เปิดกรุ 7 ดาวเตะ บาร์ซ่า ใส่เสื้อเบอร์ 10 ก่อนถึงมือ ฟาติ - FEATURE

FC Barcelona  v Juventus - Joan Gamper Trophy
FC Barcelona v Juventus - Joan Gamper Trophy / Quality Sport Images/Getty Images
facebooktwitterreddit

ถือว่าเป็นหมายเลขในตำนานลูกหนังโลกได้เลย สำหรับเสื้อ เบอร์ 10 เพราะว่าพ่อค้าแข้งที่ได้สวมใส่หมายเลขนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะระดับโลกกันทั้งนั้น โดยเฉพาะเหล่าดาวเตะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่เคยโชว์ฝีเท้าให้กับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ในช่วงทศวรรษ 80 ไปจนถึง 90 มาก่อน ไล่ตั้งแต่ แกรี ลินิเกอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ, ไมเคิล เลาดรู๊ป ตำนานกองกลางทีมชาติเดนมาร์ก, จอร์จี้ ฮาจี้ ตำนานกองกลางทีมชาติโรมาเนีย รวมถึง โรมาริโอ อดีตกองหน้าทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1994 เป็นต้น

ส่วนในฤดูกาล 2021/2022 บาร์เซโลน่า ได้มอบเสื้อเบอร์ 10 ให้กับ อันซู ฟาติ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติสเปนวัยเพียง 18 ปีที่เป็นเด็กปั้นจาก "ลา มาเซีย" ศูนย์ฝึกแข้งเยาวชนของสโมสรอันเลื่องชื่อ เพราะสามารถฉายแววเด่นมาได้สักพักหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่แจ้งเกิดในวงการลูกหนังโลกเมื่อปี 2019 แต่เจออาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักยาวไปร่วมปี เพื่อให้ช่วยสานต่อความเป็นตำนานของเสื้อหมายเลขนี้ต่อจาก 7 ดาวเตะระดับโลกที่เคยสวมเสื้อเบอร์ 10 ของ "เจ้าบุญทุ่ม" และสามารถจารึกตำนานทิ้งเอาไว้ในถิ่นคัมป์ นู ได้มากมายตามรายชื่อดังต่อไปนี้เลย

SOCCER-LASZLO KUBALA
SOCCER-LASZLO KUBALA / STAFF/Getty Images

ลาสซ์โล คูบาล่า

เริ่มต้นกันด้วย ลาสซ์โล คูบาล่า ตำนานกองหน้าผู้ล่วงลับชาวฮังการีตามถิ่นกำเนิด ซึ่งได้ย้ายมาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1951-1961 โดยเป็นนักเตะในรุ่นราวคราวเดียวกับ เฟเรนซ์ ปุสกัส อีกหนึ่งตำนานดาวยิงผู้ล่วงลับของทีมชาติฮังการีที่เคยค้าแข้งกับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทีมคู่ปรับตลอดกาลในช่วงทศวรรษ 50-60 นั่นเอง ทั้งนี้ คูบาล่า ถือว่าเป็นคนแรกๆ ที่ได้สร้างชื่อจากสวมเสื้อหมายเลข 10 ของ บาร์ซ่า พร้อมกับฝากผลงานยิงประตูในทุกรายการได้มากถึง 281 ลูกเลยทีเดียว และมีส่วนช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ได้ถึง 4 สมัยเลยด้วย

Primera Division - Barcelona
Primera Division - Barcelona / VI-Images/Getty Images

ดีเอโก้ มาราโดน่า

ไปต่อกันที่ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานจอมทัพผู้ล่วงลับของทีมชาติอาร์เจนติน่า ซึ่งเคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า เมื่อตอนสมัยที่เพิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการฟุตบอลโลกระหว่างปี 1982-1984 โดยย้ายมาจาก โบคา จูเนียร์ส ในบ้านเกิดด้วยค่าตัวเป็นสถิติแพงที่สุดของโลกในยุคนั้นสูงถึง 5 ล้านปอนด์ และได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ในยุคสมัยที่ยังไม่มีการปักชื่อบนหลังเสื้อเพื่อกำหนดเบอร์ของแต่ละคนแบบตายตัวไปเลย แม้จะฝากผลงานสุดแจ่มยิงประตูได้ 38 ลูกจากการลงสนาม 58 เกมในทุกรายการ แต่ด้วยความที่เป็น "ศิลปินลูกหนัง" จึงมีปัญหาขัดแย้งกับผู้บริหารสโมสรอยู่บ่อยๆ ทำให้เจ้าของสมญานามแบบไทยๆ ว่า "เสือเตี้ย" ตัดสินใจขอย้ายทีมในช่วงหลังโชว์ฝีเท้าในถิ่นคัมป์ นู ได้เพียงแค่ 2 ฤดูกาล เพื่อไปซบ นาโปลี ในปี 1984 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติแพงที่สุดของโลกในยุคนั้นสูงถึง 6.9 ล้านปอนด์นั่นเอง

Josep Guardiola of Barcelona
Josep Guardiola of Barcelona / Clive Brunskill/Getty Images

โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า

ส่วนในรายของ "เป๊ป" โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า อดีตกองกลางทีมชาติสเปนเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เคยสวมเสื้อเบอร์ 10 ของ บาร์เซโลน่า ในยุคสมัยที่ยังไม่มีการปักชื่อบนหลังเสื้อเพื่อกำหนดเบอร์ของแต่ละคนแบบตายตัวไปเลยด้วยเช่นกัน โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังโลกจากการเป็นเด็กปั้นของสโมสร หลังจากนั้นได้รับการเลื่อนชั้นให้ขึ้นมาปักหลักกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 1990-2001 และได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ลงสนามในเกมนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ หรือที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปัจจุบันอีกด้วย โดยเกมนั้นเป็นฝ่ายเฉือนชนะ ซามพ์โดเรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 จึงมีชื่ออยู่ในทีมชุดยึดบัลลังก์ "เจ้าสโมสรยุโรป" ได้เป็นครั้งแรกไปด้วยเลย และได้ผันตัวเองมาสวมบทเป็นยอดกุนซือในช่วงหลังเลิกค้าแข้งเมื่อปี 2006 เป็นต้นมา โดยฝากผลงานลงเล่นให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ในทุกรายการไปทั้งหมด 382 เกม ยิงได้ 11 ประตู

Hristo Stoichkov of Barcelona
Hristo Stoichkov of Barcelona / Shaun Botterill/Getty Images

ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ

ด้าน ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ ตำนานกองหน้าทีมชาติบัลแกเรียเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เคยสวมเสื้อเบอร์ 10 ของ บาร์เซโลน่า ในยุคสมัยที่ยังไม่มีการปักชื่อบนหลังเสื้อเพื่อกำหนดเบอร์ของแต่ละคนแบบตายตัวไปเลยด้วยเช่นกัน หลังย้ายมาจาก ซีเอสเคเอ โซเฟีย ในบ้านเกิดเมื่อปี 1990 โดยเคยโชว์ฝีเท้าในถิ่นคัมป์ นู ถึง 2 รอบ ระหว่างปี 1990-1995 และในช่วงระหว่างปี 1996-1998 นอกจากนี้ยังมีชื่ออยู่ในทีมชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เมื่อปี 1992 แถมยังเคยได้รับเลือกให้คว้ารางวัล "บัลลงดอร์" ในฐานะนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปเมื่อปี 1994 เพราะทำผลงานในศึกฟุตบอลโลก 1994 ได้โดดเด่นมากๆ โดยฝากผลงานยิงประตูให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ได้มากถึง 117 ลูกจากการลงสนามในทุกรายการไปทั้งหมด 255 เกม

Rivaldo
Rivaldo / Clive Brunskill/Getty Images

ริวัลโด้

ขณะที่ ริวัลโด้ ตำนานกองกลางทีมชาติบราซิลเคยย้ายมาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1997-2002 หลังย้ายมาจาก เดปอร์ติโบ ลา คอรุญ่า ในปี 1997 และได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ในยุคที่มีปักชื่อบนหลังเสื้อแล้ว โดยฝากผลงานยิงประตูได้มากถึง 129 ลูกจากการลงสนามในทุกรายการไปทั้งหมด 235 เกม และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ได้ถึง 2 ติดต่อกันในช่วงระหว่างปี 1998-1999 แถมยังเคยได้รับเลือกให้คว้ารางวัล "บัลลงดอร์" ในฐานะนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปเมื่อปี 1999 และเคยนำทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ได้ด้วย

Ronaldinho
Barcelona v Werder Bremen - UEFA Champions League Group C / Etsuo Hara/Getty Images

โรนัลดินโญ่

ไปต่อกันที่ โรนัลดินโญ่ ตำนานกองกลางทีมชาติบราซิลเคยย้ายมาสวมเสื้อเบอร์ 10 ให้กับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 2003-2008 หลังย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2003 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเป็นขุมกำลังสำคัญในทีมชุดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2006 และเคยได้รับเลือกให้คว้ารางวัล "บัลลงดอร์" ในฐานะนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปเมื่อปี 2005 โดยฝากผลงานยิงประตูได้ 94 ลูกจากการลงสนามในทุกรายการไปทั้งหมด 207 เกม

FC Barcelona vs Alaves: La Liga
FC Barcelona vs Alaves: La Liga / Anadolu Agency/Getty Images

ลิโอเนล เมสซี่

ปิดท้ายด้วย ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังโลกจากการเป็นเด็กปั้นของสโมสร และได้รับการเลื่อนชั้นให้ขึ้นมาปักหลักกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2004-2021 หลังจากนั้นได้เป็นเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ต่อจาก โรนัลดินโญ่ ในปี 2008 แบบยาวๆ ไปเลย จึงได้สร้างผลงานความเป็น "ที่สุด" ทิ้งเอาไว้ในถิ่นคัมป์ นู มากมายหลายอย่างเลย โดยเฉพาะการเป็นเจ้าของตำนานดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรด้วยจำนวน 709 ประตูจากการลงสนามรับใช้สโมสรในทุกรายการมากที่สุดถึง 778 เกมเลยทีเดียว และนำทีมคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ได้ถึง 10 สมัย รวมถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 4 สมัยด้วย นอกจากนี้เคยได้รับเลือกให้คว้ารางวัล "บัลลงดอร์" ในฐานะนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปมากที่สุดในวงการลูกหนังโลกถึง 6 สมัยเลยทีเดียว

ส่วนหลังจากนั้น อันซู ฟาติ จะต้องพิสูจน์ฝีเท้าของตัวเองเพื่อตามรอยความสำเร็จของพวกนักเตะในตำนานที่เคยสวมเสื้อ เบอร์ 10 ให้กับ บาร์เซโลน่า มาก่อนนั่นเอง

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด