รู้จักกับ จอห์น เมอร์ทัฟ ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอล ของ แมนยู

The Manchester United Club Crest
The Manchester United Club Crest / Visionhaus/Getty Images
facebooktwitterreddit

หลังจากการคาดเดาไปต่างๆนาๆมาหลายปี ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แต่งตั้งผู้อำนวยการฟุตบอลคนแรกของพวกเขา จอห์น เมอร์ทัฟ

สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของ ยูไนเต็ด ชื่อนี้คงจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับพวกเราที่เหลือ นี่คือทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับชายคนนี้ที่รับผิดชอบการดำเนินงานและกลยุทธ์ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด

หน้าที่ของเขาคืออะไร

ตามคำแถลงของสโมสรอย่างเป็นทางการของ เมอร์ทัฟ จะ "เป็นหัวเรือใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบโดยรวมสำหรับการดำเนินงานด้านกลยุทธ์ทั้งหมดเพื่อเสริมสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่แล้ว"

เขาจะมีส่วนร่วมอย่างมากในการสรรหาผู้เล่นสำหรับทีมชาย, หญิงและเยาวชนในขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เล่นปัจจุบันของสโมสรสามารถเข้าถึงโครงสร้างที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยในการพัฒนาการของพวกเขา

ไม่ใช่หน้าใหม่

เมอร์ทัฟ ทำงานอยู่ที่ ยูไนเต็ด แล้วในฐานะ "หัวหน้าฝ่ายพัฒนาฟุตบอล" ตั้งแต่ปี 2013 โดยก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมงานกับ เดวิด มอยส์ ที่ เอฟเวอร์ตัน

เขามีบทบาทสำคัญในส่วนของการพัฒนาเยาวชนที่ เมอร์ซีย์ไซด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตาร์อย่าง เวย์น รูนีย์ ที่ย้ายมายัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเวลาต่อมา และ รอสส์ บาร์คลีย์ แข้งคนสำคัญของ แอสตัน วิลลา

งานล่าสุดของเขามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาข้อมูลเชิงสถิติซึ่งพิจารณาทุกอย่างตั้งแต่การแพทย์, การจัดหาทรัพยากรบุคคลและการวิธีในการออกแบบการฝึกสอน

ผลงานก่อนหน้านี้

Hannibal Mejbri
Morecambe v Manchester United U21 - EFL Trophy / Gareth Copley/Getty Images

ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา เมอร์ทัฟ มีบทบาทในการนำเข้าผู้เล่นคนใหม่มาสู่ทีมอยู่หลายต่อหลายดีล

ว่ากันว่าเขาได้พบกับ อเล็กซิส ซานเชซ ที่สนามบิน แมนเชสเตอร์ ในคืนที่สโมสรปิดดีลพาแข้งชาว ชิลี ออกมาจาก อาร์เซนอล ได้สำเร็จ นอกจากนี้เขายังเป็นคนพา ดาลีย์ บลินด์ และ มาร์กอส โรโฮ ไปเข้ารับการตรวจร่างกายก่อนจะย้ายมาเป็นผู้เล่นของ ปีศาจแดง อย่างเต็มตัวด้วย

เขายังเป็นคนเสนอชื่อ ฮันนิบาล เมจบรี ที่ในตอนนั้นอายุ 16 ปี ให้กับ ยูไนเต็ด ตอนที่ทีมไปเตะกระชับมิตรปรีซีซั่นที่ ออสโลว์


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด