[FEATURE] วัดกันไปเลย ! ย้อนดู เอซี มิลาน ชุดคว้า สคูเด็ตโต้ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว VS ปัจจุบัน
ครั้งสุดท้ายที่ เอซี มิลาน ได้แชมป์ลีก อิตาลี คือเมื่อปี 2010 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีเพียง ยูเวนตุส ทีมเดียวเท่านั้นที่ผูกขาดการได้ชูถ้วย สคูเด็ตโต้ ในทุกๆซีซั่น แต่ในฤดูกาลนี้ประวัติศาสตร์อาจจะกลับมาซ้ำรอยอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะ ปีศาจแดง-ดำ ภายใต้การคุมทัพโดย สเตฟาโน ปิโอลี กำลังนำเป็นจ่าฝูงอยู่ โดยที่ยังไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่เกมเดียว
เรามาย้อนดูผู้เล่นตัวจริงของพวกเขาเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับในตอนนี้กัน โดยจะขอเลือกเฉพาะผู้เล่นตำแหน่งละคนที่ได้รับโอกาสลงสนามมากที่สุดเป็น 11 ตัวจริง
AC MILAN 2010/11
1. ผู้รักษาประตู : คริสเตียน อับเบียติ
ประจวบเหมาะกับการที่ ดิด้า อำลาทีมไปทำให้ อับเบียติ ได้โอกาสก้าวมาเป็นมือ 1 และเขาก็แสดงในเห็นถึงความสามารถที่มีอยู่ทั้งในแง่ของการสั่งการกองหลังและการออกมาตัดลูกโด่งที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้ต้นสังกัดของเขาสามารถเก็บคลีนชีทไปได้มากถึง 18 นัด
2. แบ็คขวา : อิกนาซิโอ อบาเต้
อบาเต้ อาจจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นในการเล่นเกมรุกเพราะสามารถทำแอสสิสต์ไปได้เพียงหนเดียวตลอด 29 เกม แต่เกมรับที่เป็นจุดแข็งของเขาก็สามารถทำให้แนวรุกฝั่งซ้ายของทีมคู่แข่งเล่นได้อย่างยากลำบากเสมอ
3. เซ็นเตอร์แบ็ค : ติอาโก้ ซิลวา
ถูกยกให้เป็นหนึ่งในปราการหลังที่เก่งที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น (และอาจจะในตอนนี้ด้วย) ซิลวา โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นตลอด 33 เกม ที่ได้ลงเล่นในลีก ก่อนที่จะถูก เปแอสเช หอบเงินมาสู่ขอไปช่วยขันแนวรับด้วยเงินเกือบ 40 ล้านปอนด์ในอีก 2 ปีต่อมา
4. เซ็นเตอร์แบ็ค : อเลสซานโดร เนสต้า
อาจจะไม่ใช่ปีที่ดีที่สุดของปราการหลังวัยเก๋ารายนี้เพราะเขาต้องพบกับอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง แต่รวมแล้วก็สามารถลงสนามช่วยทีมได้มากถึง 26 เกม ก่อนที่จะย้ายออกไป เมเจอร์ลีกที่สหรัฐอเมริกาแทน
5. แบ็คซ้าย : จานลูก้า ซามบร็อตต้า
ซามบร็อตต้า กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงได้จาก ลูก้า อันโตนินี ได้ทันทีที่หายเจ็บกลับมา พร้อมเป็นตัวหลักช่วยทีมให้มีเกมรับที่เหนียวแน่นและเกมรุกที่ดุดันมากขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงท้ายฤดูกาล
6. กองกลาง อันเดรีย ปีร์โล
ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลสุดท้ายของ ปีร์โล กับ เอซี มิลาน โดยต้นสังกัดของเขาเลือกที่จะไม่มอบสัญญาฉบับใหม่ให้เพราะคิดว่ากองกลางชาว อิตาเลียน อายุมากเกินไปแล้วแต่หารู้ไม่ว่า ปีร์โล ถูกทาบทามไปยัง ยูเวนตุส พร้อมแสดงให้ มิลาน เห็นว่าเขายังเล่นในฟุตบอลระดับสูงได้อีกอย่างน้อย 5 ปี และสามารถคว้าแชมป์ลีกได้กับต้นสังกัดมาทุกปีอีกด้วยเช่นกัน
7. กองกลาง : เจนนาโร กัตตูโซ
กองกลางฮาร์ดแมนทำไปได้ 2 ประตู ในฤดูกาลดังกล่าว โดยบทบาทของเขาคือการคอยปัดกวาดหน้าแผงหลังและควบพาบอลขึ้นหน้าเป็นบางโอกาส เขาอยู่ต่อกับทีมไปอีกปีก่อนจะย้ายไปเล่นต่อในลีกสวิตเซอร์แลนด์
8. กองกลาง : คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ
กองกลางเชิงสูงตัดสินใจอำลาทีมไปพร้อมกับสตาร์รายอื่นในปี 2012 และได้โอกาสกลับมาคุมต้นสังกัดเก่าของตัวเองด้วยในซีซั่น 2013/14 แต่ผลงานก็ไม่สู้ดีนักจนต้องแยกทางกันเมื่อหมดสัญญา 12 เดือน
9. เพลย์เมคเกอร์ : เควิน พรินซ์ บัวเต็ง
หลายๆคนอาจจะนึกถึงชื่อของ โรนัลดินโญ ก่อน แต่ความจริงแล้วคนที่เป็นแกนหลักในการปั้นเกมให้ มิลาน ในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้ตัวจริงคือ เควิน พรินซ์ ที่ทำไป 4 ประตู กับอีก 2 แอสสิสต์ ก่อนที่จะกลายมาเป็นนักเตะจอมพเนจรแบบทุกวันนี้
10. กองหน้า : ปาโต้
ด้วยวัยเพียง 21 ปี ปาโต้ แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวหลักถล่มตาข่ายเป็นว่าเล่น เอาแค่เฉพาะในลีกก็ปาเข้าไป 14 ลูกแล้ว แต่ท้ายที่สุดอาการบาดเจ็บก็ได้ฉุดรั้งเขาเอาไว้ไม่ให้เติมเต็มประสิทธิภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่
11. กองหน้า : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ดาวเตะชาว สวีเดน ซัลโวไป 14 ประตูเท่ากับ ปาโต้ และเป็นกำลังหลักในแนวรุกอย่างแท้จริงเพราะเขามีความสามารถในการควบคุมบอลได้ดีเยี่ยมการยิงที่คมกริบอย่างน่าเหลือเชื่อ
AC MILAN 2020/21
12. ผู้รักษาประตู : จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา
มันน่าเหลือเชื่อมากที่ นายประตูวัย 21 ปีคนนี้เฝ้าเสาให้กับต้นสังกัดมาถึง 6 ปีแล้ว และในปีนี้เขาก็เก็บคลีนชีทได้มากถึง 4 เกม จาก 9 นัด ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับต้นๆของลีกเลย
13. แบ็คขวา : ดาวิเด้ คาลาเบรีย
ฟูลแบ็คขวาวัย 24 ปี สามารถควาญหาฟอร์มของตัวเองมาได้เสียทีหลังออกทะเลไปอยู่เกือบ 2 ซีซั่น เขาโดดเด่นทั้งในเรื่องเกมรับและเกมรุก แต่อาจจะต้องพัฒนาเรื่องการจ่ายลูกได้เสียให้ดีขึ้นอีกนิด
14. เซ็นเตอร์แบ็ค : ไซมอน เคียร์
ปราการหลังวัย 31 ปี มีจุดแข็งที่การเข้าปะทะและการเข้าดักซ้อนผู้เล่นแนวรุกคู่แข่งที่หลุดการประกบมาได้
15. เซ็นเตอร์แบ็ค : อเลสซิโอ โรมันญอลี่
ต่างจาก เคียร์ โรมันญอลี โดดเด่นมากในการดวลลูกกลางอากาศกับคู่แข่งโดยมีค่าเฉลี่ยในการเอาชนะถึงเกมละ 4 หน นอกจากนี้เขายังเป็นกองหลังที่จ่ายบอลขึ้นหน้าได้ดีไม่แพ้กองกลางเลยด้วย
16. แบ็คซ้าย : เตโอ แอร์นานเดซ
อดีตแบ็คชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด เสมือนได้แจ้งเกิดอีกครั้งภายใต้สีเสื้อ ปีศาจแดง-ดำ นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อฤดูกาลก่อน โดยในซีซั่นนี้เขายังคงรักษาความดุดันในการเติมเกมบุกไว้ได้ดีดังเดิมด้วยการทำไป 1 ประตู กับ อีก 2 แอสสิสต์
17. กองกลาง : ฟรองค์ เคสซี
หนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ที่สุดของทีมในซีซั่นนี้ เคสซี ทำไปแล้ว 4 ประตู กับ 2 แอสสิสต์ จากการลงสนามเพียง 9 เกมเท่านั้น และแว่วๆกันว่าเจ้าตัวกำลังได้รับความสนใจจากทั้ง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ อาร์เซนอล เลย
18. กองกลาง : อิสมาเอล เบนนาเซอร์
กองกลางผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง เบนนาเซอร์ ทั้งปัดกวาด ทั้งไล่แย่งบอล แถมยังมีการพาบอลขึ้นมาสร้างโอกาสในเกมรุกให้ทีมอยู่ให้เห็นเป็นประจำ
19. ฮาคาน คัลฮาโนกลู
เพลย์เมคเกอร์ผู้เคยถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อลูกนิ่ง ในซีซั่นนี้เจ้าตัวมีจำนวนครั้งในการสร้างโอกาสมากเป็นอันดับ 2 ของลีก
20. ปีกขวา : ราฟาเอล ลีเยา
ตัวรุกชาวโปรตุเกสทำไปแล้ว 2 ประตู กับ 3 แอสสิสต์จาก 5 เกมหลังสุดเบียด อันเต เรบิช ไปนั่งรอโอกาสที่ม้านั่งสำรองได้อย่างเหนือความคาดหมายเลย
21. ปีกขวา : อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส
แม้จะถูกแซวว่าเป็น บอรินี เบลเยียม เพราะการมีส่วนร่วมกับประตูน้อย แต่ต้องไม่ลืมว่าจุดเด่นของเขายังเป็นการเลี้ยงกินตัวและดึงตัวประกบที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายจนเสมือนกับว่ามีส่วนร่วมทางอ้อมกับประตูเลยก็ว่าได้
22. กองหน้า : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ไม่ใช่...เราไม่ได้เผลอพิมพ์ชื่อเขาซ้ำ แต่ อิบราฮิโมวิช ในวัย 38 ย่าง 39 กลับมาระเบิดฟอร์มอีกครั้งพร้อมประกาศกร้าวเดินหน้าเต็มกำลังพา ปีศาจแดง-ดำ กลับไปบนหนทางของการลุ้นแชมป์หนแรกในรอบ 10 ปีอย่างเต็มตัว โดยตอนนี้เขาเป็นถึงดาวซัลโวของลีกอีกด้วย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด