ลาปอร์ต โขกโทน แมนฯ ซิตี้ เฉือน สเปอร์ส คว้าแชมป์ลีกคัพ 4 สมัยซ้อน
การแข่งขัน : คาราบาวคัพ 2020/21 รอบชิงชนะเลิศ
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน :ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม : เวมบลีย์
Match Report
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าถ้วยรางวัลแรกของฤดูกาลได้สำเร็จพร้อมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ถึง 4 ปีซ้อนเทียบเท่ากับที่ ลิเวอร์พูล ทำเอาไว้ในยุค 80
ขณะที่สถิติการคว้าแชมป์สมัยที่ 8 ทำให้พวกเขาทาบสถิติของ ลิเวอร์พูล อีกเช่นกัน
หลังจากสัปดาห์ที่วุ่นวาย ซิตี้ กับดราม่าของ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก พวกเขายังไม่วอกแว่กเก็บ 3 แต้มในเกมลีกกับ แอสตัน วิลลา ได้ในโปรแกรมกลางสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก่อนจะตามกันมาติดๆด้วยการต้องเผชิญหน้ากับ สเปอร์ส ที่เพิ่งตัดสินใจไล่ โจเซ มูรินโญ ออกเมื่อต้นสัปดาห์โดยให้ ไรอัน เมสัน รับหน้าที่เป็นกุนซือขัดตาทัพแทนโดยที่เกมในรอบชิงนี้เป็นเพียงการคุมทีมจากข้างสนามนัดที่ 2 ของเขาเท่านั้นเอง
เป๊ป กวาดิโอลา ได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับสู่ทีมโดยมี อเกวโร อยู่บนม้านั่ง ในเกมที่ตึงเครียดไม่น้อยสำหรับ ซิตี้ ที่แม้จะครองเกมเหนือกว่าเกือบตลอด 90 นาทีแต่กลับล้มเหลวในการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูจนถึงนาทีที่ 81 เมื่อ อายเมริค ลาปอร์ต ช่วยโขกชัยให้จากลูกฟรีคิก
Player Ratings
ยอริส(8), ออริเยร์(5), อัลเดอไวเรลด์(7), ดายเออร์(7), เรกิลอน(5), วิงคส์(7), ฮอยแบร์ก(5),มูรา(6), โล เซลโซ(6), ซน(5), เคน(6)
ตัวสำรอง : เบิร์กไวจน์(6), อัลลี(6), ซิสโซโก้(6), เบล(6)
สเตฟเฟน(6), วอล์คเกอร์(6), ดิอาส(6), ลาปอร์ต(6),คันเซโล(7), กุนโดกัน(6), แฟร์นันดินโญ(6), สเตอร์ลิง(7), มาห์เรซ(7), เดอ บรอยน์(8), โฟเดน(6)
ตัวสำรอง : โรดรี(6), ซิลวา(6)
เก็บตกหลังเกม
1. วันแห่งประวัติศาสตร์
รอบชิงชนะเลิศเกมนี้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล 8,000 คน ; มากที่สุดในรอบปีกว่าสำหรับเกมในประเทศ อังกฤษ แห่งนี้
2. ไม่ใช่ 'ทางของท็อตแนม' แต่ก็ไม่เลวนัก
การต้องพบกับทีมระดับท็อปอย่าง แมนฯ ซิตี้ ทำให้ ไรอัน เมสัน ต้องคิดหนักว่าจะนำทีมลงเล่นด้วย "วิถีของท็อตแนม" ตามที่เขาสัญญาเอาไว้หรือจะเล่นแบบรัดกุมเพื่อหวังผล
เมสัน เลือกอย่างหลังโดยให้ วิงคส์ ออกสตาร์ทแทน เอ็นดอมเบเล เพื่อหวังจะคุมเกมในแดนกลางให้แน่นอนมากขึ้นซึ่งก็ต้องแลกกับการสร้างสรรค์เกมที่ด้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ดีมันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องก็เป็นได้เพราะลูกทีมของ เมสัน สามารถรับมือกับการโหมบุกของ ซิตี้ เอาไว้ได้เกือบตลอดทั้งเกม..จนกระทั่งประตูของ ลาปอร์ต มาถึงในนาทีที่ 81
3. กวาดิโอลา กับพายุลูกใหญ่ของเขา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นการแข่งขันด้วยความเข้มข้นและสิ่งเดียวที่ขาดหายไปจากผลงานครึ่งแรกคือประตู
ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิล โฟเดน จุดประกายให้แฟนๆใน เวมบลีย์ ด้วยการเคลื่อนไหวและเล่ห์เหลี่ยมอันแพรวพราวขณะที่ เดอ บรอยน์ ก็คอยแจกจ่ายบอลไปทั่วสนามจากตำแหน่งหมายเลข 10
เรกีลอน และ ออริเยร์ น่าจะหายใจโล่งขึ้นเยอะเมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดครึ่งเวลาแรกเพียงเพื่อต้องมาเจอหนังม้วนเดิมในครึ่งหลัง
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด