"ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์" กุนซือหนุ่มค่าตัวแพงสุดในโลก - FEATURE

RB Leipzig v FC Schalke 04 - Bundesliga
RB Leipzig v FC Schalke 04 - Bundesliga / Alexander Hassenstein/Getty Images
facebooktwitterreddit

แม้จะมีอายุเพียงแค่ 30 ปีต้นๆ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าอายุของพวกนักฟุตบอลจอมเก๋าหลายๆ คนเสียอีก แต่ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มไฟแรงชาวเยอรมันของ แอร์เบ ไลป์ซิก กลับโชว์ฝีมือคุมทีมฟุตบอลได้แบบยอดเยี่ยมเกินวัย จึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกุนซือระดับโลกไปแล้วด้วย และกลายเป็นหนึ่งในกุนซือเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากบรรดาทีมลูกหนังระดับยักษ์ใหญ่มานานแล้ว ก่อนจะเตรียมก้าวเท้าไปเผชิญหน้ากับความท้าทายสุดยิ่งใหญ่จากงานคุมทัพ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงฤดูกาลหน้า พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นกุนซือที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกไปเลย

Julian Nagelsmann, Nordi Mukiele
RB Leipzig v VfB Stuttgart - Bundesliga / Pool/Getty Images

ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน นาเกลส์มันน์ เคยมีความฝันเหมือนกับเด็กหนุมทั่วๆ ไป นั่นก็คือ การเลือกเดินบนเส้นทางที่มุ่งหน้าไปสู่การเป็น "นักฟุตบอลอาชีพ" นั่นเอง โดยเคยเซ็นสัญญาเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ 1860 มิวนิค และ เอาส์บวร์ก แต่ไม่สามารถก้าวเท้าขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่แม้แต่นัดเดียว ก่อนจะโดนโชคชะตาพรากความฝันในเรื่องการเป็นนักเตะไปจนหมดสิ้น เพราะได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณหัวเข่าอย่างรุนแรง จึงต้องตัดสินใจ "แขวนสตั๊ด" เลิกอาชีพค้าแข้งในปี 2008 ด้วยวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น

หลังจากนั้น นาเกลส์มันน์ ไม่ได้ละทิ้งวงการฟุตบอลที่เขารัก แต่หันไปเอาดีกับงานเบี้องหลังในฐานะโค้ช โดยเริ่มต้นจากการเป็นแมวมองในทีมสตาฟฟ์ของ โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งเคยเริ่มต้นอาชีพกุนซือจากงานคุมทัพ เอาส์บวร์ก มาก่อน พร้อมกับศึกษาเล่าเรียนในเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาจนจบระดับมหาวิทยาลัยเลยด้วย ก่อนจะย้ายไปร่วมงานกับ 1860 มิวนิค ในฐานะผู้ช่วยโค้ชทีมระดับเยาวชนช่วงปี 2008 และได้ย้ายไปร่วมงานกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในปี 2010 เพื่อทำหน้าที่ดูแลทีมระดับเยาวชนในระดับต่างๆ

Julian Nagelsmann
TSG 1899 Hoffenheim Training Session / Nathan Stirk/Getty Images

ในปี 2016 ฮอฟเฟ่นไฮม์ เห็นแววของ นาเกลส์มันน์ จึงเลื่อนชั้นให้ขึ้นมาสวมบทเป็นกุนซือคุมทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวไปเลย และสร้างสถิติเป็นกุนซืออายุน้อยที่สุดในในศึกบุนเดสลีกาด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น โดยสามารถพาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นได้แบบหวุดหวิด และพาทีมทะยานขึ้นไปยึดอันดับ 4 ในฤดูกาล 2016/2017 จึงได้สิทธิ์ไปโชว์ฝีเท้าในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลี เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย พร้อมกับได้รับการยกย่องจาก ทิม วีเซ่ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมนีในฐานะลูกทีมเมื่อตอนที่เฝ้าเสากับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ให้มีฝีมือเทียบชั้นกับ โจเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือโปรตุกีสเลยด้วย

เพราะว่าสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ นาเกลส์มันน์ เริ่มกลายเป็นที่หมายปองของหลายๆ สโมสรที่อยากจะให้ย้ายมารับงานคุมทีม และเป็น แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมคลื่นลูกใหม่ที่ยอมจ่ายเงิน 5 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าชดเชยให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ สำหรับการดึงตัวให้ย้ายมารับงานคุมทีมในปี 2019 นั่นเอง โดยฤดูกาลแรกสามารถพาทีมยึดอันดับ 3 ในศึกบุนเดสลีกา พร้อมกับทะลุไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยน์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกต่างหาก

FBL-GER-BUNDESLIGA-BAYERN MUNICH-LEIPZIG
FBL-GER-BUNDESLIGA-BAYERN MUNICH-LEIPZIG / CHRISTOF STACHE/Getty Images

ส่วนผลงานฤดูกาล 2020/2021 นาเกลส์มันน์ นำทัพ แอร์เบ ไลป์ซิก เบียดแย่งแชมป์บุนเดสลีกาได้แบบสนุก ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจจ่ายเงินสูงถึง 25 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาที่ยังมีอยู่กับต้นสังกัดจนถึงปี 2023 และตีตราจองโค้ชวัย 33 ปีให้เข้ามารับงานคุมทีมในช่วงฤดูกาลหน้าไปเลย โดยจะทดแทนการจากไปของ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งกับผู้บริหารสโมสรจนต้องประกาศขอก้าวเท้าลงจากตำแหน่งดีกว่า

ก่อนหน้านี้ อังเดร บียาส โบอาส โค้ชชาวโปรตุกีสเคยครองสถิติเป็นกุนซือที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก เมื่อตอนที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับ ปอร์โต้ เพื่อดึงตัวมาคุมทีมในปี 2011 เป็นเงินจำนวน 15 ล้านยูโร แต่ตอนนี้ นาเกลส์มันน์ ได้สถาปนาตัวเองเป็นกุนซือที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เพราะมีค่าฉีกสัญญาจากการย้ายทีม 2 ครั้งเป็นเงินรวมกันสูงถึง 30 ล้านยูโรเลยทีเดียว หรือมากกว่า โบอาส อยู่ถึงหนึ่งเท่าตัวนั่นเอง

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด