สรุปผลฟุตบอล ยูโร 2020 วันนี้: สวีเดน ซัดทดเจ็บ, กระทิงดุสมชื่อ, ฝรั่งเศส-เยอรมนี-โปรตุเกส มาตามนัด

EURO 2020: Portugal vs France
EURO 2020: Portugal vs France / Anadolu Agency/Getty Images
facebooktwitterreddit

ศึก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2020) คืนวันพุธที่ 24 มิถุนายน เกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อุตส่าห์ยิงเบิ้ลตามตีเสมอ สวีเดน ได้สำเร็จ ก่อนที่จะมาโดนแข้งสำรองซัดช่วงนาทีสุดท้ายของทดเวลาเจ็บดับฝันเอาดื้อๆ จบเกมกันไปด้วยสกอร์ 3-2

ส่วน สเปน ที่เงียบๆมาในสองเกมแรก ขอระบายความอัดอั้นทุบ สโลวาเกีย เละเทะ 5 ประตู ตามไปติดๆในตำแหน่งรองต่าฝูง

ปิดท้ายด้วยกลุ่มสุดท้าย กรุ๊ปออฟเดธ ลงเอยด้วยผลเสมอ 2-2 ทั้งเกมระหว่าง โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส และ เยอรมนี พบ ฮังการี

ทำให้ ฝรั่งเศส (1), เยอรมนี (2) และ โปรตุเกส (3) ควงแขนกันเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทิ้ง ฮังการี (4) รั้งบ๊วย


สวีเดน 3-2 โปแลนด์

ฟอร์สเบิร์ก 2'
ฟอร์สเบิร์ก 59'
เลวานดอฟสกี้ 61'
เลวานดอฟสกี้ 84'
คลาสเซน 90+4'

Viktor Claesson, Wojciech Szczesny
Sweden v Poland - UEFA Euro 2020: Group E / Maxim Shemetov - Pool/Getty Images

สวีเดน ขอเพียงแต้มเดียวในเกมนี้เพื่อการันตีการเข้ารอบ และประตูแรกของพวกเขาก็มาตั้งแต่ในนาทีที่ 2 จาก เอมิล ฟอร์สเบิร์ก

โปแลนด์ มีโอกาสเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็กลายเป็น เบิร์ก คนเดิมที่ซัดอีกประตู ทิ้งห่างคู่แข่งไปสองลูก

โปแลนด์ ไม่ถอดใจตามมาติดๆจากลูกยิงปั่นโค้งที่งดงามหมดจดในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา แล้วหลังจากที่โมเมนตั้มเริ่มเทไปทางฝั่งทีมบ๊วยของกลุ่มอย่างเห็นได้ชัด เลวานดอฟสกี้ คนเดิมก็มาบวกเพิ่มอีกประตูพร้อมกับตีเสมอ สวีเดน จนได้ในช่วงท้ายเกม 2-2

อย่างไรก็ดีจากจังหวะบุกเพลินๆ วิคเตอร์ คลาสเซน ตัวสำรองก็มายิงตอกฝาโลงดับฝันที่จะเข้ารอบของพวกเขาเอาดื้อๆในช่วงนาทีสุดท้ายของเกม


สโลวาเกีย 0-5 สเปน

ดูบราฟก้า (เข้าประตูตัวเอง) 30'
ลาปอร์ต 45+3'
ซาราเบีย 56'
ตอร์เรส 67'
คุทส์ก้า (เข้าประตูตัวเอง) 71'

Thiago Alcantara, Pau Torres
Slovakia v Spain - UEFA Euro 2020: Group E / Jose Manuel Vidal - Pool/Getty Images

สเปน ออกสตาร์ทไม่ค่อยดีหลังจากที่ อัลบาโร โมราต้า ยิงจุดโทษไปติดเซฟของ ดูบราฟก้า แต่แล้วก็เป็นนายประตูของ นิวคาสเซิล คนเดิมที่ปัดบอลพลาดจากลูกยิงไกลของ ซาราเบีย เข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 30

ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก ลาปอร์ต มาโขกบวกอีกหนึ่งประตูเป็น 2-0

นาทีที่ 56 อัลบา แบ็คของ บาร์เซโลนา เลี้ยงตะลุยขึ้นมาก่อนจะตบเข้ากลางถึง ซาราเบีย ได้ยิงจ่อๆทิ้งห่าง สโลวาเกีย เป็น 3-0

ดูจะไม่จบเอาง่ายๆ เพราะขนาด เฟร์ราน ตอร์เรส ที่เพิ่งลงมา การสัมผัสบอลแรกของเขายังเป็นการบวกประตูอีกเม็ดจากการแอสซิตส์ของ ซาราเบีย

ปิดท้ายด้วยการทำเข้าประตูตัวเองลูกที่สองในเกมนี้จาก จูราจ คุทส์ก้า ที่เคลียร์ลูกโหม่งของ เปา ตอร์เรส ไปซุกก้นตาข่าวฝั่งตัวเองเสียอย่างนั้น


โปรตุเกส 2-2 ฝรั่งเศส

คริสเตียโน โรนัลโด้ (จุดโทษ) 31'
คาริม เบนเซมา (จุดโทษ) 45+2'
คาริม เบนเซมา 47'
คริสเตียโน โรนัลโด้ (จุดโทษ) 60'

Cristiano Ronaldo
Portugal v France - UEFA Euro 2020: Group F / Tibor Illyes - Pool/Getty Images

ฝรั่งเศส ควงแขน โปรตุเกส ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ยูโร 2020 จากผลเสมอ 2-2 ที่ ปุสกัส อารีนา กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

เกมออกสตาร์ทด้วยการได้ลูกจุดโทษของ โปรตุเกส เมื่อ ดานิโล ถูก อูโก้ ยอริส ชกเข้าที่หน้าจากจังหวะออกมาตัดบอล ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกจุดโทษทันทีโดย คริสเตียโน โรนัลโด้ สังหารไม่พลาด

ฝรั่งเศส ตามตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกเมื่อ คิลิยัน เอ็มบับเป้ ถูก เนลสัน เซเมโด้ ชนล้มลงในกรอบเขตโทษ เชิ้ตดำไม่ลังเลที่จะให้จุดโทษกับทัพ ตราไก่ โดย คาริม เบนเซมา รับหน้าที่สังหารลอลไปซึกที่ก้นตาข่าย

ครึ่งหลัง เลส์ เบลอส์ กลับมาออกสตาร์ทด้วยการแซงนำเป็น 2-1 ตั้งแต่นาทีที่ 47 เมื่อ ปอล ป็อกบา แทงคิลเลอร์พาสให้ คาริม เบนเซมา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า รุย ปาทริซิโอ เหน่งๆ ก่อนที่ โรนัลโด้ จะเป็นคนเรียกจุดโทษให้กับ โปรตุเกส อีกครั้งเมื่อครอสบอลที่สุดเส้นหลังไปติดแขนของ ฌูล คุนเด้ และเป็นสตาร์จาก ยูเวนตุส ที่ยิงให้ ยอริส เป็นประตูตีเสมอ 2-2 ก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว


เยอรมนี 2-2 ฮังการี

อดัม ซาลาย 11'
ไค ฮาแวร์ตซ์ 66'
อันดราส ชาเฟอร์ 68'
ลีออน โกเร็ทซ์ก้า 84'

TOPSHOT-FBL-EURO-2020-2021-MATCH36-GER-HUN
TOPSHOT-FBL-EURO-2020-2021-MATCH36-GER-HUN / CHRISTOF STACHE/Getty Images

พลพรรค อินทรีเหล็ก หวิดดับเมื่อต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง ฮังการี ถึง 2 ครั้งจวนเจียนตกรอบก่อนที่ประตูในซูเปอร์ซับ ลีออน โกเร็ทซ์ก้า ในช่วงท้ายเกมจะพาพวกขาฉลุยรอบ 16 ทีมสุดท้าย

อดัม ซาลาย พังประตูให้ ฮังการี ขึ้นนำอย่างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่นาทีที่ 11 ก่อนที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะสามารถตามตีเสมอได้หลังผ่านราวครึ่งทางของครึ่งหลัง

อันดราส ชาเฟอร์ สังหารให้กับ ฮังการี ขึ้นนำอีกครั้งหลังจากที่สตาร์สังกัด เชลซี พังประตูตีเสมอได้ไม่กี่อึดใจก่อน โกเร็ทซ์ก้า จะยิงดับฝันตามตีเสมอ 2-2 ก่อนหมดเวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้น


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด