[BEST XI] ต้นกำเนิดสตาร์มากหน้าหลายตา ! จัดทีม 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมที่เคยค้าแข้งอยู่กับ ชาลเก้ 04
เนื่องในโอกาสที่ ชาลเก้ เพิ่งเก็บ 3 แต้มแรกในลีกได้หลังผ่านมา 357 วัน เราเลยขอพาทุกคนไปดูชุด 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของ ราชันสีน้ำเงิน หากพวกเขาไม่ปล่อยขายสตาร์ของทีมออกไปแม้แต่คนเดียว แล้วขอบอกเลยว่า บาเยิร์น หรือ ดอร์ทมุนด์ ก็เถอะ เจอทีมนี้เข้าไปต้องมีหนาวๆร้อนๆกันบ้างแหละ
1. ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์
นอยเออร์ เข้าร่วมทีมเยาชนของ ชาลเก้ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนจะไต่เต้าไปติดทีมชุดใหญ่และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2010/11 จนทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงกับต้องการคว้าตัวมาเฝ้าเสา แต่เจ้าตัวมีความประสงค์ที่จะเล่นใน เยอรมัน ต่อไป บาเยิร์น มิวนิค จึงมาวินไปโดยปรียายในดีลนี้ ปัจจุบันกับวัย 34 ปี มานูเอล ไม่เพียงแต่เป็นนายประตูที่ดีที่สุดในลีก โดยหากจะกล่าวว่าดีที่สุดของ ยุโรป หรือโลกก็คงไม่ผิดนักเช่นกัน
2. แบ็คขวา : ธิโล เคห์เลอร์
แข้งสารพัดประโยชน์ติดทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2015 และสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงมาได้อย่างต่อเนื่องจนถูก เปแอสเช กระชากตัวไปด้วยค่าตัวเกือบ 40 ล้านปอนด์ ปัจจุบันด้วยวัย 24 ปี เขาถูก โยคาคิม เลิฟ เรียกติดธงแล้วจำนวน 9 นัด ทั้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คและวิงแบ็คขวา
3. เซ็นเตอร์แบ็ค : โจเอล มาติป
อีกหนึ่งผลผลิตจากอะแคเดมีที่ออกไปได้ดิบได้ดีกับ ลิเวอร์พูล หลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเมื่อสินฤดูกาล 2015/16 ที่เขาได้ลงเล่นทุกวินาทีในลีก ทว่าที่ แอนฟิลด์ การได้ลงเล่นสัก 2-3 เกมติดกันก็นับว่าเป็นปาฎิหารย์แล้ว
4. เซ็นเตอร์แบ็ค : เบเนดิคต์ โฮเวเดส
หนึ่งในผู้เล่นทีมชาติ เยอรมัน ชุดคว้าแชมป์โลกปี 2014 ที่ปัจจุบันได้แขวนสตั๊ดไปแล้วทั้งๆที่อายุแค่ 32 ปี เพราะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน โดยสโมสรสุดท้ายของเขาคือ โลโคโมทีฟ มอสโก
5. แบ็คซ้าย : เซร์คิโอ เอสคูเดโร
แข้งชาว สเปน ไม่ได้รับโอกาสมากนักใน บุนเดสลีก้า โดยตลอด 3 ปีของเขากับ ชาลเก้ เอสคูเดโร ได้สัมผัสสนามไปเพียง 22 เกมเท่านั้น แต่หลังจากได้ย้ายไป ลาลีกา กับ เซบีญา เจ้าตัวสามารถพลิกสถานการณ์กลายเป็นตัวหลักของทีมคว้าแชมป์ ยูโรป้าลีก ไปได้ 2 สมัย ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเติมเกมบุกอย่างดุดัน
6. กองกลาง : เลออน โกเร็ตซ์ก้า
กองกลางเนื้อหอมรายนี้ได้รับความสนใจจากทั้ง บาร์เซโลนา, ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจอำลาสโมสรที่ลงเล่นมาตั้งแต่อายุ 18 ไปให้กับแชมเปี้ยนแห่งเมืองเบียร์พร้อมทั้งสถาปนาตัวเองกลายเป็นแข้งที่ ฮานซี ฟลิค ขาดไม่ได้ไปแล้ว
7. กองกลาง : อีวาน ราคิติช
อดีตดาวรุ่งจากลีก สวิตเซอร์แลนด์ ระเบิดฟอร์มในสีเสื้อของ ชาลเก้ ด้วยการทำไป 16 ประตู 29 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 135 นัดจนถูก เซบีญา มาสู่ขอไปในปี 2011 และก็เป็น บาร์เซโลนา ที่อดรนทนไม่ไหวไปพามาช่วยเติมแกร่งแดนกลางในอีก 3 ซีซั่นต่อมา
8. ปีกขวา : จูเลียน ดรักซ์เลอร์
เพลย์เมคเกอร์กึ่งปีกของ เปแอสเช เติบโตขึ้นมาจากทีมชุดเยาวชนของ ชาลเก้ โดยถูกยกให้เป็นหนึ่งในแข้งมากพรสวรรค์ที่สุดคนนึงของลีก แต่การย้ายไป ฝรั่งเศส ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะนอกจากจะไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเพื่อพัฒนาฝีเท้าแล้ว ดรักซ์เลอร์ ยังมาถูกอาการบดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยๆอีก นอกจากนี้สัญญาฉบับปัจจุบันของเจ้าตัวจะหมดลงในเดือนมิถุนายนแล้ว แต่ก็ดูท่าว่าจะไม่มีบิ๊กทีมมารอช้อนตัวเขาไปเสริมทัพในฤดูกาลหน้าเลย
9. เพลย์เมคเกอร์ : เมซุต โอซิล
แข้งลูกครึ่ง ตุรกี-เยอรมัน ได้ลงเล่นในถิ่น เฟลทินส์อารีนา เพียง 2 ปี ก่อนจะถูกส่งต่อไปให้ เวเดอร์ เบรเมน ที่ซึ่งเขาได้ระเบิดฟอร์มในการสร้างสรรค์เกมออกมาจนเตะตา เรอัล มาดริด และได้โอกาสย้ายไปจับคู่ช่วย คริสเตียโน โรนัลโด้ ผลิตสกอร์เป็นว่าเล่น ปัจจุบันเขากำลังหมดสัญญากับ อาร์เซนอล และถูกปล่อยออกจากทีมไปแบบไร้เยื่อใยแม้จะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจตั้งแต่ อาร์แซน เวงเกอร์ คว้าตัวมาเมื่อปี 2013
10. ปีกซ้าย : ลีรอย ซาเน
ปีกความเร็วสูงโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุ่มเงินก้อนโตคว้าตัวไปร่วมทีม แต่หลัง บาเยิร์น โผล่มาทาบทามเจ้าตัวก็ไม่รีรอกระโดดขึ้นเครื่องบินกลับประเทศแทบจะในทันที ปัจจุบันหลังฟื้นตัวมาจากอาการบาดเจ็บ ซาเน กลายเป็นหนึ่งในอาวุธหนักในทีมของ ฟลิค ได้อย่างต่อเนื่อง
11. กองหน้า : ราอูล
ตำนาน ราชันชุดขาว ช็อคโลกหลังถูกต้นสังกัดปล่อยออกมาและเลือกที่จะย้ายมา ชาลเก้ ที่ซึ่งเขายังคงความเฉียบขาดหน้าประตูเอาไว้ได้ถึง 2 ซีซั่น ก่อนจะโยกไปโกยเงินที่ตะวันออกกลาง และ สหรัฐ อเมริกา ตามลำดับ
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด