8 เหตุการณ์จำไม่รู้ลืมของ สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ ลิเวอร์พูล - FEATURE

สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกองกลางตำนานทีม ลิเวอร์พูล เพิ่งถูกเสนอชื่อเข้าหอเกียรติยศของ พรีเมียร์ลีก ตามรอย อองรี, เชียร์เรอร์, คันโตนา, คีน, แลมพาร์ด และ เบิร์กแคมป์ ไปติดๆ
นับตั้งแต่ได้เดบิวต์กับ หงส์แดง ตอนอายุ 16 ปี เจอร์ราร์ด ลงสนามรับใช้ต้นสังกัดไปถึง 504 นัด ทำได้ 120 ประตูกับอีก 92 แอสซิสต์ พร้อมกับมีชื่อเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนถึง 6 ครั้งด้วยกัน
สำหรับความสำเร็จล่าสุดของเขาคือการพาคุมทีม เรนเจอร์ส คว้าแชมป์ลีกแรกได้สำเร็จในรอบทศวรรษแบบไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาล
เรามาย้อนดูเหตุการณ์สร้างชื่อและช่วงเวลาสุดประทับใจที่ยากจะลืมลงของตำนาน หงส์แดง คนนี้กัน
1. ทริปเปิลแชมป์บอลถ้วย
ฤดูกาล 2000/01 เจอร์ราร์ด แสดงแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวหลังช่วยทีมคว้าทริปเปิลแชมป์บอลถ้วยอย่าง ลีก คัพ, ยูฟ่า คัพ และ เอฟเอ คัพ พร้อมคว้ารางวัลส่วนตัวอีก 3 สาขา ไล่ไปตั้งแต่ ดาวรุ่งยอดเยี่ยม, นักเตะยอดเยี่ยมจากผลโหวตของแฟนบอล และ ติดทีมยอดเยี่ยมประจำปี
2. ปาฏฺิหารย์ที่ อิสตันบูล
รอบชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2005 ลิเวอร์พูล จบครึ่งแรกด้วยการถูก เอซี มิลาน นำห่างถึง 3-0 และหากเป็นในสถานการณ์อื่นๆคู่แข่งของ ปีศาจแดง-ดำ อาจจะยอมแพ้และถอดใจไปแล้ว
แต่ไม่ใช่กับทีมนี้ เพราะหลังจากที่ เจอร์ราร์ด โหม่งตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 54 วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ และ ชาบี อลอนโซ ก็ควงกันมายิงอีกคนละเม็ดจนเกมลากยาวไปถึงการดวลจุดโทษ
แต่แล้วก็เป็นตัวแทนจากแดนผู้ดีที่เฉียบคมกว่าจนสามารถคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ไปครองได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
3. เกือบย้ายไป เชลซี
แม้จะเพิ่งคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาได้หมาดๆแต่เขาก็ทำว่าอยากจะย้ายออกจาก ต้นสังกัด เพื่อไปเล่นให้กับ โจเซ มูรินโญ และเตรียมปฏิเสธข้อเสนอการต่อสัญญาจากทีมอีกด้วย
อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่า เจอร์ราร์ด เลือกที่จะเปลี่ยนใจเอาในนาทีสุดท้ายและอยู่กับสโมสรต่อจนเป็นตำนานเช่นทุกวันนี้
4. รอบชิง เอฟเอ คัพ ของ เจอร์ราร์ด
? #OnThisDay in 2006, Liverpool won the FA Cup for the 7th time after beating West Ham United 3-1 on penalties. [3-3 after extra-time].
— Anfield Watch (@AnfieldWatch) May 13, 2021
⚽ Cisse 32'
⚽ Gerrard 54'
⚽ Gerrard 90'
??? ??????? ????? ? pic.twitter.com/yY6J6btN4T
ผลงานในเกมกับ เวสต์แฮม ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล เอฟเอ คัพ ปี 2006 ทำให้นัดดังกล่าวถูกขนานนามว่าเป็น 'เกมของ เจอร์ราร์ด'
เวสต์แฮม ออกนำไปก่อน 2-0 แต่ ซิสเซ และ เจอร์ราร์ด ก็มาพังประตูคนละลูกตามตีเสมอจนได้ เกมถูกลากยาวไปถึงต่อเวลา
เวสต์แฮม ยิงประตูที่ 3 ของตัวเองได้และเกมก็กำลังจะจบลงที่ลงตรงนั้นอยู่แล้วเชียว แต่ เจอร์ราร์ด ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น...เขาสับไกจากนอกกรอบเขตโทษตามตีเสมอได้เป็น 3-3 ในนาทีสุดท้ายของเกมก่อนจะคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้ด้วยความแม่นยำในการดวลเป้า
5. แฮตทริคใส่ เอฟเวอร์ตัน
? #OnThisDay in 2012, Steven Gerrard marked his 400th Liverpool league appearance with a hattrick against Everton at Anfield.
— Anfield Watch (@AnfieldWatch) March 13, 2021
⚽ Gerrard 34'
⚽ Gerrard 51'
⚽ Gerrard 90'
The first player to score a Merseyside Derby hattrick in ?? ????? ?pic.twitter.com/AqEhqHyvNL
เจอร์ราร์ด ลงเล่นเกมที่ 400 ของเขาใน พรีเมียร์ลีก กับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นคู่อริร่วมเมือง ก่อนจะระเบิดฟอร์มยิงแฮตทริคโชว์แฟนๆที่เข้ามาชมถึง แอนฟิลด์ โดยนี่นับเป็นแฮตทริคแรกของศึก เมอร์ซีย์ ไซด์ ดาร์บี้ ในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่ที่ เอียน รัช ยิงคนเดียว 4 ประตูเมื่อปี 1982
6. บุกขยี้ แมนยู คารัง
? #OnThisDay in 2009, Liverpool beat Manchester United 4-1 at Old Trafford.
— Anfield Watch (@AnfieldWatch) March 14, 2021
⚽ Torres 28'
⚽ Gerrard 44'
⚽ Aurelio 77'
⚽ Dossena 90'
????????????? ??????????? ?pic.twitter.com/7CHQTuFoIF
14 มีนาคม 2009 จะเป็นอีกหนึ่งวันที่ เดอะ ค็อป คงลืมไม่ลงเพราะทีกรักของตัวเองสามารถบุกไปเอาชนะคู่แค้นตลอดกาลได้ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด แม้จะโดนออกนำไปก่อนจากลูกโทษของ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่พวกเขาก็รวมใจกันยิงคืนได้ถึง 4 ประตู โดยนอกจากที่ เจอร์ราร์ด จะยิงได้ลูกนึงแล้ว เขายังสร้างอีกหนึ่งโมเม้นท์ที่เป็นภาพจำของแฟนบอลทั่วโลกด้วยการวิ่งไปดีใจด้วยการจูบกล้องโชว์เสียฟอดใหญ่
7. ลื่นนี้โลกไม่ลืม
Salah celebrated the gerrard slip ? pic.twitter.com/gV8L5D2oce
— Andrew ? (@Mount__Szn) January 13, 2021
ฤดูกาล 2013/14 ลิเวอร์พูล เข้าใกล้การได้แชมป์ลีกแรกของตัวเองในรอบเกือบ 30 ปี และการออกไปเยือน เชลซี ก็ดูจะไม่ใช่งานที่ยากเย็นอะไรเพราะ มูรินโญ เองก็เลือกที่จะพักตัวหลักไว้ในเกม ยุโรป ที่กำลังจะมาถึง
หงส์แดง พับสนามบุกใส่ สิงห์บลู อยู่ตลอดทั้งเกมก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ เจอร์ราร์ด ลื่นล้มจนโดน เดมบา บา ฉกบอลไปยิงประตูออกนำได้ 1-0 และมาได้บวกอีกลูกในเวลาต่อมา
8. แดง 38 วิ
5 years ago today, Steven Gerrard got sent off after 38 seconds for a tackle on Ander Herrera. His last game against United.
— ? (@ftblabbas) March 23, 2020
RED CARD TAKEN QUICKLYY. pic.twitter.com/57BDJs8Zjn
เจอร์ราร์ด ปิดฉากเกมแดงเดือดสุดท้ายของตัวเองในปี 2015 ได้ไม่ค่อยสวยนักหลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังและใช้เวลาเพียง 38 วินาทีเรียกใบแดงให้ตัวเองจากการย่ำใส่ อันเดร์ เอเรร์รา โดยไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด