[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติบราซิลระหว่างปี 2000-2020

facebooktwitterreddit

หากพูดถึงฟุตบอล บราซิล ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องกีฬาชนิดนี้เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยเอกลักษ์สไตล์แซมบ้าอันเลื่องลือที่เน้นทักษะ ลีลา เปรียบเหมือนการร่ายรำบนเวทีผืนหญ้า ที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจต่อเหล่าบรรดาแฟนฟุตบอลมาแล้วนักต่อนัก


ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาทีมชาติบราซิล ได้ผลิตนักเตะระดับคุณภาพของวงการมากมายนับไม่ถ้วนตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ทั้งในยุคของ อเดเมียร์ วาวา การ์รินชา จนมาถึงยุคทองของตำนานอย่าง เปเล ที่ต่อเนื่องมาถึง ซิโก้ และ โซคราเตส


เช่นเดียวกับปัจจุบัน หากนับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าศตวรรษที่ 21 ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ทีมชาติบราซิล ยังคงสร้างสีสันให้กับโลกฟุตบอลรวมถึงผลิตบรรดานักเตะระดับท็อปเข้าสู่วงการอย่างไม่ขาดสาย วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ 11 ผู้เล่นที่ว่ากันว่ายอดเยี่ยมที่สุดของ “ทัพเซเลเซา” ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยจะมีใครกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย...


1. ผู้รักษาประตู - ดีด้า

เดิมทีตำแหน่งผู้รักษาประตูอาจไม่ใช่ตำแหน่งที่ขึ้นชื่อนักสำหรับเหล่าพลพรรคแซมบ้า กระทั่งกลางยุค 90 ที่ ดีด้า ถูกเรียกตัวมารับใช้ชาติครั้งแรก นับตั้งแต่นั้นเจ้าตัวก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาจนก้าวขึ้นไปยึดมือหนึ่งของทีมชาติได้สำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 21 ปีด้วยกัน

ดีด้า เป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 โดยเขานั้นแจ้งเกิดและโด่งดังกับ เอซี มิลาน ในช่วงต้นยุค 2000 กวาดแชมป์รายการต่าง ๆ มามากมายทั้ง แชมป์โลก 1 สมัย โคปาอเมริกา 1 สมัย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย รวมถึงผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของ กัลโช เซเรีย อา 1 สมัยด้วยกัน ดีด้า แขวนถุงมือไปเมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมา ปิดตำนานผู้รักษาประตูที่ทำสถิติติดทีมชาติบราซิลมาที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับสาม ด้วยผลงานรับใช้ชาติมากถึง 92 นัดเลยทีเดียว

2. แบ็คขวา - ดานี อัลเวส

คงยากที่จะหาใครมาเทียบกับเขาคนนี้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ดานี อัลเวส เข้ามารับหน้าที่ในตำแหน่งแบ็คขวาต่อจากตำนานรุ่นพี่อย่าง คาฟู ที่โรยราไป และหลังจากที่เขาได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับทีมชาติครั้งแรกในปี 2006 ก็ไม่มีใครสงสัยในตัวเขาคนนี้อีกเลย ด้วยพิษสงอันรอบตัว และสไตล์การเล่นแบบบุกแหลก ส่งผลให้ยุคหนึ่งเขาเคยถูกยกให้เป็นแบ็คขวาที่ดีที่สุดของโลกเลยทีเดียว

อัลเวส เริ่มค้าแข้งในยุโรปกับ เซบียา และ มาโด่งดังสุด ๆ กับ บาร์เซโลนา แถมหลังจากนั้นยังได้ไปเล่นกับยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงท้ายอาชีพการค้าแข้งอีกด้วย แม้ อัลเวส จะไม่เคยได้สัมผัสแชมป์โลกในนามทีมชาติบราซิล แต่ในระดับสโมสรเจ้าตัวถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสถิติติดทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 3 ด้วยผลงาน 118 เกมอีกด้วย

3. กองหลัง - ลูซิโอ

ยอดกองหลังที่แจ้งเกิดกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน จนมาสร้างชื่อและโด่งดังกับ บาเยิร์น มิวนิค และ อินเตอร์ มิลาน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทำสถิติลงสนามให้กับทีมชาติทุกนาทีตลอดทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเมื่อปี 2002 กระทั่งคว้าแชมป์กับทีมได้สำเร็จ แถมหลังจากนั้นยังคว้าแชมป์ คอนเฟเดอเรชันส์คัพ อีก 2 สมัยในปี 2005 และ 2009
ลูซิโอ รับใช้ชาติไปทั้งสิ้น 105 นัด มากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 4 ของทีมชาติบราซิล

4. กองหลัง – ฮวน

มักจะเป็นกองหลังที่ถูกมองข้ามไปเสมอสำหรับอดีตแข้งของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน และ โรมา รายนี้ ฮวน ถูกเรียกมาติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในปี 2001 แต่น่าเสียดายทีเจ้าตัวไม่มีชื่อติดทีมไปลุยศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้สำเร็จ และยังเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โคปาอเมริกาถึง 2 สมัยด้วยกัน รวมแล้ว ฮวน ติดธงไปทั้งสิ้น 79 นัด ทำไปทั้งสิ้น 7 ประตูในนามทีมชาติด้วยกัน

5. แบ็คซ้าย - โรแบร์โต้ คาร์ลอส

แม้ตำนานแบ็คซ้ายรายนี้จะเล่นคาบเกี่ยวในยุค 90 และ 2000 แต่ต้องบอกเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครสามารถสานต่อความยอดเยี่ยมของแข้งรายนี้ได้เลย แม้แต่ มาร์เซโล รุ่นน้องในทีม เรอัล มาดริด ก็ตาม แถมไม่เพียงแค่ทีมชาติบราซิล เชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนอาจถึงขั้นยกให้ คาร์ลอส เป็นแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยความเร็ว ความแข็งแกร่ง แถมจุดขายที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักคือลูกยิงอันทรงพลังที่ยังติดอยู่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลยุค 90 แทบทุกคน


คาร์ลอส ติดทีมชาติไปทั้งสิน 125 เกมทำไปได้ 11 ประตูด้วยกัน เป็นเจ้าของสถิติติดทีมชาติบราซิลมากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียง คาฟู รายเดียวเท่านั้น

6. กองกลาง - กาเซมิโร

ชื่อชั้นของเขาอาจฟังดูยังห่างไกลกับตำนานรุ่นพี่ที่กล่าวไปก่อน ๆ หน้านี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ทีมชาติบราซิลแทบไม่มีกองกลางตัวรับที่ครบเครื่องแบบนี้เลย กาเซมิโร พึ่งจะสร้างชื่อเสียงขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้หลังจากย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2013 และจากนั้นก็ค่อย ๆ สร้างชื่อขึ้นมาจนเป็นกำลังหลักในทีม ราชันชุดชาว และทีมชาติบราซิลในที่สุด ถึงตอนนี้เจ้าตัวติดทีมชาติไปแล้ว 44 นัด เป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์โคปาอเมริกาสมัยล่าสุด แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติบราซิลชุดรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีมาแล้วเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา

7. กองกลาง - กาก้า

แฟน ๆ ฟุตบอลในยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มหน้ามนรายนี้ ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอยู่พักหนึ่งพร้อมฉายา “ผีกาก้า” ที่แฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะจำกันได้ แถม กาก้า ยังเป็นมนุษย์คนสุดท้ายบนโลกที่เคยได้รับรางวัล ฟีฟ่า บัลลงดอร์ อีกด้วยเพราะหลังจากนั้นก็เป็นยุคของเอเลี่ยนอย่าง เมสซี และ โรนัลโด้ กระทั่ง ลูก้า โมดริช สามารถหยุดความต่อเนื่องของทั้งสองคนเอาไว้ได้เมื่อปีก่อนหน้านี้เอง


กาก้า ติดทีมชาติไปทั้งสิ้น 92 นัด ทำไปได้ 29 ประตู แถมเขายังเป็นหนึ่งในขุนพลทัพเซเลเซา ชุดแชมป์โลกปี 2002 อีกด้วย

8. กองกลาง - โรนัลดินโญ

หลาย ๆ คงยกให้เขาคนนี้เป็นนักเตะที่มีทักษะลีลาในสนามที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกเท่าที่เคยมีมา ซึ่งต้องยอมรับในความสร้างสรรค์ของตัวรุกฉายา “เหยินน้อย” รายนี้ จริง ๆ เพราะยามใดที่มีลูกบอลอยู่กับตัว เขาจะสามารถรังสรรค์ความงดงามให้แฟนบอลได้ร้องว้าวกันได้อยู่เสมอ สมัยที่ยังค้าแข้งอยู่นั้น โรนัลดินโญ เคยคว้าแชมป์ทั้งกับทีมชาติและสโมสรแทบจะทุกรายการจนนับไม่ถ้วน เสียดายที่ช่วงท้ายอาชีพการค้าแข้ง อาการบาดเจ็บกลับมาพรากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาคนนี้ไปก่อนวัยอันควร เหยินน้อย ติดทีมชาติไปทั้งสิ้นกว่า 97 เกม ทำไปได้ 33 ประตูตลอด 19 ปีที่รับใช้ชาติ

9. กองกลาง - ริวัลโด้

อีกหนึ่งตำนานที่ค้าแข้งในยุคที่คาบเกี่ยวระหว่างปี 90 และ 2000 โดยเจ้าตัวโด่งดังและสร้างชื่อสมัยที่เข้ามาค้าแข้งในลาลีกา ปลายยุค 90 กับ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา และ บาร์เซโลนา ไม่น่าเชื่อว่าเขาพึ่งจะประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง


ริวัลโด้ ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงต้นยุค 2000 ด้วยการคว้า บัลลงดอร์ ปี 1999 ก่อนจะมาคว้าแชมป์โลกในปี 2002 พร้อมกับรางวัลออสก้าที่แฟนบอลมอบให้หลังจากออกท่าทางเจ็บใบหน้าทั้งที่บอล ไม่ได้พุ่งมาโดนหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามนอกจากฝีมือการแสดง ฝีเท้าของเขาก็จัดว่าอยู่ในระดับท็อป ๆ ในยุคนั้นเลยทีเดียว

10. กองหน้า – เนย์มาร์

ตำนานคนต่อไปของทีมชาติบราซิล ที่สามารถแจ้งเกิดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย จน บาร์เซโลนา ยอมทุ่มเงินมหาศาล ดึงตัวเขามาร่วมทีมในปี 2013 และด้วยพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมทำให้ เนย์มาร์ กลายเป็นความหวังสูงสุดของทีมชาติบราซิลยุคนี้ไปโดยปริยาย แม้ที่ผ่านมาเขาจะยังไม่สามารถแบกทีมชาติให้ไปถึงฝั่งฝันได้ แต่สถิติอันยอดเยี่ยมก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาคือสตาร์ที่เราไม่ได้เห็นมานานในนามทีมชาติบราซิล กับสถิติลงสนาม 102 นัดทำได้ 61 ประตู ซึ่งนี่เป็นสถิติการทำประตูมากที่สุดตลอดกาลอันดับที่สาม แถมด้วยอายุเพียง 28 ปี ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสทำลายสถิติที่ เปเล ทำเอาไว้มากที่สุดสุดที่ 77 ลูกลงก็เป็นได้

11. กองหน้า - โรนัลโด้

หากพูดถึงทีมชาติบราซิลแฟนบอลยุค 90 หลาย ๆ คน คงจะนึกถึงเขาคนนี้เป็นคนแรก ๆ อย่างแน่นอนสำหรับนักเตะฉายา “โล้นทองคำ” โรนัลโด้ “R9” ที่ครั้งหนึ่งเขาเกือบจะได้ขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกอยู่เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เหมือนกับว่า “โด้อ้วน” กับอาการบาดเจ็บมักจะเป็นของคู่กัน จนทำให้อนาคตที่สดสัยของแข้งรายนี้ ถึงกับค่อย ๆ มอดลงและดับไปตามอายุใข แต่อย่างไรก็ตามในยุคที่ยังพีค ๆ อยู่นั้น เรียกได้ว่าแทบไม่มีกองหลังคนไหนบนโลกเอาเขาอยู่เลย ทั้งความเร็ว และความเฉียบขาด และนั่นส่งผลให้ โรนัลโด้ กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอันดับสองของทีมชาติบราซิลด้วยผลงาน 62 ประตูจากการลงเล่น 98 นัดนั่นเอง


บทความชุด Best XI นานาชาติ

[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติอังกฤษระหว่างปี 2000-2020  
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ระหว่างปี 2000-2020 
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติบราซิลระหว่างปี 2000-2020 
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติญี่ปุ่นระหว่างปี 2000-2020 
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติอาร์เจนตินาระหว่างปี 2000-2020 
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติโครเอเชียระหว่างปี 2000-2020 
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศสระหว่างปี 2000-2020 
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติโคลอมเบียระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติเยอรมนีระหว่างปี 2000-2020   
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติไอวอรี โคสต์ระหว่างปี 2000-2020


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด