อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์ กับการคว้าแชมป์ลีกแรกในรอบครึ่งศตวรรษของ มิเนโร - FEATURE
ครึ่งศตวรรษของการรอคอยสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดี ย้อนกลับไปในปี 1971 บราซิล ได้เปิดการแข่งขันลีกระดับชาติอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยที่ แอตเลติโก มิเนโร เป็นทีมที่ได้แชมป์ลีกประเดิมการเปิดตัวของทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าว แต่ใครจะไปรู้ว่านั่นจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของพวกเขา - จนกระทั่งตอนนี้
มิเนโร ไม่เคยขาดผู้เล่นระดับท็อปในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟุตบอลโลก 1982 อันลือลั่น ผู้เล่นของ บราซิล ส่วนมากก็มาจาก มิเนโร แต่จนแล้วจนรอดสมัยที่สองก็ยังไม่มาเสียที
ตัดภาพมาที่ แอตเลติโก ปี 2021 เกมล่าสุดพวกเขาออกไปเยือน บาเฮีย ซึ่งกำลังต่อสู้อย่างหนักไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้น โดยช่วงต้นครึ่งหลัง แอตเลติโก กลับต้องมาตามหลังถึงสองประตูเข้าไปแล่ว ก่อนที่ในช่วงเวลาเพียงห้านาที ฮัลค์ จะมาสังการจุดโทษและก็เป็น เคโน ที่ยิงรัวอีกสองเม็ดพลิกแซงไปแบบเหนือชั้น
มันช่างเป็นการคว้าแชมป์ลีกที่สวยงามทีเดียว แต่มันคงจะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีเขา กองหน้าวัยเก๋าที่ย้ายหกลับมาเล่นในประเทศบ้านเกิดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กองหน้าที่ฝากผลงานไว้ที่ 19 ประตูกับ 7 แอสซิสต์จากการลงเล่นเพียง 35 เกม
ฮัลค์ ลงเล่นฟุตบอลระดับสูงครั้งแรกกับ วิตอเรีย ในปี 2004 แต่ได้เพียงแค่ไม่กี่เกม เขาก็ย้ายไปเล่นใน ญี่ปุ่น แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาออกเดินทางไปสร้างชื่อใน โปรตุเกส และ รัสเซีย ก่อนจะไปโกยเงินหยวน(และถล่มประตู)ที่ จีน เมื่อปี 2016
เป็นเวลาหลายปีที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูโดยชาว บราซิล และหนล่าสุดตอนที่ถูกเรียกติดทีมชาติพร้อมกับได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองกับ เปรู
เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดในลีก บราซิล และครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาทำประตูได้ในเกมที่สำคัญๆตลอดเส้นทางไปสู่แชมป์ ปีที่แล้ว แอตเลติโก เป็นผู้ท้าชิงแชมป์เช่นเดียวกัน แต่ก็ล้มเหลวเพราะมันชัดเจนว่า ฮอร์เก้ ซามเปาลี กุนซือชาว อาร์เจนไตน์ ขาดตัวผลิตสกอร์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในหนนี้กับ คูคา ผู้จัดการทีมคนล่าสุด
เดิมที ฮัลค์ มักจะประจำการที่ตำแหน่งตัวรุกฝั่งขวาและตัดเข้ามายิงด้วยเท้าซ้ายที่รุนแรง แต่กับ มิเนโร เขาถูกโยกขึ้นไปเล่นหน้าเป้าและถอยลงมาต่ำตอนที่ ดิเอโก้ คอสต้า อดีตกองหน้าของ เชลซี ย้ายมา
อีกหนึ่งแข้งคนสำคัญคือ นาโช เฟอร์นันเดซ เพลย์เมกเกอร์ชาว อาร์เจนตินา ซึ่งเซ็นสัญญาย้ายมาจาก ริเวอร์เพลท การประสานงานกันของเขาและ ฮัลค์ ผนวกกับ มาไธอัส ซาราโช กองกลางอีกรายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของพวกเขา
และแม้จะไร้พ่ายในรายการ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส แต่ทีมของ ฮัลค์ ก็ต้องมาตกรอบรองด้วยน้ำมือของ พัลไมรัส ที่กลายมาเป็นแชมป์ในรายการนี้ด้วยกฎประตูทีมเยือน
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้ มิเนโร ประกาศศักดาขึ้นไปเทียบชั้นกับ พัลไมรัส และ ฟลาเมงโก ในฐานะทีมหัวแถวของประเทศที่ห่างชั้นกับทีมที่เหลืออยู่มากโข
อย่างไรก็ดี ได้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการลงทุนมหาศาลของ มิเนโร และความยั่งยืนของมันอยู่บ้าง เพราะมีแฟนๆจำนวนไม่น้อยหวั่นใจว่าทีมรักของตนและความมุ่งมั่นสำหรับอนาคตที่เกินตัวอาจจะลงเอยคล้ายกับ ครูเซโร ทีมที่คว้าแชมป์ลีกในปี 2013 และ 2014 บอลถ้วยในปี 2017 และ 2018 แต่ปัจจุบันทีมแตกจนต้องร่วงลงไปเล่นในลีกรองและรั้งอยู่อันดับ 14 จนเกือบจะถูกลืมไปแล้ว
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด