เซบาสเตียน อัลแลร์ คนนี้หรือที่จะมาแทน ฮาแลนด์ ที่ ดอร์ทมุนด์ - OPINION
เมื่อต้องเสีย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงผู้มีค่าเฉลี่ยทำประตูได้เกมละลูก การจะหาตัวแทนที่เหมาะสมของเขาคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทุ่มเงินถึง 35 ล้านยูโรเพื่อกระชากตัว เซบาสเตียน อัลแลร์ มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
ราคาก็เรื่องหนึ่งแต่ด้วยวัย 28 ปี มันเป็นดีลที่เห็นได้ไม่บ่อยนักกับทีมนี้ เพราะพวกเขามักจะเป็นทีมที่ชอบเซ็นสัญญากับผู้เล่นอายุน้อยๆที่รอวันแจ้งเกิดแล้วขายต่อทำกำไรเสียมากกว่า
ขณะที่ อัลแลร์ นั้น แม้จะเพิ่งทำไป 11 ประตูจาก 8 เกมใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แถมยังยิงใส่ว่าที่ต้นสังกัดในอนาคตได้อีกต่างหากในรอบแบ่งกลุ่ม แต่เขาก็ดูจะเป็นผู้เล่นประเภทที่อยู่ในวัยกำลังพีคสุดขีดและคงยากจะขายต่อทำกำไรเป็นแน่
หนสุดท้ายที่ ดอร์ทมุนด์ นำเข้าแข้งตัวรุกที่อายุอานามปาเข้าไปขนาดนี้ ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2014 โน่นเลย สมัยที่ เยอร์เกน คล็อปป์ ยังคุมทีมอยู่และไปคว้าเอา อาเดรียน รามอส กองหน้าวัย 28 ปี มาจาก แฮร์ธา เบอร์ลิน
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าสโมสรไม่พยายามมองหากองหน้าที่อายุน้อยกว่านี้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับเกมรุกของทีมหลังจากที่ไปคว้าตัว คาริม อเดเยมี่ มาจาก ซัลซ์บวร์ก และอันที่จริงพวกเขาได้เคยส่งแมวมองไปดูฟอร์มของ ซาซ่า คาลัดจ์ซิช ของ สตุ๊ดการ์ต อยู่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ติดปัญหาตรงเรื่องฟอร์มที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอและประวัติอาการบาดเจ็บของแข้งวัย 24 ปี
โดยอย่างหลังนี่แหละที่สร้างความเดือดร้อนให้กับ ดอร์ทมุนด์ อย่างแรงเลยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาต้องเสียกองหน้าคนสำคัญไปในเกมใหญ่ๆจนร่วงฟุตบอล ยุโรป ถึงสองรายการในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ส่วน อัลแลร์ นั้น ตลอดระยะเวลา 5 ปี หลัง เขาเคยมีอาการบาดเจ็บที่กินเวลาฟื้นตัวนานกว่าเดือนเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ต้องย้อนกลับไปตอนเขายังเล่นให้กับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ในปี 2019 โน่นเลย
ส่วนสำคัญมากที่ทำให้ทั้ง ฮาแลนด์ และ อัลแลร์ แตกต่างกันก็คือสไตล์การเล่น - เขาไม่ได้รวดเร็วแบบ ฮาแลนด์ และวิ่งฉีกหนีจากตัวประกบได้ดีเท่าและอาจจะด้อยกว่าเรื่องการจบสกอร์เสียด้วยซ้ำ แต่เขาเป็นกองหน้าที่เล่นในพื้นที่แคบๆได้ดี แถมยังช่วยเพื่อนร่วมทีมไล่เพรสซิ่งเข้าใส่กองหลังคู่แข่งได้อยู่ตลอดทั้งเกมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยรูปร่างที่บึกบึนอีกด้วย
นอกจากนี้ อัลแลร์ ยังพิสูจน์แล้วว่าไม่มีปัญหาเลยยามต้องรับมือกับทีมที่ตั้งรับลึกๆ ซึ่งเป็นวิธีการเล่นของแทบจะทุกทีมในลีก ดัตช์ เมื่อเจอกับทีมของ เอริค เทน ฮาก
อัลแลร์ แม้จะตัวใหญ่ แต่กลับต่อบอลได้อย่างไหลลื่นระหว่างแนวรุกอย่าง ดูซาน ทาดิช ทางซ้ายและ แอนโทนี ที่ทางขวา พร้อมกับหาโอกาสพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่พร้อมจะทำประตูได้อยู่เสมอๆเลย
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ล้มเหลวเหมือนตอนย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก กับ เวสต์แฮม? นี่เป็นคำถามที่สำคัญมากแต่คำตอบก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
อัลแลร์ ย้ายเข้ามาตอนที่ เปเญกรินี คุมทีมอยู่และกุนซือชาว ชิลี กับ เดวิด มอยส์ ก็มีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันมาก เมื่อ มอยส์ ชอบที่จะให้ทีมของเขาตั้งรับลึกก่อนจะดันขึ้นไปพร้อมๆกันยามทีมเป็นฝ่ายได้ครองบอล ซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับกองหน้าอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ แต่ไม่ใช่กับ อัลแลร์ เพราะเขาไม่ได้มีความเร็วที่จะวิ่ง 30 เมตรจากกลางสนามไปยังกรอบเขตโทษด้วยความเร่งรีบได้
ส่วนกับ อาแจ็กซ์ นั้น การสัมผัสบอลกว่า 70% ของเขามาจากในสนามฝั่งของคู่แข่งและกว่า 20% เป็นในกรอบเขตโทษทั้งสิ้น
ท้ายที่สุด การจะคาดหวังให้เขาทำประตูได้เท่ากับ ฮาแลนด์ คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยาก แต่ อัลแลร์ ก็คือ อัลแลร์ เขามีสิ่งที่แข้งชาว นอร์เวย์ ไม่มี และ ดอร์ทมุนด์ ก็ไม่ได้คว้าตัวเขามาร่วมทีมเพียงแค่คนเดียวในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่พวกเขายังมีว่าที่ดาวรุ่งพุ่งแรงคนใหม่แห่ง เยอรมนี มาร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง