อลัน เชียร์เรอร์: ตามรอย 1 ในท็อป 20 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล พรีเมียร์ลีก

Newcastle United v Sunderland Premier League 1997
Newcastle United v Sunderland Premier League 1997 / Stu Forster/GettyImages
facebooktwitterreddit

อลัน เชียร์เรอร์ ยอดกองหน้าสไตล์ อังกฤษ ขนานแท้และดาวซัลโวตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ที่ยากจะหาใครเทียบ

เขาฝากผลงานไว้ที่ 260 ประตู มากกว่า เวย์น รูนีย์ อันดับสองถึง 65 ลูก และยังคงเป็นคนเดียวที่ทำได้ 100 ประตูให้กับสองสโมสรที่แตกต่างกัน

นี่คือเรื่องราว เส้นทาง และความเป็นมาของหัวหอกระดับตำนานผู้นี้


ก้าวแรกสู่ความยิ่งใหญ่

Alan Shearer
Alan Shearer Southampton 1988 / Getty Images/GettyImages

แม้จะเกิดใน นิวคาสเซิล แต่ เชียร์เรอร์ ก็ถูก แจ็ค ฮิ๊กซอน แมวมองของ เซาแธมป์ตัน ทาบทามไปร่วมทีมตั้งแต่ยังเยาว์วัยและใช้เวลาฤดูร้อน ปี 1986 ไปกับการฝึกซ้อมร่วมกับแข้งเยาวชนของ นักบุญ

และแม้จะโชว์ฟอร์มได้เตะตาทุกสโมสรที่เขาไปร่วมทดสอบฝีเท้าด้วย แต่ท้ายที่สุดเขาก็เลือก เซาแธมป์ตัน สโมสรแรกที่ให้โอกาสเขาได้สัมผัสกับฟุตบอลระดับสูง

ตอนอายุ 17 เชียร์เรอร์ ทำแฮตทริกได้ในการประเดิมสนามอย่างเต็มรูปแบบใส่ อาร์เซนอล พร้อมทั้งกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำได้ในระดับสูงสุดของ อังกฤษ ไปโดยปริยาย

เป็นเมื่ออายุเพียง 21 ปี ที่ เชียร์เรอร์ ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากการทำไป 13 ประตูในลีกและ 21 ประตูในทุกรายการ จนทำให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อดรนทนไม่ไหวต้องเบิกเงินมา 3.6 ล้านปอนด์เพื่อเซ็นสัญญากับเขาในช่วงฤดูร้อนปี 1992

หยุดไม่อยู่แล้ว

PREMIER LEAGUE
PREMIER LEAGUE / Michael Cooper/GettyImages

แม้จะถูกทาบทามโดยทีมน้อยใหญ่ทั่วทั้งเกาะ อังกฤษ แต่เจ้าตัวก็เลือก แบล็คเบิร์น ที่เป็นสโมสรแรกที่แสดงออกถึงความปรารถนาในการที่จะได้ตัวเขามาผลิตสกอร์ให้

การย้ายทีมครั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่ได้กันทั้งสองฝ่าย เชียเรอร์ ฉายแววออกมาอย่างเต็มที่ภายใต้การทำทีมของ เคนนี่ ดัลกลิช และแผนการเล่นแบบ 4-4-2 อันแสนคลาสสิคที่ผนวกรวมการครอสบอลที่แม่นยำของตัวริมเส้นเข้ากับการจบสกอร์ที่ยากจะหาใครเทียมในกรอบ 18 หลาของชายหนุ่มคนนี้

เชียร์เรอร์ บาดเจ็บครั้งใหญ่จนต้องร้างสนามไปนานกว่า 9 เดือน และเมื่อกลับมาเขาก็ปิดปากนัดวิจารณ์ทุกคนที่คิดว่าเขาจะไม่สามารถคืนฟอร์มด้วยการยิงไปถึง 31 ลูกในฤดูกาลดังกล่าว ก่อนจะพา เดอะ โรเวอร์ส คว้าแชมป์ลีกมาได้ในปีถัดมา

ทว่าหลังจากนั้นต้นสังกัดของเขากลับระส่ำ โดยนอกจากจะไม่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์เอาไว้ได้แล้ว ผลงานในลีกก็ยังไม่สู้ดีนักอีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือฟอร์มการถล่มตาข่ายของ เชียร์เรอร์

โฮม สวีท โฮม

Alan Shearer of Newcastle scores past Carlo Nash
Alan Shearer of Newcastle scores past Carlo Nash / Laurence Griffiths/GettyImages

หลังโชว์ฟอร์มอันดุดันได้ใน ยูโร 96 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยื่นข้อเสนอเข้ามาอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่รีรอเมื่อทราบว่าโอกาสจะได้ค้าแข้งในถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สโมสรอันเป็นที่รักมาจ่ออยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

เชียร์เรอร์ คว้ารางวัลดาวซัลโวและผู้เล่นแห่งปีได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะคว้าแชมป์ลีกมาให้กับ นิวคาสเซิล และ เควิน คีแกน หนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

เชียร์เรอร์ ไม่สามารคว้าแชมป์ใดๆได้กับ นิวคาสเซิล แถมยังแพ้ในรอบชิง เอฟเอ คัพ ถึงสองสมัย กระนั้นเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เคยเสียใจแม้แต่น้อยที่ปฏิเสธโอกาสในการได้ไปอยู่ในทีมยุครุ่งเรืองที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา

Alan Shearer
Newcastle United v Tottenham Hotspur / Matthew Lewis/GettyImages

เชียเรอร์ เดินหน้าทำสิ่งที่เขาถนัดต่อไปโดยไม่ปริปากบ่น และแม้สโมสรจะค่อยๆออกห่างตำแหน่งแชมป์ากขึ้น แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธทุกข้อเสนอที่เข้ามา

เชียร์เรอร์ ฝากผลงานไว้ 206 ประตูจาก 405 นัดกับ เดอะ แม็กพายส์ และตัดสินใจแขวนสตั๊ดในฤดูกาล 2005/06 เพราะอาการที่หัวเข่ากำเริบขึ้นมา หลังกลับลำยกเลิกการรีไทร์มาแล้วหนหนึ่ง


เชียร์เรอร์ ไม่ใช่กองหน้าประเภทที่จะเลี้ยงหลบแนวรับของคู่แข่งเป็นว่าเล่นหรือใช้ความเร็วเผาเครื่องคนที่คิดจะเข้ามาขวางทางเขากับประตูอย่างสิ้นซาก แต่หัวหอกผู้นี้คือหนึ่งในกองหน้าที่จมูกไวและมีการตัดสินที่เด็ดขาดที่สุดคนหนึ่งของ อังกฤษ หรือหากจะบอกว่าของโลกก็คงจะไม่ผิดนัก

ด้วยประการนี้ เขาจึงสามารถยึดตำแหน่งดาวซัลโวมาครองได้อย่างเหนียวแน่นชนิดที่ว่าไม่รู้ต้องรอกันอีกนานแค่ไหนกว่าที่จะมีใครมาโค่นสถิติของเขาลงได้

จนกว่าจะถึงตอนนั้น อลัน เชียร์เรอร์ คือเบอร์ 1 ของ พรีเมียร์ลีก อย่างไม่ต้องสงสัย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด