[FEATURE] แมนฯ ซิตี้ ถูกใจสิ่งนี้ ! กุนโดกาน ฮีโร่คนใหม่ ในยามที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ไร้เงาของ เดอ บรอยน์
นี่คือนักฟุตบอลที่ฟอร์มแจ่มที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก ในชั่วโมงนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ อิลคาย กุนโดกาน กองกลางทีมชาติเยอรมนีของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ และเพิ่งได้รับเลือกให้คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา หลังสร้างผลงานสุดเฉียบจากการเติมเกมรุกขึ้นไปยิงประตูในช่วงเดือนแรกของปีได้มากถึง 5 ลูก ก่อนจะต่อยอดมาถึงเดือน ก.พ. จากการสอยตาข่ายในช่วงเดือนที่ 2 ของปีได้อีก 4 ลูก นับจนถึงเกมล่าสุดที่ซัดเบิ้ลเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่เปิดบ้านชนะ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส 3-0
เท่ากับว่ามิดฟิลด์วัย 30 ปียิงประตูไปแล้วถึง 13 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการของฤดูกาล 2020/2021 ทั้งหมด 26 เกม หรือเฉลี่ยแล้วลงเล่น 2 เกมจะสอยตาข่ายได้ 1 ประตู จึงถือว่าเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้งของ กุนโดกาน ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีเชื้อสายมาจากตุรกี แม้จะเกิดที่เมืองเกลเซ่นเคียร์เช่น ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีกา และเคยเป็นเด็กปั้นในระดับเยาวชนของทีมบ้านเกิดเมืองนอนอีกด้วย แต่กลับย้ายไปแจ้งเกิดกับ โบคุ่ม ทีมบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ก่อนจะย้ายไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังกับ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเป็นทีมคู่ปรับตัวฉกาจของ ชาลเก้ นั่นเอง
ย้อนหลังกลับไปในปี 2016 เมื่อตอนที่ "เป๊ป" โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก้าวเท้าเข้ามาคุมทัพ แมนฯ ซิตี้ ตอนนั้นยอดกุนซือชาวสเปนได้ตัดสินใจคว้า กุนโดกาน เข้ามาเสริมทัพเป็นคนแรกเลย เพราะได้เห็นฝีเท้ามาตั้งแต่ตอนสมัยที่คุมทัพ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับ ดอร์ทมุนด์ ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ ในตอนนั้นอยู่เป็นประจำ จึงได้เห็นจุดเด่นในเรื่องของการคุมเกมในแดนกลาง และสามารถเติมเกมรุกขึ้นไปยิงประตูได้ด้วย
แต่ดาวเตะทีมชาติเยอรมนีกลับโชคร้ายจากปัญหาบาดเจ็บที่ตามราวีแบบต่อเนื่อง จึงได้ลงสนามแบบสลับกับการพักรักษาโรคเดี้ยงมาโดยตลอด ซึ่งเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนสมัยที่ค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ เสียด้วยซ้ำ ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถใช้งานได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียที เพราะต้องให้นั่งเป็นตัวสำรองจากเรื่องของสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตสมบูรณ์แบบเต็มร้อยเสียเท่าไรนัก แต่ดูเหมือนว่า กุนโดกาน จะจัดการกับปัญหาที่ตามเล่นงานอยู่เป็นประจำได้แล้ว จึงได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในช่วงฤดูกาลนี้แบบต่อเนื่องเลย
จริงๆ แล้ว แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ "เป๊ป" ได้วางตัว เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยมเป็นตัวปั้นเกมในฐานะ "เพลย์เมกเกอร์" นั่นเอง ทำให้ กุนโดกาน ต้องยืนเป็นตัวคุมแดนกลางในยามที่ทั้งคู่ได้ลงสนามพร้อมกัน แต่ในยามที่ไร้ดาวเตะวัย 29 ปีเหมือนอย่างในช่วงเวลานี้ หลังเจอโรคเดี้ยงเล่นงานจนต้องพักรักษาตัวไปก่อน จึงเปิดโอกาสให้มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนีได้ "ปล่อยของ" จากการโชว์ศักยภาพของตัวเองแบบเต็มที่ เพราะมีพื้นที่ในการเล่นตามบทบาทที่ได้รับมากขึ้น
จึงกลายเป็นเรื่องที่ดีของ "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งมีส่วนช่วยให้ทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน เพราะสามารถวางตัว กุนโดกาน ให้สวมบทเป็นตัวปั้นเกมในยามที่ไร้ เดอ บรอยน์ ได้เลย ยกเว้นเสียแต่ว่าดาวเตะวัย 30 ปีจะกลับไปเจอโรคเดี้ยงตามเล่นงานอีกครั้ง
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด