[FEATURE] ก่อนคอมมูนิตี้ชิลด์ ! 5 เกมสุดคลาสสิคระหว่าง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล
โดย ภครัช เสนไกรกุล
แม้บรรยากาศจะไม่เดือดดาลเท่ากับเกมแดงเดือดหรือลอนดอนดาร์บี้แมตช์ แต่การเจอกันของ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ก็ได้ระเบิดความมันและสร้างความเร้าใจไม่แพ้การดวลกันของคู่อื่นแน่นอน
และนี่คือสุดยอด 5 แมตช์สุดคลาสสิคในการเจอกันของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษที่รับประกันได้ว่าจะทำให้สนุกสนานเร้าใจแม้จะเป็นแค่การดูไฮไลท์ก็ตาม
ลิเวอร์พูล 5-1 อาร์เซนอล (8 กุมภาพันธ์ 2014)
อาร์เซนอล มาเยือน แอนฟิลด์ ในฐานะจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก แต่หลังจาก 20 นาทีแรกผ่านไปพวกเขาก็ต้องตามหลังถึง 4-0 จาก ประตูของ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ 2 ลูกจาก มาร์ติน สเคอร์เทล
ครึ่งหลัง สเตอร์ลิง เองก็ได้มายิงอีก 1 ลูกทำให้ ลิเวอร์พูล ออกนำไปถึง 5-0 ก่อนที่ อาร์เตตา ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้จัดการทีม อาร์เซนอล จะยิงจุดโทษ 1 ลูกให้ทีมไม่แพ้ขาดจนเกินไปนัก
ขณะที่ในอีก 5 ปีต่อมา ลิเวอร์พูล ก็กลับมาเอาชนะ อาร์เซนอล 5-1 ที่ แอนฟิลด์ อีกครั้งจากการทำแฮ็ตทริกของ โรแบร์โต ฟิร์มิโน บวกกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ อีกคนละลูก
ลิเวอร์พูล 4-4 อาร์เซนอล (21 เมษายน 2009)
นี่คือหนึ่งเกมที่ติ่นเต้นเร้าใจที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เมื่อ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ต่างขับเคี่ยวกันอย่างสูสีพร้อมผลัดกันนำและตามด้วยการยิงรวมกันถึง 8 ประตู
ในเกมนี้ อังเดร อาชาวิน เหมาให้ อาร์เซนอล ไปคนเดียวทั้ง 4 ประตู ทำให้ทีมนำ 4-3 ไปจนถึงนาทีที่ 93 ก่อนที่ ยอสซี เบนายูน จะมาตามตีเสมอให้ ลิเวอร์พูล แบ่งแต้มไปแบบสุดระทึก
ลิเวอร์พูล 4-2 อาร์เซนอล (8 เมษายน 2008)
เป็นเกม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศเลกสองหลังจากเกมแรก ลิเวอร์พูล บุกไปเสมอ อาร์เซนอล ที่ เอมิเรตส์ เสตเดียม 1-1
โดยในเกมนี้ ลิเวอร์พูล นำ 2-1 จนถึงนาทีที่ 84 ที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ จะมายิงประตูสำคัญให้ อาร์เซนอล ตีเสมอ 2-2 ที่หากรักษาสกอร์นี้ไว้ได้อีก 4 นาทีพวกเขาก็จะผ่านเข้ารอบทันที
แต่ก็เป็น ไรอัน บาเบล ตัวสำรองที่ลงมาสร้างความแสบสันให้ ไอ้ปืนโต ด้วยการเรียกจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล ได้ประตูในนาทีที่ 86 มิหนำซ้ำยังมายิงปิดกล่องอีก 1 ประตูในนาทีที่ 90 อีกต่างหาก
อาร์เซนอล 4-2 ลิเวอร์พูล (9 เมษายน 2004)
อาร์เซนอล เป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในตอนนั้นด้วยการไม่แพ้ใครเลยติดต่อกันมา 30 เกมตั้งแต่เปิดลีก แต่พวกเขาก็ต้องพบกับความท้าทายเมื่อโดน ลิเวอร์พูล บุกมานำก่อนในครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-2
แต่ก็เป็น เธียร์รี อองรี ที่ระเบิดฟอร์มระดับโลกออกมาพร้อมยิงแฮ็ตทริกให้ทีมพลิกชนะด้วยสกอร์ 4-2 ก่อนสุดท้ายแล้ว อาร์เซนอล จะสามารถสร้างตำนานแชมป์ไร้พ่ายในปีนั้นไป
ลิเวอร์พูล 2-1 อาร์เซนอล (12 พฤษภาคม 2001)
ในเกมรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพที่ มิลเลเนียม สเตเดียม เป็น อาร์เซนอล ที่ครองเกมได้เหนือกว่าและยิงประตูขึ้นนำได้จาก เฟร็ดดริค ลุงเบิร์ก ในนาทีที่ 70
อย่างไรก็ตามเจ้าของฉายา 'เบบี้โกล' ไมเคิล โอเว่น ก็ไม่ยอมให้สกอร์จบลงเช่นนั้นเมื่อเขาสามารถทำสองประตูสุดสวยในช่วง 8 นาทีสุดท้ายให้ทีมเอาชนะไป
ซึ่งแชมป์เอฟเอคัพในนัดนี้ได้ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ยูฟ่าคัพ, ลีกคัพ และ เอฟเอคัพ รวมถึงยังทำให้ โอเว่น เถลิงเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ด้วย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด