เชลซี จอมลิ่วตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แห่งอังกฤษ แต่ เรอัล มาดริด รั้งเบอร์ 1 - FEATURE

Chelsea FC v Porto  - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two
Chelsea FC v Porto - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two / Quality Sport Images/Getty Images
facebooktwitterreddit

ยังคงอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ประจำฤดูกาล 2020/2021 สำหรับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก เพราะสามารถตบเท้าผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ เพื่อไปลุ้นยึดบัลลังก์ "เจ้ายุโรป" เป็นสมัยที่ 2 กันต่อไป หลังจากที่เคยทำได้มาแล้วหนึ่งสมัยเมื่อปี 2012 และได้จารึกชื่อเป็นสโมสรที่ทะลุเข้าถึง รอบตัดเชือก ในถ้วยใบใหญ่ยุคปัจจุบันได้มากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษอีกด้วย

N'Golo Kante, Mateus Uribe
Chelsea FC v Porto - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two / Fran Santiago/Getty Images

นับตั้งแต่ที่ถ้วยใบใหญ่สุดของทวีปได้เปลี่ยนชื่อจาก ยูโรเปี้ยน คัพ พร้อมกับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันมาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 1992 จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ เชลซี ได้สร้างสถิติผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่ 8 จึงขยับแซงหน้าขึ้นยึด เบอร์หนึ่ง ของอังกฤษเหนือกว่า "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องร่วงลงไปอยู่อันดับ 2 จากที่เคยทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกได้ทั้งหมด 7 ครั้ง

SOCCER-CHAMPS LEAGUE-LEEDS-VALENCIA
ลีดส์ ยูไนเต็ด / ODD ANDERSEN/Getty Images

ส่วน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เคยผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งหมด 5 ครั้ง โดยสามารถผ่านเข้าถึงนัดชิง 4 ครั้งเสียด้วย และลงเอยด้วยตำแหน่ง "เจ้ายุโรป" ถึง 2 สมัย ขณะที่ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เคยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทั้งหมด 2 ครั้ง เช่นเดียวกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ที่เพิ่งทำได้เป็นหนที่ 2 ในฤดูกาลนี้นั่นเอง ด้าน "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ในยุครุ่งเรืองเคยทะลุถึงรอบตัดเชือกได้หนึ่งครั้งในปี 2001 ด้วย นั่นคือสถิติของทีมลูกหนังจากอังกฤษที่เคยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในถ้วยใบใหญ่ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา

Eder Militao
เรอัล มาดริด / Shaun Botterill/Getty Images

ขณะที่ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ยังคงครองสถิติเป็น จอมลิ่วตัดเชือก จากการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถึง 13 ครั้ง ตามมาด้วยอันดับ 2 นั่นก็คือ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า อีกหนึ่งมหาอำนาจลูกหนังจากเมืองกระทิงดุ และ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค จอมผูกขาดแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ด้วยจำนวน 12 ครั้งเท่ากันพอดีเลย ส่วน เชลซี ไล่หลังอยู่ในอันดับ 3 ด้วยจำนวน 8 ครั้ง

ทั้งนี้ เชลซี ต้องโคจรมาพบกับ เรอัล มาดริด ในเกมรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ด้วย เพื่อวัดกันว่าทีมใดจะได้ผ่านเข้าถึงนัดชิงไปลุ้นยึดบัลลังก์ "เจ้ายุโรป" ในท้ายที่สุด

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด