6 นักเตะได้คัมแบ็ก แมนฯ ยูไนเต็ด รอบ 2 ก่อนถึงคิว โรนัลโด้ - FEATURE

Manchester United v Newcastle United - Premier League
Manchester United v Newcastle United - Premier League / Laurence Griffiths/Getty Images
facebooktwitterreddit

ได้หวนกลับคืนสู่ถิ่นเดิมที่เคยใช้สร้างชื่อในวงการลูกหนังโลกอีกครั้ง สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะกัปตันทีมชาติโปรตุเกส เพราะได้ตัดสินใจย้ายจาก "ม้าลาย" ยูเวนตุส เพื่อกลับมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นรอบที่ 2 ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2021/2022 นั่นเอง โดยรอบแรกเคยผลงานจากตอนที่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ระหว่างปี 2003-2009 ไปทั้งหมด 292 เกมในทุกรายการ และยิงประตูได้มากถึง 118 ลูกเลยด้วย

แต่ว่า โรนัลโด้ ไม่ได้เป็นนักเตะคนแรกที่ได้ย้ายกลับมาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งที่ 2 เพราะก่อนหน้านี้มีอยู่ถึง 6 คนที่ได้เคยหวนกลับคืนสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มาแล้วตามรายชื่อดังต่อไปนี้เลย

WIMBLEDON V MAN U
WIMBLEDON V MAN U / Mike Hewitt/Getty Images

มาร์ค ฮิวจ์ส

เริ่มต้นกันด้วย มาร์ค ฮิวจ์ส อดีตกองหน้าทีมชาติเวลส์ ซึ่งต้องย้อนหลังกลับไปในช่วงทศวรรษ 80 โน้นเลย โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังจากการเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปี 1980 หลังจากนั้นได้ย้ายไปค้าแข้งในถิ่นต่างแดนกับ บาร์เซโลน่า ในปี 1986 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่หวัง และถูกปล่อยให้ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัวไปใช้งานในปี 1987 อีกด้วย ก่อนจะได้ย้ายกลับคืนสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นรอบที่ 2 ในปี 1988 ซึ่งอยู่ในยุคของกุนซือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และได้ปักหลักอยู่จนถึงปี 1995 โดยหลังจากนั้นได้พเนจรย้ายไปค้าแข้งกับ เชลซี, เซาแธมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน รวมถึง แบล็คเบิร์น ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายในอาชีพนักเตะ เพราะได้ตัดสินใจ "แขวนสตั๊ด" เลิกเล่นฟุตบอลในปี 2002 พร้อมกับหันไปสวมบทเป็นกุนซือคุมทีมต่างๆ ในศึกพรีเมียร์ลีก และเคยผ่านงานคุมทีมชาติบ้านเกิดมาก่อนด้วย โดยฝากผลงานลงสนามรับใช้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกรายการจากทั้ง 2 รอบไปทั้งหมด 473 เกม ยิงประตูได้ 163 ลูก

Les Sealey of West Ham
Les Sealey of West Ham / Mark Thompson/Getty Images

เลส ซีลีย์

สำหรับคนต่อมาคือ เลส ซีลีย์ นายทวารผู้ล่วงลับชาวอังกฤษ ซึ่งต้องย้อนหลังกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 90 โดยได้ย้ายมาจาก ลูตัน ทาวน์ แบบยืมตัวในปี 1990 และได้เซ็นสัญญาย้ายมายืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 1990/1991 เพียงแค่ซีซั่นเดียวเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้ย้ายไปซบ แอสตัน วิลล่า แบบไม่มีค่าตัว และได้หวนกลับคืนสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งที่ 2 ในปี 1993 แต่ไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงแม้แต่เกมเดียว เพราะเป็นตัวสำรองในฐานะมือ 3 นั่นเอง หลังจากนั้นได้ขอพเนจรย้ายไปค้าแข้งกับทีมต่างๆ และได้ตัดสินใจ "แขวนถุงมือ" เลิกอาชีพเฝ้าเสากับ เวสต์แฮม เป็นทีมสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งเมื่อปี 2001 และได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายแบบเฉียบพลันในช่วงปีเดียวกัน โดยฝากผลงานลงสนามรับใช้ "ปีศาจแดง" ในทุกรายการจากทั้ง 2 รอบไปทั้งหมด 55 เกม

Villa v Man Utd X
Villa v Man Utd X / Ross Kinnaird/Getty Images

มาร์ค บอสนิช

ไปต่อกันที่ มาร์ค บอสนิช อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติออสเตรเลีย ซึ่งต้องย้อนหลังกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 80 โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังจากตอนที่ถูกดึงเข้ามาเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1989 แต่ตอนนั้นไม่สามารถเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพได้จากปัญหาเรื่องของวีซ่า จึงต้องปล่อยให้ย้ายกลับบ้านเกิดไปแบบน่าเสียดาย หลังจากนั้น แอสตัน วิลล่า ได้ดึงกลับมาค้าแข้งบนเกาะอังกฤษ และโชว์ฝีมือการเซฟประตูได้แบบเหนียวหนึบ และได้ย้ายกลับมายืนเฝ้าเสาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบไม่มีค่าตัว เพื่อสวมบทเป็นตัวตายตัวแทนของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตำนานมือหนึ่งที่ขอโบกมืออำลาในปี 1999 นั่นเอง แต่กลับมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมเรื่องนอกสนาม จึงถูกโละทิ้งให้ย้ายไปซบ เชลซี แบบฟรีๆ ในปี 2001 หลังจากนั้นมีปัญหาเรื่องยาเสพติดจากการเสพโคเคน ทำให้หมดอนาคตในวงการฟุตบอลไปเลย โดยฝากผลงานลงสนามรับใช้ "ปีศาจแดง" ในทุกรายการจากทั้ง 2 รอบไปทั้งหมดเพียง 38 เกม

Paul Scholes
Manchester United v Queens Park Rangers - Premier League / Laurence Griffiths/Getty Images

พอล สโคลส์

ส่วนในรายของ พอล สโคลส์ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ถือว่าเป็นการหวนกลับมาค้าแข้งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 2 รอบได้เหมือนกัน โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังจากการเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ "ปีศาจแดง" และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปี 1993 พร้อมกับอยู่ปักหลักจนกลายเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะแห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปเลย แม้ตัดสินใจ "แขวนสตั๊ด" เลิกอาชีพค้าแข้งในปี 2011 แต่ได้หวนกลับมาช่วยทีมในฤดูกาล 2012/2013 เพียงแค่ซีซั่นเดียวเท่านั้น โดยฝากผลงานลงสนามรับใช้สโมสรเดียวที่ได้ค้าแข้งด้วยในทุกรายการจากทั้ง 2 รอบไปทั้งหมด 718 เกม ยิงประตูได้ 155 ลูก

Paul Pogba
BSC Young Boys v Manchester United: Group F - UEFA Champions League / Jonathan Moscrop/Getty Images

ปอล ป๊อกบา

ด้าน ปอล ป๊อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ได้หวนกลับมาค้าแข้งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 2 รอบด้วยเช่นกัน โดยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังจากการเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ "ปีศาจแดง" และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปี 2011 แต่ว่าตัดสินใจไม่ยอมสัญญาฉบับใหม่ เพื่อเก็บข้าวของย้ายไปร่วมทัพ ยูเวนตุส ในปี 2012 แบบไม่มีค่าตัว และโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจมากๆ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงินดึงกลับมาโชว์ฝีเท้าในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งในปี 2016 ด้วยค่าตัวสูงถึง 89 ล้านปอนด์ ซึ่งเคยเป็นสถิตินักฟุตบอลที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกในตอนนั้นอีกด้วย และยังคงอยู่ปักหลักค้าแข้งมาจนถึงปัจจุบันเลยด้วย โดยฝากผลงานลงสนามรับใช้ "ปีศาจแดง" ในทุกรายการจากทั้ง 2 รอบนับจนถึงช่วงหลังจบฤดูกาล 2020/2021 ไปทั้งหมด 199 เกม ยิงประตูได้ 38 ลูก

Tom Heaton
Manchester United v Brentford - Pre-season Friendly / Visionhaus/Getty Images

ทอม ฮีตัน

ปิดท้าย ทอม ฮีตัน ผู้รักษาประตูชาวอังกฤษ เคยเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการลูกหนังจากการเป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปี 2005 แต่ไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริงแม้แต่นัดเดียว และถูกปล่อยให้ทีมอื่นๆ ยืมตัวไปใช้งานแบบต่อเนื่องเลยด้วย จึงได้ตัดสินใจขอย้ายออกไปยืนเฝ้าเสาให้หลายๆ สโมสรตั้งแต่ปี 2010 และได้หวนกลับมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นรอบที่ 2 ในช่วงหลังหมดสัญญากับ แอสตัน วิลล่า ในปี 2021 โดยถูกวางตัวให้เป็นตัวสำรองในฐานะมือ 3 นั่นเอง

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด