7 แข้งหนุ่มรอเจิดจรัสเกมทีมชาติใน ยูโร 2020 - FEATURE

นอกจากนี้จะอุดมไปด้วยนักเตะระดับ "ซูเปอร์สตาร์" เต็มไปหมดเลย ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งยุโรป หรือที่เรียกกันแบบสั้นๆ ว่า ยูโร ซึ่งในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้ชื่อว่า ยูโร 2020 ยังเตรียมเป็นเวทีให้พวกแข้งหนุ่มได้โชว์ฝีเท้าบนเวทีลูกหนังระดับทวีปกันแบบเต็มตัวอีกด้วย สำหรับคำว่า "แข้งหนุ่ม" ในที่นี่หมายถึงผู้เล่นที่มีอายุไม่เกิน 22 ปี และมีแข้งหนุ่มอยู่ถึง 7 รายที่สามารถแจ้งเกิดในเกมระดับสโมสรได้แล้ว จึงพร้อมรอวันเจิดจรัสในเกมระดับชาติด้วยเช่นกัน หลังจากที่เกมฟาดแข้งรายการนี้ต้องเลื่อนมาจากกำหนดการเดิมที่วางเอาไว้ว่าจะต้องชิงชัยกันตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปีก่อน แต่ติดปัญหาเรื่องของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักเมื่อช่วงปีที่แล้วนั่นเอง

จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (อิตาลี)

เริ่มต้นกันด้วย จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลีวัย 22 ปี โดยเริ่มต้นสร้างชื่อในวงการฟุตบอลจากการเป็นเด็กปั้นของ เอซี มิลาน ในบ้านเกิด แม้ว่าตอนนี้จะกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในช่วงหลังหมดสัญญากับสโมสรที่ใช้แจ้งเกิด แต่ด้วยฝีมือการป้องกันตาข่ายได้แบบเหนียวหนึบ จึงยังคงได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งของทีมลูกหนัง "อัซซูรี่" เพื่อยืนเฝ้าเสาในเกมระดับชาติต่อไป และเตรียมโชว์การเซฟประตูในศึกลูกหนังรายการใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย

มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ (ฮอลแลนด์)

ไปต่อกันด้วย มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ กองหลังทีมชาติวัย 21 ปี แม้จะแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว โดยเฉพาะในเกมระดับสโมสรที่เคยสร้างชื่อกับ อาแจ๊กซ์ และย้ายมาปักหลักค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในปัจจุบัน แต่จะได้เตรียมพิสูจน์ฝีเท้าในเกมระดับชาติกันแบบจริงจังไปเลย เพราะจะต้องรับหน้าที่เป็นแกนหลักในแนวรับทัพลูกหนัง "กังหันสีส้ม" อย่างแน่นอน เพื่อทดแทนการขาดหายไปของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ลูกพี่ใหญ่ที่มีปัญหาบาดเจ็บจนไม่สามารถรับใช้บ้านเกิดในทัวร์นาเมนต์นี้ได้เหมือนอย่างที่ตั้งใจเอาไว้

ไค ฮาเวิร์ตซ (เยอรมนี)

ขณะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ ดาวเตะทีมชาติเยอรมนีวัย 22 ปีเป็นแข้งหนุ่มอีกหนึ่งรายที่พร้อมเจิดจรัสได้ทุกเมื่อเลย เพราะสามารถแจ้งเกิดในวงการลูกหนังได้ตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กปั้นของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลังจากนั้นได้ย้ายมาค้าแข้งกับ เชลซี ด้วยค่าตัวสุดแพง และเพิ่งสวมบทเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีมต้นสังกัดปัจจุบันยึดบัลลังก์ "เจ้าสโมสรยุโรป" จากเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาได้ด้วย จึงพร้อมทำหน้าที่เป็นตัวหลักในแนวรุกของทีมชาติบ้านเกิด โดยเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้หลายตำแหน่งเลย ไม่ว่าจะเป็น กองกลาง, ปีกริมเส้น รวมถึงการยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าได้ด้วยเช่นกัน

จาดอน ซานโซ่ (อังกฤษ)

ส่วนในรายของ จาดอน ซานโซ่ ปีกขวาทีมชาติอังกฤษวัย 21 ปีเป็นอีกหนึ่งแข้งหนุ่มที่พร้อมเจิดจรัสในเกมระดับชาติ แม้จะเคยโดน แมนฯ ซิตี้ มองข้ามเมื่อตอนที่เป็นเพียงเด็กปั้นมาก่อน แต่ได้ย้ายมาแจ้งเกิดกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบเต็มตัวเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้มีทีเด็ดในเรื่องของ "แอสซิสต์" จากการจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมในเกมระดับสโมสรยิงประตูได้แบบเป็นกอบเป็นกำ จึงพร้อมยืนปักหลักทางริมเส้นฝั่งขวาเพื่อป้อนบอลให้เพื่อนร่วมชาติได้มีลุ้นสอยตาข่ายอย่างแน่นอน

เจา เฟลิกซ์ (โปรตุเกส)

เช่นเดียวกับ เจา เฟลิกซ์ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสวัย 21 ปี ซึ่งพร้อมพิสูจน์ความเป็น "คลื่นลูกใหม่" ในฐานะอีกหนึ่งตัวเลือกในแนวรุกของทีมบ้านเกิด แม้จะแจ้งเกิดในเกมระดับสโมสรได้ตั้งแต่ตอนสมัยที่ค้าแข้งกับ เบนฟิก้า และได้ย้ายมาอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ทีมต้นสังกัดปัจจุบันนั่นเอง แต่ในเกมระดับชาติยังคงอยู่ภายใต้ร่มเงาของพวกรุ่นพี่ โดยเฉพาะกัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จึงต้องพยายามงัดฟอร์มออกมาโชว์เพื่อเจิดจรัสในเกมระดับชาติให้ได้เสียที

เดยัน คูลูเซฟสกี้ (สวีเดน)

ด้าน เดยัน คูลูเซฟสกี้ แนวรุกทีมชาติสวีเดนวัย 21 ปีเป็นอีกหนึ่งแข้งหนุ่มที่พร้อมเจิดจรัสด้วยเช่นกัน โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลจากการลงเล่นเกมระดับสโมสรให้กับ อตาลันต้า ก่อนจะถูกปล่อยให้ ปาร์ม่า ยืมตัวไปใช้งาน และได้ย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส จนถึงปัจจุบัน เพราะสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น กองกลาง, ปีกริมเส้น รวมถึง กองหน้า จึงเป็นนักเตะสาระพัดประโยชน์ในแนวรุก และเตรียมช่วยทำหน้าที่ล่าตาข่ายให้กับทัพลูกหนัง "ไวกิ้งสีเหลือง" เพื่อทดแทนการขาดหายไปของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงจอมเก๋าที่้มีปัญหาบาดเจ็บจนไม่สามารถรับใช้บ้านเกิดได้แบบน่าเสียดาย

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)

ปิดท้ายด้วย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสวัย 22 ปี ซึ่งจริงๆ แล้วแทบจะไม่ต้องพิสูจน์ฝีเท้าอีกต่อไปเสียด้วยซ้ำ เพราะแจ้งเกิดจากตอนที่ช่วยนำทัพลูกหนัง "ตราไก่" เข้าป้ายแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไปแล้วเมื่อตอนที่มีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น และสามารถยิงประตูในเกมระดับสโมสรให้กับ "เปแอสเช" ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้แบบถล่มทลายอีกด้วย แต่ยังเหลือการสถาปนาความยิ่งใหญ่ในเกมระดับทวีป เพื่อลุ้นคว้ายึดบัลลังก์ "เจ้ายุโรป" ให้ได้กับเขาบ้าง

นี่คือ 7 นักเตะดาวรุ่งที่พร้อมจรัสแสงในศึก ยูโร 2020 ซึ่งจะฟาดแข้งกันในช่วงระหว่างวันที่ 11 มิ.ย. ถึง 11 ก.ค.นี้อย่างแน่นอน

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด