โธมัส ทูเคิ่ล ผู้ขันแนวรับ เชลซี ให้แน่นปึ้ก - FEATURE
ผ่านบททดสอบในเกมบิ๊กแมทช์ พรีเมียร์ลีก ไปได้แบบสวยงาม สำหรับ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เพราะไม่พบกับความพ่ายแพ้ในเกมที่ต้องเผชิญหน้ากับทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษถึง 2 นัดติดต่อกัน เริ่มจากเกมที่เปิดบ้านเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ในบ้านของตัวเองแบบไร้สกอร์ 0-0 เมื่อช่วงสิ้นเดือนก่อน และสามารถบุกไปชนะ ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ 1-0 ได้ด้วย
เท่ากับว่า เชลซี ไม่พบกับความปราชัยในทุกรายการมาแล้วถึง 10 นัดติดต่อกัน นับตั้งแต่โค้ชชาวเยอรมันเข้ามาคุมทัพต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งถูกเด้งออกไปในช่วงต้นปีนี้ โดยแบ่งออกเป็นการคว้าชัยได้ถึง 7 นัด และลงเอยด้วยผลเสมออีก 3 เกม แต่ถ้าแยกย่อยออกเป็นในศึก พรีเมียร์ลีก จะเป็นสถิติไร้พ่ายมาแล้วถึง 8 เกมเลยทีเดียว
ทำให้ เชลซี หวนกลับคืนสู่จุดที่ควรอยู่ได้แล้ว นั่นก็คือการกลับมาเกาะกลุ่ม ท็อปโฟร์ ใน 4 อันดับแรกได้อีกครั้ง โดยรั้งอันดับ 4 แข่งไปแล้ว 27 นัด มี 47 แต้มนั่นเอง แม้จะประเดิมงานคุมทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ในศึก พรีเมียร์ลีก ด้วยการบุกไปเสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบไร้สกอร์ 0-0 แต่หลังจากนั้น ทูเคิ่ล สามารถพาทีมคว้าชัยได้ถึง 6 เกม และลงเอยด้วยผลเสมอไปอีก 2 นัด
สิ่งหนึ่งที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ เชลซี ในยุค ทูเคิ่ล ก็คือ แนวรับ ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย เพราะเพิ่งเสียประตูไปเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น โดยถูกสอยตาข่ายในศึก พรีเมียร์ลีก ทั้งหมดเลย และเก็บได้ถึง 8 คลีนชีตจากการลงเล่นในทุกรายการไปแล้วทั้งหมด 10 เกม ทั้งๆ ที่ใช้งานกองหลังชุดเดิมจากยุคของ แลมพาร์ด ซึ่งเคยถูกวิจารณ์ว่าทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย และพบกับความพ่ายแพ้ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไปถึง 6 เกมเลยด้วย
ก่อนหน้านี้ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ถูกโจมตีว่าเป็นกองหลังจอมเฟอะฟะ เพราะทำผิดพลาดให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ เช่นเดียวกับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ส่วนในรายของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ถูกวางตัวให้สวมบทเป็นแบ็กขวามาโดยตลอด แม้จะสามารถยืนเล่นเป็นปราการหลังได้ด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้ทั้ง 3 คนดังกล่าวกลับได้รับความไว้วางใจจาก ทูเคิ่ล ให้ลงสนามเป็นตัวจริงร่วมกันตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1 และกลายเป็น 3 ประสานในแนวรับที่ทำผลงานได้ดีกว่ายุคของ แลมพาร์ด เสียด้วยซ้ำ
แม้ว่า เชลซี ในยุคของ ทูเคิ่ล จะไม่มีแนวรุกที่ยิงประตูได้แบบถล่มทลาย หลังจากที่เพิ่งสอยตาข่ายในทุกรายการได้เพียงแค่ 11 ลูก แต่กลับมีแนวรับที่แข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นเหมือนรากฐานที่ช่วยนำทีมไปสู่ชัยชนะได้มากกว่าครึ่งเลยด้วย เพราะอย่างน้อยตอนนี้ก็กลายเป็นทีมไร้พ่ายต่อไปนั่นเอง
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด