อิตาลี รับเงินรางวัลเท่าไรจากแชมป์ ยูโร 2020 - FEATURE

Italy v England - UEFA Euro 2020: Final
Italy v England - UEFA Euro 2020: Final / Robbie Jay Barratt - AMA/Getty Images
facebooktwitterreddit

สิ้นสุดการรอคอยบัลลังก์เจ้ายุโรปเป็นสมัยที่ 2 มานานถึง 53 ปีเรียบร้อยแล้ว เพราะสามารถทะยานเข้าป้ายแชมป์ ยูโร 2020 จากการเข้าชิงเป็นครั้งที่ 4 ได้สำเร็จ โดยเป็นฝ่ายเฉือนชนะ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 3-2 หลังเสมอกันจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-1 ทำให้ทัพลูกหนัง "อัซซูรี่" อิตาลี ได้ฉลองแชมป์ในช่วงหลังจบนัดชิงเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากตอนที่ได้แชมป์ครั้งแรกเมื่อตอนที่ได้เฮในศึกยูโร 1968 แม้ว่าหลังจากนั้นจะได้เข้าชิงอีก 2 ครั้งในศึกยูโร 2000 และศึกยูโร 2012 แต่ทำได้ดีที่สุดเพียงบท "พระรอง" จากการที่ได้สัมผัสแค่รองแชมป์ทั้ง 2 ครั้งเลย

Federico Chiesa, Giorgio Chiellini
Italy v England - UEFA Euro 2020: Final / Carl Recine - Pool/Getty Images

แม้จะต้องพบกับช่วงเวลาแห่งความตกต่ำเมื่อตอนที่ไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2018 จึงต้องมีการเปลี่ยนตัวกุนซือเพื่อให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลีในช่วงทศวรรษ 80-90 ได้เข้ามาทำหน้าที่คุมทีมบ้านเกิด หลังจากนั้นทัพลูกหนัง "อัซซูรี่" ได้ลงมือสร้างทีมกันใหม่ และค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วย โดยสามารถกลับมาเป็นหนึ่งในชาติลูกหนังระดับหัวแถวของโลกได้แล้วด้วย เพราะยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายไม่พบกับความพ่ายแพ้จากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 34 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่แพ้ โปรตุเกส ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อช่วงปลายปี 2018

สำหรับ อิตาลี ในยุคปัจจุบันมีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่งในทุกตำแหน่งเลย โดยเฉพาะแนวรับที่ยังคงใช้งาน 2 กองหลังจอมเก๋าอย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ยืนจับคู่อยู่ด้านหน้าของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูหนุ่มไฟแรงที่สวมบทเป็นมือหนึ่งต่อจากตำนานอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน ได้เป็นอย่างดี ขณะที่แดนกลางมี จอร์จินโญ่ ทำหน้าที่เป็นตัวคุมเกมร่วมกับ นิโกโล่ บาเรลล่า และ มาร์โก แวร์รัตติ ได้แบบเข้าขารู้กันใจกัน ส่วนแนวรุกมี เฟเดริโก้ เคียซ่า กับ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ เป็นตัวทะลุทะลวงทางริมเส้น และให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกด้วย

FBL-EURO-2020-2021-MATCH51-ITA-ENG-TROPHY
FBL-EURO-2020-2021-MATCH51-ITA-ENG-TROPHY / ANDY RAIN/Getty Images

ทำให้ทัพลูกหนังสามารถไปถึงตำแหน่งแชมป์ ยูโร 2020 ได้สำเร็จ โดยสามารถคว้าชัยได้ทั้ง 7 เกมที่ลงสนามเลยด้วย ไล่ตั้งแต่ 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่มที่ประเดิมสนามนัดแรกด้วยการไล่ต้อนชนะ ตุรกี 3-0 นัดที่ 2 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และนัดที่ 3 เฉือนชนะ เวลส์ 1-0 จึงได้ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ หลังจากนั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะออสเตรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังเสมอในช่วงจบ 90 นาที 0-0 ส่วนในรอบ 8 ทีมสุดท้ายชนะ เบลเยี่ยม 2-1 จึงได้ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศไปเฉือนชนะ สเปน ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน หลังเสมอกันจนถึงครบ 120 นาที 1-1 ปิดท้ายด้วยนัดชิงเฉือนชนะ อังกฤษ ในช่วงดวลจุดโทษตัดสินนั่นเอง และได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในครั้งนี้ไปเพียบเลย

ก่อนหน้านี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้ประกาศตัวเลขเงินรางวัลของศึกยูโร 2020 ตั้งแต่ในช่วงก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้นเสียด้วยซ้ำ โดยทั้ง 24 ชาติลูกหนังที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายจะได้รับเงินบำรุงทีมไปก่อนเลย 9.25 ล้านยูโร ซึ่งรวมถึง อิตาลี ที่ได้รับเงินก้อนนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนเงินรางวัลในรอบแบ่งกลุ่มจะจ่ายตามผลงานในแต่ละเกม โดยทีมชนะจะได้ 1 ล้านยูโร ถ้าลงเอยด้วยผลเสมอจะแบ่งกันทีมละ 500,000 ยูโร เท่ากับทัพลูกหนัง "อัซซูรี่" ได้เงินรางวัลจากรอบแรกเป็นจำนวน 3 ล้านยูโร เพราะคว้าชัยได้ทั้ง 3 เกมในรอบแรกเลยนั่นเอง จึงได้ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปเลย

FBL-EURO-2020-2021-MATCH51-ITA-ENG-TROPHY
FBL-EURO-2020-2021-MATCH51-ITA-ENG-TROPHY / LAURENCE GRIFFITHS/Getty Images

ส่วนเงินรางวัลในรอบน็อคเอาท์จะจ่ายให้ตามผลงานของแต่ละทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบต่างๆ โดยชาติลูกหนังที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะได้รับเงิน 2 ล้านยูโร หากไปถึงรอบ 8 สุดท้ายจะได้รับเงิน 3.25 ล้านยูโร แต่ถ้าไปถึงรอบรองชนะเลิศจะได้รับเงิน 5 ล้านยูโร และถ้าคว้าแชมป์จะได้รับเงินจากการเป็นผู้ชนะในนัดชิง 10 ล้านยูโร ส่วนทีมแพ้ในฐานะรองแชมป์จะได้รับเงินปลอบใจ 7 ล้านยูโร

เท่ากับว่า อิตาลี จะได้รับเงินรางวัลจากการลงเล่นในศึกยูโร 2020 ไปทั้งหมด 41 ล้านยูโร หลังเก็บชัยชนะได้ทั้ง 7 เกมที่ลงสนาม โดยแบ่งออกเป็นเงินบำรุงทีมในช่วงก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ 9.25 ล้านยูโร และได้เงินรางวัลจากการคว้าชัยทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มอีก 3 ล้านยูโร ส่วนในรอบน็อคเอาท์รับเงินจากการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย 2 ล้านยูโร และได้รับอีก 3.25 ล้านยูโรจากการผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย พร้อมกับเงินไปอีก 5 ล้านยูโรจากการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ปิดท้ายด้วยอีก 10 ล้านยูโรจากการเข้าป้ายแชมป์นั่นเอง

แน่นอนว่าเงินของรางวัลไม่ได้เป็นวัตถุประสงค์หลักของทัพลูกหนัง "อัซซูรี่" ในศึกยูโร 2020 เพราะว่าต้องการจะไปให้ถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปเพื่อกอบกู้ศรัทธากลับคืนมาให้ได้มากกว่า และสามารถไปถึงฝั่งฝันตรงตามตั้งเป้าที่วางเอาไว้ได้สำเร็จ

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด