[FEATURE] แฟน ลิเวอร์พูล ถูกใจสิ่งนี้ ! สตีเฟน เจอร์ราร์ด จากตำนานแข้ง สู่กุนซือไร้พ่าย

UEFA Champions League Trophy Handover & Draw
UEFA Champions League Trophy Handover & Draw / Shaun Botterill/Getty Images
facebooktwitterreddit

หลังสร้างชื่อจากการเป็นตำนานนักเตะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก เพราะเคยปักหลักค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์มานานถึง 17 ปี นับตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี 1998 แต่ตอนนี้ "สตีวีจี" สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมแชมป์ยุโรป 5 สมัยได้หันมาเอาดีด้านงานคุมทีมลูกหนังแบบเต็มตัว และกำลังไปได้ดีกับการทำหน้าที่เป็นกุนซือ "เดอะไลท์บูลส์" กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ทีมยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลสกอตแลนด์เสียด้วย โดยเฉพาะผลงานในช่วงฤดูกาล 2020/2021 ซึ่งยังคงรักษาสถิติ "ไร้พ่าย" ไม่พบกับความปราชัยจากการลงเล่นในทุกรายการแม้แต่นัดเดียว

Steven Gerrard's final match at Anfield
Steven Gerrard's final match at Anfield / Tom Jenkins/Getty Images

ก่อนหน้านี้ เจอร์ราร์ด ได้เริ่มต้นงานโค้ชกับ "หงส์แดง" ในช่วงหลัง "แขวนสตั๊ด" เลิกอาชีพค้าแข้งกับ แอลเอ แกแล็คซี่ ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายของการเล่นฟุตบอลในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 โดยรับหน้าที่ดูแลทีมระดับเยาวชนของสโมสรที่ใช้แจ้งเกิดบนเวทีลูกหนังโลกนั่นเอง หลังจากนั้น "สตีวีจี" ได้ตัดสินใจย้ายไปรับงานคุมทัพ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในปี 2018 และค่อยๆ ลงมือปลุกปั้นให้ "เดอะไลท์บูลส์" กลับมามีลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองวิสกี้อีกครั้ง หลังตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของ "ม้าลายเขียวขาว" กลาสโกว์ เซลติก ทีมคู่ปรับตลอดกาลมานานถึง 9 ซีซั่นติดต่อกัน โดยหนสุดท้ายที่ได้เข้าป้ายแชมป์สกอตติช พรีเมียร์ชิพ ในช่วงฤดูกาล 2010/2011 นั่นเอง และทำได้ดีที่สุดเพียงตำแหน่งรองแชมป์ในช่วง 2 ซีซั่นหลังสุดด้วย

FBL-SCO-PR-RANGERS-GERRARD
FBL-SCO-PR-RANGERS-GERRARD / ANDY BUCHANAN/Getty Images

ตอนนี้ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ภายใต้การคุมทัพของ เจอร์ราร์ด ไม่พบกับความพ่ายแพ้จากการลงเล่นทุกรายการในช่วงฤดูกาล 2020/2021 มาแล้วถึง 25 เกมติดต่อกัน โดยแบ่งออกเป็นสถิติไร้พ่ายในศึกสกอตติช พรีเมียร์ชิพ มาแล้วถึง 17 เกม และยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ โดยมีคะแนนทิ้งห่าง กลาสโกว์ เซลติก อยู่หลายแต้มเลยด้วย จึงมีโอกาสกลับมาเข้าป้ายแชมป์ลีกสูงสุดเมืองวิสกี้ได้อีกครั้งหนึ่งเสียที หลังจากที่เหินห่างมานานถึง 9 ปีแล้ว ส่วนอีก 9 เกมคือในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก ตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบแบ่งกลุ่ม และอีกหนึ่งเกมคือในศึกสกอตติช ลีก คัพ รอบ 2 นั่นเอง

Celtic v Rangers - Ladbrokes Scottish Premiership
Celtic v Rangers - Ladbrokes Scottish Premiership / Ian MacNicol/Getty Images

สำหรับ "เดอะไลท์บูลส์" ในยุคปัจจุบันเป็นทีมที่ผสมผสานด้วยนักเตะจากหลายๆ ชาติในยุโรป โดยเฉพาะเหล่าผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่เกาะอังกฤษมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ ทาเวอร์เนียร์ อดีตเด็กปั้นของ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม แม้จะยืนเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา แต่นำโด่งเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรจากการสอยตาข่ายในทุกรายการไปแล้วถึง 17 ประตูเลยทีเดียว รวมถึง เจอร์เมน เดโฟ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษในวัย 38 ปี และได้ดึง ไรอัน เคนท์ อดีตเด็กปั้นของ ลิเวอร์พูล ให้ย้ายตาม "สตีวีจี" มาร่วมงานกันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยกันมาก่อน นอกจากนี้ยังได้เซ็นสัญญาคว้า ยานิส ฮาจี้ กองกลางดาวรุ่งทีมชาติโรมาเนีย ซึ่งเป็นลูกชายของ จอร์จี้ ฮาจี้ ตำนานลูกหนังโลกในช่วงทศวรรษ 90 ด้วย

Rangers FC v BSC Young Boys: Group G - UEFA Europa League
Rangers FC v BSC Young Boys: Group G - UEFA Europa League / Ian MacNicol/Getty Images

เพราะทำผลงานจากการสวมบทเป็นกุนซือ "เดอะไลท์บูลส์" ได้แบบน่าประทับใจมากๆ ทำให้เหล่ากองเชียร์ ลิเวอร์พูล เริ่มตั้งตารอคอย เพราะอยากจะได้เห็น เจอร์ราร์ด ในฐานะตำนานนักเตะแห่งถิ่นแอนฟิลด์กลับมารับงานคุมทีมต้นสังกัดเก่าในช่วงอนาคตต่อจากนี้อยู่เหมือนกัน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด