ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ VS จามาล มูเซียลา - 2 แข้งเลือดใหม่สัญชาติ เยอรมัน กับความเหมือนที่แตกต่าง - FEATURE
การมีอยู่ของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ จามาล มูเซียลา ทำให้ เยอรมนี มีผู้เล่นอายุน้อยที่มากพรสวรรค์ที่สุดถึงสองคน แถมพวกเขายังบังเอิญจะต้องมาเจอกันตัวต่อตัวใน บุนเดสลีกา นัดที่ 8 เมื่อ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูงของลีกอีกด้วย
แต่พวกเขาทั้งคู่นั้นมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร แล้วมันเร็วเกินไปหรือไม่ที่จะถามว่า - เหนือกว่ากัน?
สถานะความเป็นวันเดอร์คิด
เวิร์ตซ์ ลงเดบิวต์ใน บุนเดสลีกา ในเกมที่ทีมของเขาเอาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 4-1 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 แทนที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ซึ่งทำประตูได้ 2 ประตูในวันนั้น พร้อมสร้างสถิติการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของเลเวอร์คูเซน เด้วยวัยเพียง 17 ปี 16 วัน และไม่ถึงสองสัปดาห์ต่อมา เขาก็ทำประตูแรกในลีกได้ แม้จะพ่ายต่อ มิวนิค แต่การส่งบอลเข้าไปผ่านตาข่ายที่มี มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าอยู่ก็น่าประทับใจไม่น้อยเลย
แม้ในภายหลัง ยุสซุฟ มูโกโก ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะทำลายสถิติของเขาในการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ แต่ตอนนี้ เวิร์ตซ์ ก็ทำลายอีกสถิติด้วยการเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูถึง 10 ลูกใน บุนเดสลีกา ซึ่งเขาทำได้เร็วกว่า ลูคัส โพโดลสกี อดีตซูเปอร์สตาร์ทีมชาติ เยอรมนี เข้าของสถิติเก่าถึง 208 วัน
ถึงทีของ มูเซียลา บ้าง - ดาวรุ่งจากสังกัด เสือใต้รายนี้อายุมากกว่า เวิร์ตซ์ ประมาณสองเดือน และการเดบิวต์กับ บาเยิร์น ของเขาเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2020 หลังถูกส่งลงมาแทน โธมัส มุลเลอร์ ในการเอาชนะไฟร์บวร์ก 3-1 ซึ่งในขณะนั้นเจ้าตัวมีอายุเพียง 17 ปี 3 เดือน 26 วัน ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับ บาเยิร์น ไปโดยปริยาย
ประตูแรกของเขาใน บุนเดสลีกา มาในเกมนัดเปิดฤดูกาลที่แล้ว กับชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือ ชาลเก้ 8-0 ก่อนที่เขาจะได้มายิงประตูแรกของตัวเองใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ลาซิโอ ในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดของทีมตัวเองในทั้งสองการแข่งขัน พร้อมกับสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุ 18 ปี คนแรกที่ยิงได้ 5 ประตูของ มิวนิค
ตำแหน่งที่ลงเล่น
ขณะที่ทั้งคู่เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกเหมือนๆกัน แต่ เวิร์ตซ์ ได้ปรับบทบาทมาเป็นมิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นเพียงฤดูกาลที่สองของเขาใน บุนเดสลีกา เท่านั้น โดยในซีซั่นที่แล้ว เวิร์ตซ์ มักจะประจำการอยู่ที่ริมเส้นฝั่งขวาเสียมากกว่า แต่ในฤดูกาลนี้เขาเป็นศูนย์กลางสโมสรที่รับหน้าที่คอยแจกจ่ายบอลไปให้กับ มุสซา เดียบี, คาริม เบลาราบี และ เปาลินโญ สามผู้เล่นที่อยู่รอบตัวของเขา
“เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม แตกต่างจาก ฮาเวิร์ตซ์ อย่างแน่นอน แต่เขาเล่นได้ดีกับ เลเวอร์คูเซน” อดีตกองกลางทีมชาติเยอรมนี ดิดี้ ฮามันน์ กล่าว “สิ่งเดียวที่เขาขาดคือความเร็ว แต่ผมคิดว่าเขาชดเชยด้วยทักษะและการยืนตำแหน่งของเขา คุณจะเห็นว่าเขาเป็นผู้นำในทีมนี้ ผมคิดว่าไม่เคยเห็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีกว่านี้ในวัยของเขามาหลายสิบปีแล้ว”
ด้วยความที่ มุลเลอร์, คิมมิช และโกเร็ตซก้า ครองตำแหน่งแดนกลางที่ บาเยิร์น อย่างเหนียวแน่น - มูเซียลา จึงต้องประจำการที่ม้านั่งสำรองเสียส่วนใหญ่และเมื่อได้รับโอกาสก็มักจะถูกส่งลงมาในตำแหน่งริมเส้นเช่นเดียวกัน โดยเขาได้ลงเล่นไปเพียง 193 นาทีในฤดูกาลนี้ และการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียงครั้งเดียวของเขาคือในเกมที่เอาชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 5-0 ในนัดที่ 3 ซึ่งเขาทำประตูได้อีกต่างหาก
ฟอร์มการเล่น
การเปลี่ยนบทบาทมาอยู่ที่ตรงกลางสนาม ทำให้ เวิร์ตซ์ มีส่วนร่วมกับประตูมากขึ้น ฤดูกาลนี้เขามีส่วนร่วมโดยตรงกับอย่างน้อยหนึ่งประตูในทุกเกมที่เขาเล่น - 5 แอสซิสต์ของเขาติดท็อปใน บุนเดสลีกา และเขายังทำไปแล้วอีก 4 ประตู – บวกอีก 2 ลูกใน ยุโรป ค่าฌแลี่ยของ เวิร์ตซ์ คือการทำประตูหรือแอสซิสต์ทุกๆ 41 นาที และนั่นเท่ากับ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าของ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลนี้เลย
มูเซียลา อาจได้รับเวลาน้อยลงเพียงน้อยนิด แต่เขาก็ใช้โกาสที่ได้รับมาอย่างคุ้มค่าเสมอ อดีตนักเตะ เชลซีรายนี้เป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์คนเดียวที่อยู่ในทีม บาเยิร์น ทุกนัด (ส่วนมากบนม้านั่ง) ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2020 และ 2 ประตูของเขากับอีก 2 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ เฉลี่ยแล้วเกิดขึ้นทุกๆ 47 นาทีที่เขาลงเล่น ซึ่งแม้แต่ผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ยังมีค่าเฉลี่ยที่ 72 นาทีเลย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุ