4 เป็นดีลของ ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบอง โดย ดอร์ทมุนด์ ได้ลงทุนซื้อมาจาก แซงต์ เอเตียน ในปี 2013 ด้วยค่าตัว 13 ล้านยูโร และได้นำมาปลุกปั้นจนกลายเป็นหนึ่งในดาวยิงระดับหัวแถวของวงการลูกหนังยูโรปไปเลย ก่อนตะตัดสินใจขายให้กับ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโร เท่ากับว่า "เสือเหลือง" ฟันกำไรจากตอนที่ซื้อดาวเตะวัย 31 ปีมาร่วมทัพได้มากถึง 47 ล้านยูโรเลยด้วย

5. มาริโอ เกิตเซ่

Mario Gotze
PSV v Galatasaray - UEFA Champions League Second Qualifying Round: First Leg / BSR Agency/Getty Images

ปิดท้ายด้วยอันดับ 5 เป็นดีลของ มาริโอ เกิตเซ่ กองกลางชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของ ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง จึงไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนเพื่อคว้าตัวมาจากทีมอื่น และได้ให้โอกาสเลื่อนชั้นขึ้นไปแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ในปี 2009 ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตก จึงได้ย้ายไปร่วมทัพ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 เพราะยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา 37 ล้านยูโร เท่ากับว่า "เสือเหลือง" ได้รับทรัพย์จากการฟันเงินแบบที่เป็นกำไรล้วนๆ ตามจำนวนค่าฉีกสัญญาดังกล่าวไปเลย โดยตอนนี้ดาวเตะวัย 29 ปีได้ย้ายไปค้าแข้งกับ พีเอสวี โอนด์โฮเฟ่น ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด