ย้อนรอย เชลซี มองข้ามแข้งฝังเพชรปล่อยทิ้งถึง 5 ราย - FEATURE
สโมสรฟุตบอลเชลซี แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพิ่งบรรลุข้อตกลงคว้าตัว โรเมลู ลูกากู จาก อินเตอร์ มิลาน ร่วมทัพด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นสถิติสโมสรที่ 97.5 ล้านปอนด์ นับเป็นการรีเทิร์นสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นครั้งที่ 2 ของหัวหอกทีมชาติ เบลเยียม
เพราะเป็นหนึ่งในทีมลูกหนังระดับมหาเศรษฐี ทำให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" พร้อมจ่ายเงินซื้อนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาเสริมทัพเอาไว้ก่อน หากเห็นว่ามีแววเจิดจรัสได้ในอนาคต ส่วนจะนำไปใช้งานหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่มีอยู่หลายคนที่ถูกมองข้ามในฝีเท้า และถูกปล่อยให้ย้ายไปโด่งดังกับทีมอื่นๆ แทนเหมือนอย่าง 5 แข้งฝังเพชรที่เคยถูกหมางเมินตามรายชื่อดังต่อไปนี้เลย
ดีแคลน ไรซ์
เริ่มต้นด้วย ดีแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 22 ปี ซึ่งเคยก้าวเท้ามาเป็นนักเตะฝึกหัดในอคาเดมี่ของ เชลซี ในปี 2006 เมื่อตอนที่มีอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น แต่ยังเด็กเกินกว่าที่จะฉายฟอร์มเด่นออกมาได้ จึงถูกปล่อยให้ย้ายไปเป็นเด็กปั้นของ เวสต์แฮม ในปี 2015 และสามารถเปล่งประกายแสงออกมาจนได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพไปเลย พร้อมกับก้าวเท้าขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมต้นสังกัดปัจจุบันได้สำเร็จ และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากบรรดายักษ์ใหญ่ ซึ่งรวมถึง เชลซี ที่ตกเป็นข่าวว่าอยากจะทุ่มเงินคว้าตัวกลับคืนสู่ถิ่นเดิมอยู่เหมือนกัน โดยคาดว่าตอนนี้มีค่าสูงถึง 100 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
ธอร์ก็อง อาซาร์
ไปต่อกันที่ ธอร์ก็อง อาซาร์ กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยม ซึ่งย้ายมาจาก ลองส์ ในปี 2012 หรือในช่วงเวลาเดียวกันกับตอนที่พี่ชาย นั่นก็คือ เอเดน อาซาร์ ย้ายมาจาก ลีลล์ นั่นเอง แต่ไม่ได้รับโอกาสให้เลื่อนชั้นจากทีมเยาวชนขึ้นไปแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ ทำให้ เชลซี ตัดสินใจขายให้กับ "สิงห์หนุ่ม" โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในปี 2015 ด้วยค่าตัวเพียง 5.9 ล้านปอนด์ และสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนได้ย้ายไปร่วมทัพ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2019 โดยเป็นตัวหลักของทีมต้นสังกัดปัจจุบัน รวมถึงในยามที่ลงสนามรับใช้บ้านเกิดอีกด้วย
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
ส่วนในรายของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ดาวเตะทีมชาติอียิปต์เป็นแข้งดังอีกหนึ่งรายที่เคยโดน เชลซี มองข้ามมาก่อนเหมือนกัน แม้จะลงทุนคว้าตัวมาจาก บาเซิ่ล ในปี 2014 ด้วยค่าตัว 14.85 ล้านปอนด์ แต่แทบจะไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเลย ก่อนจะถูกปล่อยให้ "หมาป่า" โรม่า แบบถาวรในปี 2016 ด้วยค่าตัวเพียง 13.5 ล้านปอนด์ เพราะติดใจฝีเท้าจากตอนที่ยืมตัวมาใช้งานนั่นเอง และสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาโชว์ได้แบบโดดเด่นเหลือเกิน ทำให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยอมจ่ายเงินเพื่อคว้ามาร่วมทีมในปี 2017 ด้วยค่าตัวสูงถึง 37.8 ล้านปอนด์ พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในแข้งระดับโลกของยุคปัจจุบันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เควิน เดอ บรอยน์
ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยมเคยโดน เชลซี มองข้ามมาก่อนด้วยเช่นกัน โดยตอนนั้นได้ย้ายมาจาก เกงค์ ในช่วงที่เพิ่งแจ้งเกิดบนเวทีลูกหนังโลกในปี 2011 ด้วยค่าตัวเพียง 7.2 ล้านปอนด์ แต่ไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลย ก่อนจะถูกปล่อยให้ย้ายซบ โวล์ฟสบวร์ก แบบถาวรในปี 2013 ด้วยค่าตัว 19.8 ล้านปอนด์ หลังจากที่เคยให้ยืมตัวไปใช้งานมาก่อนนั่นเอง และสามารถโชว์ฟอร์มได้แบบขั้นเทพ ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมทุ่มเงินคว้ามาร่วมทีมในปี 2015 ด้วยค่าตัว 68.4 ล้านปอนด์ และยังคงเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย
โรเมลู ลูกากู
ปิดท้ายด้วย โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม ซึ่งย้ายมาจาก อันเดอร์เลชท์ ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 13.5 ล้านปอนด์ แต่ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ของ เชลซี ได้สำเร็จ จึงถูกปล่อยให้ทีมอื่นๆ ยืมตัวไปใช้งานแบบต่อเนื่องเลย หลังจากนั้น เอฟเวอร์ตัน ได้ขอซื้อมาร่วมทีมแบบถาวรในปี 2014 ด้วยค่าตัว 31.8 ล้านปอนด์ และสามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในดาวยิงระดับหัวแถวของโลกยุคปัจจุบัน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด